Pam Anshisa : Dance to the Rhythm of Life เพราะทุกจังหวะล้วนเป็นเธอ
แปม อัญญ์ชิสา ศิลป์ตระการผล ศิลปินสาวมากความสามารถ กับประสบการณ์ที่สั่งสมกว่า 7 ปี บนเส้นทางสายดนตรี ผ่านบทบาทอันหลากหลายที่เปิดโอกาสให้เราได้ทำความรู้จักเธอในแง่มุมที่ต่างกันออกไป ทั้งบทบาทหนึ่งในสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปวง GAIA บทบาทนักร้องสายหวานผู้มาพร้อมกับเสียงร้องอันทรงพลังภายใต้หน้ากากโพนี่ รวมถึงบทบาทการเป็นศิลปินเดี่ยวที่มาพร้อมกับเพอร์ฟอร์มสุดปัง และซาวด์ดนตรีที่น่าสนใจในนามของ Pam Anshisa
“แปมเริ่มร้องเพลงตั้งแต่เด็กเลยค่ะ ตั้งแต่ ป.4 ป.5 ฟังซีดีของพี่สาวแล้วลองร้องตามดู แล้วก็รู้สึกว่าเราร้องเพราะดี เริ่มรู้ตัวตั้งแต่ตอนนั้นว่าชอบฟังเพลงจังเลย พอช่วงประถมปลาย ๆ พี่สาวเรียนบัลเล่ต์ เรียนแจ๊สแดนซ์ พอไปดูเขาซ้อม เราก็ไปแอบเต้นตามบ่อย ๆ จำท่าได้โดยที่ไม่เคยเข้าไปเรียน แม่ก็เลยส่งเราไปเรียนเต้น แปมเลยชอบทั้งร้องทั้งเต้นควบคู่กันมาตลอด” แปม อัญญ์ชิสา
จากการร้องเพลงและเต้นในวันนั้น ส่งผลให้แปม อัญญ์ชิสาเริ่มให้ความสนใจในเรื่องของจังหวะและท่วงทำนองมากขึ้น และเมื่อเธอได้ทำความรู้จักกับศิลปินเกาหลีที่มีชื่อว่า BOA นี่จึงเป็นหนังในแรงผลักดันที่ทำให้เธอปักหมุดหมายการเป็นศิลปินไว้บนแผนที่ชีวิต
“คนแรกที่แปมคิดว่าโคตรอินเลยคนนั้นก็คือ BOA เหมือนเราไปเห็นเขาจากในอินเทอร์เน็ตแล้วเราก็แบบปิ๊งเลย น่ารักจังเลย ร้องเพลงดี เต้นเก่งมาก คือเขามีครบทุกอย่างเลยที่เราไม่เคยเห็นจากศิลปินทั่วไป ณ ตอนนั้น นี่แหละ BOA คือคนแรกที่จุดประกายความอยากเป็นศิลปินของเรา” แปม อัญญ์ชิสา
จากนั้นแปม อัญญ์ชิสาก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันรายการ Global Super Idol ปี 2012 ที่ประเทศเกาหลีใต้ คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 มาครอง และมีโอกาสได้เป็นหนึ่งในสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปวง GAIA เริ่มต้นบทบาทการเป็นศิลปินได้ตามที่หวัง ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ สั่งสมประสบการณ์ จนมีโอกาสได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับบทบาทการเป็นศิลปินเดี่ยวในนามของ Pam Anshisa สังกัด DUMB Recordings ภายใต้ Warner Music Thailand
