The International Lucky Charm

ผมได้ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานมาอย่างหลากหลาย จากการศึกษาติดตามมานานผมสามารถจับจุดได้อย่างหนึ่งว่า ในหลายเรื่องราว เรื่องเล่าหรือตำนานนั้น ในทุก ๆ ตัวเอกของการดำเนินเรื่องมักจะมีการกล่าวถึงเรื่องของความโชคดี เรื่องโชคลาง หรือมีการพกเครื่องรางของขลังติดตัวอยู่บ่อยครั้ง จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ผมมักจะหยิบยกเรื่องราวของเครื่องรางมาเขียนให้ท่านผู้อ่านติดตาม แต่ที่ผ่านมาผมมักเขียนเรื่องของเครื่องรางของขลังของไทยเสียส่วนใหญ่ ด้วยอาจจะเป็นในเรื่องการหาข้อมูลที่ง่ายรวมไปถึงความรู้สึกที่ใกล้ตัว แต่มาในครั้งนี้ผมจะนำเสนอเรื่องราวของเครื่องรางสิ่งนำโชคในต่างประเทศบ้าง ว่าในต่างประเทศนั้นมีความเชื่อและสิ่งนำโชคเช่นไรและแตกต่างจากของประเทศไทยอย่างไรบ้าง ไปชมกันเลยครับ

เกือกม้า (Horseshoe)

ชาวต่างประเทศโดยเฉพาะชาติทางตะวันตกนั้นนิยมในการติดหรือแขวนเกือกม้าเอาไว้หน้าบ้านหรือหน้าประตูบ้าน โดยมีความเชื่อว่าเกือกม้านั้นนำมาซึ่งความโชคดี ความสุขความเจริญ โชคลาภ รวมไปถึงการขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ออกไปไม่ให้มีเรื่องร้าย ๆ เข้ามา แต่มีข้อแม้อยู่อย่างหนึ่งก็คือต้องเป็นเกือกม้าเก่า หรือ เป็นเกือกม้าที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว ยิ่งเก่าจนหลุดออกมาจากเท้าของม้ายิ่งขลัง มีเรื่องราวเรื่องเล่าตำนานเกี่ยวกับเกือกม้าอยู่หลายแนว แต่ที่กล่าวถึงมากที่สุดคือเรื่องของซาตานจำแลงกายมาก่อเรื่องชั่วร้าย ได้ถูกปราบโดย อาร์คบิชอป แห่งแคนเทอเบอรี่ ซึ่งจัดการโดยการตอกเกือกม้าลงบนกีบเท้าของซาตาน ทำให้มันเจ็บปวดทุกข์ทรมานจนต้องยอมศิโรราบ ทั้งนี้ซาตานได้ขอร้อง ให้ปล่อยตนจนนำมาด้วยเงื่อนไขการปล่อยตัวที่ว่า อาร์คบิชอปจะถอดเกือกม้าออกจากเท้าและปล่อยซาตานไป แต่ห้ามซาตานสร้างความเดือดร้อนแก่ครอบครัว ที่มีเกือกม้าติดอยู่หน้าบ้าน ซึ่งซาตานก็ยอมตกลงตามนั้น เกือกม้าจึงกลายเป็นเครื่องรางขับไล่สิ่งชั่วร้ายมาด้วยเหตุนี้ ทั้งนี้ความเชื่อในเรื่องของเกือกม้านั้นมีอยู่ อย่างแพร่หลายมาก แต่ปัจจุบันการหาเกือกม้าจริงมาทำเครื่องรางนั้นหาได้ยากและพกพาไม่สะดวก จึงมีการทำเกือกม้าขนาดเล็กออกมาในรูปของเครื่องประดับ และใช้โลหะมีค่าเช่นทองหรือชุบสีทองเพื่อเน้นถึงเรื่องโชคลาภ และมีแบรนด์กระเป๋าและแฟชั่นบางแบรนด์ได้นำเอาเกือกม้าไปเป็นลวดลายโลโก้ของกระเป๋าอีกด้วย

ขากระต่าย (Rabbit Foot)

ขาหรือตีนกระต่ายเป็นเครื่องรางเก่าแก่ ที่นำมาซึ่งโชคดี ความสำเร็จ ความร่ำรวย ความสุขสมบูรณ์ โชคจากการพนัน และช่วยคุ้มกันภัย เนื่องจากกระต่ายเป็นสัตว์ที่มีความปราดเปรียวว่องไว และตื่นตัวอยู่เสมอ แทนกุศโลบายของการระแวดระวังภัย ซึ่งตีนกระต่ายนั้นนิยมนำมาทำเป็นพวงกุญแจพกติดตัว ความนิยมและความเชื่อนี้มีทั้งในฝั่งยุโรปและฝั่งอเมริกา แต่ในประเทศอังกฤษมีการค้นพบเครื่องรางโบราณที่ทำจากเท้าของตัวตุ่นด้วย โดยเชื่อกันว่าสรรพคุณนั้นจะคล้ายกับตีนกระต่าย ต่างกันตรงที่ว่า หากแขวนตีนตัวตุ่นไว้ที่เตียงนอนจะช่วยป้องกันให้ไม่เป็นตะคริวหรือ โรคปวดข้อในขณะนอนหลับอีกด้วย

ฟันจระเข้ (Crocodile Tooth)

ฟันจระเข้นั้นเป็นเครื่องรางที่เชื่อกันว่า จะนำโชคดีในเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ และเน้นหนักที่สุดคือเรื่องของการเสี่ยงโชคการพนันมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งนอกจากฟันของจระเข้ที่ว่านำโชคแล้ว กล่าวกันว่า เท้าของจระเข้นั้นก็เป็นอีกเครื่องรางนำโชคทางการพนันที่ให้ผลไม่ต่างกันและด้วยเหตุนี้หลายครั้งเราก็จะได้เห็นกระเป๋าหนังจระเข้ที่มีชิ้นส่วน ของส่วนหัว หรือส่วนของเท้าจระเข้อยู่บ่อย ๆ ให้เป็นกระเป๋านำโชคของนักเสี่ยงดวงนั่นเอง

ใบโคลเวอร์สี่กลีบ (Four Leaf Clover)

ในมังงะของญี่ปุ่นเราจะเห็นอยู่หลายครั้งที่ตัวละครจะไปอยู่ในดงดอกโคลเวอร์ และพยายามค้นหาใบสี่กลีบมาให้ผู้อื่นโดยเชื่อว่าจะนำมาซึ่งความโชคดี ในเกมส์ RPG ก็มีหลายเกมที่มี ใบโคลเวอร์สี่กลีบเป็นไอเท็มที่มีส่วนช่วยเสริมความสามารถของตัวละครอยู่มากมาย ใบโคลเวอร์นั้นตามปกติแล้วจะมีเพียงแค่ 3 กลีบ ส่วนใบที่มี 4 กลีบนั้นหากว่ากันตามวิทยาศาสตร์มันก็คือความผิดปกติของพันธุกรรมของต้นไม้ ซึ่งไม่ต่างจากมนุษย์ที่มีลูกแฝด แต่ความเชื่อ ก็คือความเชื่อครับเมื่อหาได้ยากก็เชื่อกันว่าดี ความเชื่อตั้งแต่โบราณเป็นต้นมานั้นมีความเชื่อมาโดยตลอดว่า ใบโคลเวอร์นั้นเป็นสิ่งให้โชค โดยจะเป็นใบที่มีพลังอันยิ่งใหญ่นำโชคดีมาให้ และให้โชคแก่ผู้ถือหรือเจ้าของได้ถึง 4 ประการ