Comeback Stage กลับมาในรอบ 1 ปี
แปม อัญญ์ชิสา : หลังจากห่างหายการปล่อยเพลงไปราวหนึ่งปี ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดขึ้นเพราะว่าเราเปลี่ยนค่ายด้วยอย่างแรก เราย้ายค่ายจาก Wayfer Records มา DUMB Recordings แต่ก็ยังอยู่ภายใต้ Warner Music Thailand คือพอย้ายปุ๊ปแล้วบวกกับเราได้ศึกษาตัวเอง ได้เจอว่าอยากจะไปทางไหนแล้วจริง ๆ มีการประชุมกันหลายรอบมาก ๆ ระหว่างประชุมกันก็มีพี่พีอาร์พูดขึ้นมาว่า ชื่อแปมโอเคนะ มันยังไม่มีใครใช้ชื่อนี้ในนามของศิลปิน แต่พอพูดว่าแปมอย่างเดียวมันสั้นไป ก่อนหน้านี้ชื่อแปมในนามศิลปินคือ PAAM มันสั้นไป เวลาไปออกสื่อหรือมีการแนะนำเรา คนก็จะแบบแปมไหนนะ ทุกคนในที่ประชุมรู้สึกว่ามันควรจะมีอะไรต่อท้ายไหม อีกอย่างเวลาไปที่ไหนคนมักจะเรียกเราว่า แปม GAIA ตลอด ซึ่งเราโอเคนะที่ทุกคนจะจำเราในชื่อนั้น มันไม่ใช่เรื่องแปลก เพียงแต่ว่าเราไม่สามารถแนะนำตัวเองในฐานะแปม GAIA ได้อีกแล้ว งั้นใช้ชื่อจริงเลยแล้วกัน ให้มันต่อกันไปเลยประมาณนั้น
ส่วนลุคแปมตอนนี้ แปมว่ามันก็ยังเป็นเราอยู่เหมือนเดิม อาจดูโตขึ้นนิดหน่อย แต่สิ่งที่คิดว่าเปลี่ยนไปจริง ๆ น่าจะเป็นเรื่องแนวเพลงหรือว่าสิ่งที่เราพูดในเพลงมากกว่า ซึ่งมันส่งให้ภาพของเราดูโตขึ้นไปอีกอะไรแบบนี้ ก็เป็นอะไรที่เราคิดว่ามันทำแล้วมันสบายใจที่สุดแล้วในตอนนี้ค่ะ
Pam Anshisa และเดือนมีนาคมของเธอ
แปม อัญญ์ชิสา : ก่อนหน้า Toxic แปมปล่อยเพลงออกมาช่วงมีนาคมปีที่แล้ว จริง ๆ ไม่ได้ล็อกเลยค่ะ มันบังเอิญที่เป็นแบบนั้น จังหวะมันใช่พอดี เหมือนกับครั้งแรกที่เราปล่อยเพลง เราเซ็นสัญญาช่วงต้นปีพอดี ก็เลยได้ปล่อยเพลงช่วงมีนาคม ผ่านไปสักพักเราปล่อยเพลงที่สองช่วงเดือนพฤศจิกายนเลย พอกลับมาอีกทีก็ประมาณมีนาคม จริง ๆ แล้วการปล่อยเพลงมันจะแบบหนึ่งเพลงแล้วพัก พักสองเดือนสามเดือนแล้วก็ปล่อยเพลงใหม่ แต่พอดีบังเอิญว่าปีที่แล้วมันมีช่วงโควิดมา เราก็มีการได้ศึกษาตัวเอง อยู่กับตัวเองมากขึ้น บวกกับมีการเปลี่ยนแปลงในค่ายมันเลยใช้เวลา ตอนแรกก็ว่าจะปล่อยเพลง Toxic ช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม แต่มีปัญหาเรื่องการถ่ายก็เลยเลทมาจนถึงมีนาคมค่ะ
Behind the Scenes เบื้องหลังการทำเพลง
แปม อัญญ์ชิสา : ประสบการณ์การทำงานตอนนี้กับก่อนหน้านี้แปมคิดว่ามันอาจจะไม่ได้แตกต่างมาก เพราะก่อนหน้านี้แปมอยู่ในขั้นตอนการทำงานกับร่วมโปรดิวเซอร์เหมือนกัน เวลาทำเพลงเราก็จะไปอยู่ด้วย คอยบอกว่าเราอยากได้เสียงแบบไหน แปมไม่ได้เล่นดนตรีเป็นแต่เหมือนกับว่าเราก็มีสิ่งที่จินตนาการเอาไว้ในหัว มีสิ่งที่เราอยากได้
สำหรับตอนนี้มันเหมือนกับเรามีส่วนร่วมเพิ่มเข้ามา เรามีวิธีการทำงานแบบใหม่ แบบขึ้นเพลงไปเองก่อน เขียนเมโลดี้ไปก่อนเลยทั้งเพลง ให้เมโลดี้มันนำความรู้สึกไปประมาณว่าเวิร์สมันจะร้องอย่างนี้นะ ฮุคมันจะเป็นอย่างนี้นะ แต่ว่ายังไม่ได้เป็นคำที่มีความหมายออกมา แล้วโปรดิวเซอร์ก็เอาไปทำดนตรีต่อ อันนี้เป็นวิธีใหม่ที่แปมเจอกับพี่แต๊บ (แต๊บ ธนพล มหธร หรือ Tabeazy) ที่เป็นโปรดิวเซอร์ แล้วเราก็อยู่กับเขาในขั้นตอนอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เขาขึ้นดนตรีหรือว่ามีการเรียบเรียง เขาจะเรียกเข้าไปนั่งฟังเลยว่าตรงนี้โอเคไหม ชอบไหม เรามีโอกาสได้แชร์ไอเดียเยอะขึ้น คือแปมอยากให้เพลงของเรามันเป็นป๊อปแดนซ์ แล้วให้มันมีเอเลเมนท์ที่คนที่ชอบเต้นฟังแล้วจะรู้สึกแบบมันดูมีจริตนะ แบบว่าตรงนี้ต้องเลื้อยแล้วประมาณนี้ แล้วก็ออกมาเป็น Toxic อย่างที่ทุกคนฟังกัน
เบื้องหลังความ Toxic
แปม อัญญ์ชิสา : แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากการที่เราเคยเจอความสัมพันธ์ที่มัน Toxic ในชีวิตมาค่ะ แบบว่าเคยเจอคนแย่ ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกแย่ ทำให้เรารู้สึกไม่ชอบตัวเอง แล้วก็ทำให้รู้สึกไม่ชอบเวลาที่เจอเขา มีช่วงหนึ่งที่เราอินเรื่องนี้มาก ๆ ถึงกับต้องไปพบจิตแพทย์ คือเราเหนื่อยมาก เลยต้องไปหาหมอ จริง ๆ เรื่องคน เรื่องสภาพแวดล้อม มันคือส่วนหนึ่งที่กำหนดเรา ณ ช่วงเวลานั้นว่าเราจะกลายเป็นคนยังไง หรือว่าเราจะมีสุขภาพจิตที่ดีหรือแย่ เราก็เลยอยากพูดเรื่องนี้มากเลย ชื่อเพลงคือมาก่อนเลย Toxic แล้วค่อยมาเขียนเรื่องราวที่หลัง พยายามปรับให้มันอยู่ในมุมเรื่องความรักมากขึ้น ซึ่งความสัมพันธ์แย่ ๆ แบบนี้แปมคิดว่ามันน่าจะเกิดขึ้นได้กับความรักหลายรูปแบบ
Cause your relationship is toxic