แต่อย่ามองว่าใบ 3 กลีบนั้นจะไม่มีคุณค่าไม่ได้ให้โชคเหมือนใบ 4 กลีบ ในสมัยโบราณในการแต่งงานนั้น ผู้คนจะเอาใบโคลเวอร์ 3 กลีบ มาร้อยเป็นกำไล เป็นสร้อย บ้างก็เป็นมงกุฎให้กับคู่บ่าวสาว โดยเปรียบเสมือนตัวแทน บางท่านอาจเคยเห็นว่าในการ์ตูนต่างประเทศหรือภาพยนตร์รักโรแมนติกหลาย ๆ เรื่อง มักจะมีการกล่าวถึงใบโคลเวอร์ 4 กลีบ หรือ 4 แฉก ซึ่งปกติแล้วใบหญ้าเล็ก ๆ ชนิดนี้จะมีใบประกอบย่อยเพียง 3 ใบ ถ้าใครพบแบบที่มี 4 ใบ ซึ่งหาพบได้ยาก ก็ถือกันว่าจะโชคดี ฝรั่งเขาเชื่อว่าอย่างนี้คำมั่นสัญญาที่ชายหนุ่มมีให้ต่อหญิงคนรัก เพราะกลีบที่ 3 นั้นแสดงถึงความสมหวังในรักนั่นเอง

กระดูกอกไก่ (Wishbone)

แทะแล้วอย่าพึ่งโยนทิ้งไปครับ กระดูกตรงอกของไก่และสัตว์ปีกนั้นมีรูปร่างคล้ายตัว Y กระดูกชิ้นนี้ถือเป็นเครื่องรางนำโชคที่สามารถบันดาลให้หลายสิ่งที่ปรารถนาเป็นไปตามแรงอธิษฐานของผู้ถือ โดยผู้คนชาวตะวันตกมักจะนำออกมาจากอกไก่งวงที่รับประทานกันในคืนวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งก็เหมือนเป็นธรรมเนียมในการรับประทานทุกคนจะแย่งกันดึงอย่างสนุกสนาน เพื่อให้ได้ซึ่ง กระดูกตรงอก เสมือนการแย่งไอเท็มเกมจนกระดูกตรงส่วนกลางนั้นหักออก และเมื่อนำมาเทียบกันกระดูกของใครเป็นตัว Y ชิ้นใหญ่กว่ากันก็เชื่อกันว่าจะขอพรได้สำเร็จนั่นเอง ในส่วนอีกความเชื่อหนึ่งกล่าวว่า เมื่อได้กระดูกทั้งชิ้นมาแล้ว ให้นำมาอธิษฐานขอพร จากนั้นให้นำกระดูกไปเข้าเตาอบจนแห้งกรอบแล้วจึงนำมาเก็บไว้ พรนั้นจะสัมฤทธิ์ผล บ้างก็ว่านำกระดูก ทั้งชิ้นมาแขวนไว้หน้าบ้านเพื่อเป็นเครื่องรางประจำบ้าน เพื่อให้โชคดีเข้ามาสู่บ้านอีกด้วย

เกลือ (Salt)

ความเชื่อในเรื่องเกลือนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย ทางประเทศญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าเกลือเป็นสิ่งบริสุทธิ์ สะอาด ซึ่งนิยมใช้สาดขับไล่สิ่งที่ไม่ดีและไล่ภูตผีปีศาจให้ออกไปจากบ้านหรือถิ่นฐานของตน แต่ในขณะเดียวกันทางตะวันตกความเชื่อเรื่องเกลือนั้นต่างออกไป ทางตะวันตกนั้นมีความเชื่อที่ว่า การทำเกลือหกบนโต๊ะอาหารนี่ถือว่าเป็นเรื่องไม่ดีเอามาก ๆ จะนำเคราะห์ร้ายมาให้ อาจถึงขั้นสูญเสียคนในครอบครัว ซึ่งที่มาของความเชื่อนี้มาจากเรื่องของ The Last supper พระกระยาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซูคริสต์เจ้า ในการร่วมโต๊ะเสวยในครานั้น จูดาส์ได้ทำเกลือหก จึงกลายเป็นความเชื่อสืบต่อกันมา แต่เมื่อทำเกลือหกก็จะแก้เคล็ดได้ การแก้เคล็ดนั้นจะแก้ด้วยการโยนเกลือไปข้างหลัง ซึ่งต้องโยนเกลือข้ามไหล่ซ้ายไปข้างหลังเท่านั้น ซึ่งเชื่อกันว่าการทำอย่างนี้เป็นการขับไล่ปีศาจได้อีกด้วย