แปม อัญญ์ชิสา : เรื่อง Toxic Relationship ไม่ว่ามันจะอยู่ในรูปแบบไหน แฟน เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน แปมคิดว่าถ้าเรารู้สึกว่าเขาทำให้รู้สึกแย่ อย่างแรกเลยเราอาจจะต้องเช็คก่อนว่ามันเป็นเพราะว่าเขาจริง ๆ หรือเป็นเพราะเรา คือมันมีความอันตรายอยู่ในเรื่องนี้ เพราะว่าบางทีเราอาจจะไม่รู้ว่าเราเองที่ Toxic ถ้าเราไม่รู้แล้วได้รู้ เราก็แก้ได้ มันเหมือนว่าเราต้องมีการคุยกับตัวเองก่อน เข้าไปเจอมันก่อน แต่ถ้าไม่ใช่จากเรามันก็ต้องมีการคุยกับคู่กรณีก่อนเหมือนกัน ปรับความเข้าใจแหละพูดง่าย ๆ เราอาจจะพูดกับเขาตรง ๆ ว่าเรารู้สึกแบบนี้ ไม่ชอบแบบนี้ คือเคลียร์กันให้ได้ก่อน แล้วมาดูกันในระยะยาวว่ามันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นไหม เรารู้สึกดีขึ้นหรือเปล่าเวลาที่เจอกัน ถ้าสมมุติว่า ณ วันนึงมันแก้ไม่ได้แล้วจริง ๆ แบบมันยากมากเลยว่ะ เขาก็ดูไม่เคยเปลี่ยน แล้วเราก็ปรับตัวให้เข้ากับความเป็นเขาไม่ได้ แปมว่าสุดท้ายแล้วมันก็ต้องเดินออกมาแหละ มันเป็นวิธีการรักษาใจตัวเอง คือในเพลงมันเหมือนแบบเราอดทนมามากแค่ไหน มันทนมานานแล้ว มันถึงจุดนึงที่เราพอแล้วดีกว่า เดินออกมาดีกว่า
Feedback
แปม อัญญ์ชิสา : ตอนแรกที่ปล่อยเพลงไป เราอาจจะยังไม่ได้มีฟีดแบคอะไรมาก แต่พอแปมได้ไปออกรายการ T-Pop Stage พอเพลงมันถูกรับรู้มากขึ้นเราก็รู้สึกตื่นเต้นนะ ดีใจมาก ฟีดแบคส่วนใหญ่บอกว่ามันเป็นลุคที่เขาไม่เคยเห็นจากเรา ตัวเพลงให้ความรู้สึกว่ามันแปลกใหม่ ยิ่งคนที่ติดตามแปมมานานก็จะรู้สึกว่าอันนี้มันคือสิ่งที่เขารอคอยจากเรา แปมก็เลยรู้สึกแบบว่าฉันได้ให้คุณแล้วนะในสิ่งที่คุณอยากเห็น อยากฟัง ถือว่าโอเค โอเคมาก ๆ เลยค่ะที่มีคนชอบเพลงเรา
รสนิยมและการสร้างงาน
แปม อัญญ์ชิสา : ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้มันจะมีช่วงที่เราชอบฟังเพลงช้า ๆ เฮิร์ท ๆ มันเป็นช่วงที่เรารู้สึกว่าความรักคือทุกสิ่งของชีวิต แต่ตอนนี้พอเราโตขึ้น เราก็เปลี่ยนมาชอบอะไรที่มันโตขึ้นเหมือนกัน รู้สึกว่าเราอยากมีชีวิตที่สนุก ๆ แปมชอบฟังเพลงป๊อป ฟังเพลงสากลที่มีกรู๊ฟ มีความป๊อปแดนซ์ ป๊อปอาร์แอนด์บี โซลอาร์แอนด์บี หรือป๊อปอัลเทอร์เนทีฟ ฟังอยู่โซน ๆ นี้ แต่ในขณะเดียวกันก็คือชอบนักร้องที่ Vocal เก่ง ๆ อย่าง Ariana Grande คือนัมเบอร์วัน ชอบมาก แล้วก็ Bruno Mars, Billie Eilish, Madison Beer ประมาณนี้ค่ะ
ถ้าพูดถึงเรื่องรสนิยมมีผลต่อการสร้างงานไหม หู้วว ต้องมากนะ มากเลย มากถึงมากที่สุด แปมคิดว่าศิลปินทุกคนก็คงอยากจะทำเพลงในแบบที่ตัวเองชอบ เพราะว่าสุดท้ายแล้วถ้าเราเอาเพลงนั้นออกไปร้อง หรือปล่อยเพลงนั้นออกไป แต่ว่ามันไม่ใช่แบบที่เราต้องการก็คงเซ็งนะ นึกออกใช่ไหม คือเรามักได้ยินตลอดว่าเมื่อทำเพลงออกมามันจะเป็นผลงานของคุณตลอดไป ดังนั้นในเมื่อเป็นเพลงของเราก็ทำในแบบที่ชอบมันที่สุด ซึ่งความชอบมันคือรสนิยม ณ ตอนนั้นนะ อย่างเขาอินอะไร เขาชอบอะไร เขาถนัดอะไร ณ ช่วงเวลานั้น ทุกคนก็คงอยากทำให้สิ่งที่ตอนเองถนัดที่สุด ซึ่งพอเวลาผ่านไปรสนิยมก็อาจเปลี่ยนตามไปด้วยเหมือนกัน มันก็ยังเป็นเรา เป็นรสนิยมของเรา เป็นตัวเรา
1st Album Coming Soon
แปม อัญญ์ชิสา : เรื่องอัลบั้ม อืม ตอนนี้ที่คิด ๆ ไว้เราอยากทำอัลบั้มที่เป็นป๊อปแดนซ์อย่างที่บอก แล้วก็จะมีความแดนซ์ในหลาย ๆ รูปแบบ คือ Toxic มันจะเป็นป๊อปแดนซ์มีกลิ่นฟังก์ ในอัลบั้มมันอาจจะไม่ได้เป็นแบบเพลงนี้อย่างเดียว เราอยากให้มันมีดนตรีหลายแนวผสมกันในอัลบั้ม รวม ๆ ก็อยากจะทำให้เห็นในทุก ๆ มุมของแปม อารมณ์แบบเราเสียใจแล้วเราผ่านมันได้ยังไง อะไรที่ทำให้เราดีขึ้น คือความเป็นคนแหละ อยู่ในอัลบั้มของเรา แปมว่ามันจะเป็นอัลบั้มที่มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุดในทุก ๆ เพลงที่เราทำเลยค่ะ
เติบโตจาก Audition สู่ Toxic
แปม อัญญ์ชิสา : แปมคิดว่าก็โตขึ้นเยอะมาจากเพลงแรก แปมว่าเรามีพัฒนาการในเรื่องของวิธีคิดวิธีการทำงานบางอย่างที่ก่อนหน้านี้เราอาจจะรับมือไม่เป็น เราอาจจะไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไง ไม่รู้ว่าอันนี้มันดีหรือยัง คือปรับตัวได้ดีขึ้นเยอะเหมือนกัน แบบโอเคเราเริ่มรู้เริ่มจัดการถูกแล้วว่าเราควรจะมาทางนี้นะ ควรจะซ้ายหรือขวา ที่สำคัญคือก่อนหน้านี้เราเป็นคน Perfectionist มาก แบบเรามีภาพบางอย่างในหัวอยากให้มันเป็นอย่างนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ พอไม่เป็นอย่างที่คิดแล้วมันเซ็งมาก ทุกวันนี้เริ่มปล่อยวางแบบโอเคนะ ไม่มีอะไรที่มันจะแบบสมบูรณ์แน่ ๆ เราต้องปล่อยบ้างให้มันเป็นธรรมชาติ
เรื่องวิธีการคิดมันเป็นสิ่งสำคัญของการเติบโตในการทำงานเป็นศิลปินเหมือนกันนะ เพราะว่าเราจะต้องผลิตผลงานไปเรื่อย ๆ คือแปมไม่ได้คิดแค่ว่า โอเคเดี๋ยวทำเพลงหนึ่งสองสามสี่ ทุกวันนี้เราแปมคิดเป็นภาพใหญ่ว่าเราจะมีอัลบั้ม เราจะไปตรงไหน เรารู้ว่าการเป็นศิลปินมันไม่ใช่แค่เรามีแพสชั่นแล้วจบ ฉันก็แค่อยากทำเพลง อยากร้องเพลง จบ มันไม่ใช่ ทุกวันนี้เราเรียนรู้ว่าทุกสิ่งที่เราทำออกไปมันจะให้อะไรกับคนฟังได้บ้าง มันคือแบบการรับส่งพลังงานกันที่ดีที่สุด เริ่มคิดถึงเขาว่าเราจะให้อะไรกับเขาได้จากเพลงของเรา อย่าง Toxic ให้เขาได้รู้ว่าเราก็เคยเดินออกมาแล้วนะ คุณเองก็ทำได้เหมือนกัน
GAIA กับ Goodbye Stage
แปม อัญญ์ชิสา : ตอนที่ GAIA กลับมารวมตัวในรายการ LODI X NEXT IDOL เรารู้สึกว่าแบบทุกคนโตขึ้นมาก เราเข้าใจเพลง Love Potion ที่กำลังแสดงอยู่ เราเข้าใจมันมากขึ้นจากประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมา เอาจริง ๆ ก็ไม่คิดว่ามันจะมีเวทีนี้ให้เราขึ้นนะ คิดว่าแบบคงไม่มีแล้วแหละ มันแอบเป็นเหมือน Goodbye Stage อยู่เหมือนกันนะ เพราะเราต่างก็แยกย้ายไปทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ สิ่งที่ตัวเองถนัด มันก็สนุกดีค่ะ
T-Pop Comeback Stage
แปม อัญญ์ชิสา : ถามว่ารู้สึกยังไงกับการที่กระแส T-Pop เริ่มกลับมาคึกคักหรอ เราแอบอิจฉาเหมือนกันนะ สมัยนั้นมันยังไม่คึกคักเท่าตอนนี้ คือมันเป็นเรื่องของยุคสมัยด้วย เมื่อ 8 ปีที่แล้ว Spotify ก็ยังไม่มีคนใช้งานเท่านี้ ยังไม่มี Youtube Music ช่องทางในการที่คนเขาจะรู้ว่าเรามีตัวตน หรือแบบมาเจอกันกับเรามันอาจจะไม่ได้คึกคักเท่าปัจจุบันนี้ ซึ่งเราเองก็ดีใจ ดีใจด้วยที่น้อง ๆ หลายคน หลายวงคงจะรู้สึกสนุกมากที่ตอนนี้มีเพื่อนร่วมเดินทางเดียวกันมากขึ้น เพราะว่ามันไม่ได้มีแค่วงเดียว มันเยอะมากจริง ๆ เราคิดว่าเป็นอะไรที่น่าจะดีสำหรับน้อง ๆ ที่มีความฝัน ตอนนี้มันมีช่องทางให้เขาได้ปลดปล่อยตัวเองมากขึ้น แล้วมันก็ดีกับอุตสาหกรรมดนตรีในบ้านเรานะ แปมว่าหลาย ๆ ค่ายเริ่มเล็งเห็นว่าเด็กเรามันมีของ เริ่มรู้สึกวิธีที่จะพัฒนาศิลปิน เริ่มมีการเรียนรู้แพลตฟอร์มของเกาหลีบ้าง เมืองนอกบ้าง ว่าเขาจะต้องพัฒนาเด็กยังไง ถ้าเป็นไปได้แปมรู้สึกแบบอยากให้ T-pop มันไปได้ไกล ไปไกลเหมือน K-Pop หรือ J-Pop ประมาณนั้นเลยค่ะ
Living Life With Passion
แปม อัญญ์ชิสา : แปมคิดว่าอย่างแรกเลยถ้าเรารู้ว่าเรามีแพสชั่น มันก็ง่ายมากแค่ทำตามสัญชาตญาณเรา ทำตามหัวใจเรา ณ ตอนนั้น คือบางคนมีแพสชั่นแต่ไม่ลงมือทำสักที ผัดวันประกันพรุ่งบ้าง เปรียบเทียบตัวเองกับคนที่เขาไปไกลมากแล้วมันก็จะไม่ได้เริ่มสักที แปมคิดว่าเราควรลงมือทำเลย ณ ตอนนั้นนะ
ทุกวันนี้คนที่มีแพสชั่นเหมือนเรามีเยอะมาก ๆ มีคนเก่งเยอะมากเต็มไปหมด คนที่เล่นดนตรีเก่ง ร้องเพลงเก่ง เต้นเก่ง แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่แปมคิดว่าเราควรมีนอกเหนือจากแพสชั่นคือเราต้องมีเป้าหมายค่ะ ว่าเราอยากไปตรงไหน ถ้าเราวางเป้าหมายได้มันจะทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้น ว่าเราต้องไปทำอะไร เราต้องอยู่ตรงนี้ เราต้องพัฒนาตรงนี้นะ เราต้องเลิกทำอะไรบางอย่าง ที่สำคัญแพสชั่นมันมีวันหมดค่ะ ต้องคอยเติมไฟให้ตัวเองตลอด มีหลายคนที่มีแพสชั่นแต่สุดท้ายมันหมดไป มันน่าเศร้าใจนะ อย่าท้อแล้วกันค่ะ ทำตามสัญชาตญาณตัวเอง หมั่นคอยเติมไฟให้ตัวเองตลอดนะคะ
Call me Pam Anshisa
แปม อัญญ์ชิสา : แปมอยากให้ทุกคนได้รู้จักเราในแบบที่เราเป็นเราจริง ๆ ว่าแปมเป็นคนแบบไหน ชอบพูดเรื่องนี้แบบไหน เข้าหาคนอื่นยังไง เวลาเราเจ็บปวดเราเข้าหาคนอื่นยังไง รวม ๆ มันอาจจะเป็นเหมือนการได้รู้จักกันในแบบที่จริงมากขึ้น ต้องย้อนว่าก่อนหน้านี้คนอาจจะรู้จักแปมจากสิ่งที่เป็นอย่างอื่นมาครอบแปมอย่างหน้ากากโพนี่ คนก็จะรู้จักโพนี่ก่อน ก่อนที่รู้จักแปมอีก ทุกคนก็จะคิดว่าเราเป็นคนน่ารัก หวาน ๆ ใส ๆ เสียงเล็ก ๆ แล้วก็ร้องเพลงแบบพาวเวอร์ฟูลมาก ๆ นั่นไม่ใช่ตัวเราเลย ณ ตอนนี้เราก็อยากให้คนเห็นเราเป็นนักร้องป๊อปแดนซ์ที่พูดเรื่องที่มันจริงจังขึ้น แล้วก็ให้อะไรกับคนฟังได้ด้วย เป็นผู้หญิงที่สร้างความสนุกสนาน สร้างความแซ่บ แม้เศร้าก็เศร้าแบบแซ่บ ๆ ค่ะ
ก่อนอื่นเลย ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ แปมก็คือแปมคนเดิม เป็นแปม อัญญ์ชิสา ที่เอาชื่อเล่นชื่อจริงมาต่อกัน เรียกยังไงก็ได้ หลังจากนี้ขอฝากติดตามเพลงของแปมด้วยนะคะ ตั้งใจว่าจะทำเพลงออกมาเพื่อทำความรู้จักกับทุกคนแบบจริง ๆ อีกครั้ง ให้ทุกคนได้รู้จักแปมในแบบท่าแปมเป็นแปมจริง ๆ ฝาก DUMB Recordings บ้านหลังใหม่ด้วยนะคะ หลังจากนี้คิดว่าน่าจะได้เห็นเพลงป๊อป ๆ แดนซ์ ๆ จากแปมแน่นอนค่ะ
Follow Her
Facebook : Pam Anshisa
Youtube : Pam Anshisa
Instagram : pamperpaam
Photo : Ajarin Duangchaemsai