ในโลกนี้มีคนจำนวนมากที่กำลังทนทุกข์โดยไม่จำเป็น เชื่อไหมครับ?

ถามว่าไม่จำเป็นยังไง.. ตอบว่าไม่จำเป็นเพราะเรื่องที่คนเรานั่งทุกข์กันอยู่น่ะ มันไม่ได้ทำให้ใครทุกข์ตรงไหน แต่เราดันไปคิดให้ทุกข์ได้ซะอย่างนั้น

หลายปีมาแล้ว มีโฆษณาแบงค์กรุงศรีฯ เป็นผู้ชายนั่งคุยโทรศัพท์แล้วจู่ ๆ ก็เหลือบไปเห็นสาวสวยนั่งอยู่คนเดียวอีกโต๊ะหนึ่ง เลยบอกคู่สนทนาว่า “พี่..เดี๋ยวแป๊บนึงนะครับ” จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปหาสาวสวยคนดังกล่าว “คุณสวยมาก ผมชอบคุณ ขอเบอร์ได้มั้ย” ชายหนุ่มเปิดฉากแบบไม่พูดพร่ำทำเพลง มิไยที่สาวเจ้าจะตอบกลับสั้น ๆ ซื่อ ๆ แต่เข้าเป้าว่า “ไม่ได้.. มีแฟนแล้ว” 

ถ้าเป็นชีวิตจริง เราคงจะอาย หน้าชา เสียหน้า แต่ชายหนุ่มในโฆษณาตอบปิดการสนทนาสั้น ๆ ว่า “โอเค..จบ” แล้วก็กลับไปคุยธุระกับคนในโทรศัพท์ต่อ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

ถึงแม้คุณอาจจะค้านเสียงสูงอยู่ในใจว่า... เฮ้ยยยยย... อันนั้นมันโฆษณา.. ใครจะทำได้ในชีวิตจริง แล้วถ้าผมบอกว่า ทุกคนสามารถทำได้ล่ะครับ คุณจะเชื่อไหม แน่นอน คุณอาจจะไม่เชื่อ เพราะถ้าเรายังไม่เข้าใจความจริงบางเรื่อง ก็ใช่ครับ การจะ “โอเค..จบ” นี้ยังทำไม่ได้หรอก 

แล้วความจริงอะไรที่เราต้องเข้าใจ? เผื่อคุณจะสงสัยขึ้นมา ก็ความจริงว่า สิ่งที่เกิด เรื่องที่เกิดทุกอย่างในชีวิตเรา มันเป็นเพียงแค่ “สถานการณ์” นะครับ ไม่ใช่ความทุกข์ อย่าว่าแต่ความทุกข์เลย แม้แต่ “ปัญหา” ก็ไม่แน่ว่าสถานการณ์นั้นจะเป็น ถ้าเราไม่ “คิด” อะไรเลย เกี่ยวกับสถานการณ์นั้น 

ผมมีเพจชื่อธนาคารความสุข เอาไว้ให้บริการตอบคำถามเรื่องความทุกข์ของผู้คน ในเพจนั้นผมจะย้ำเรื่องนี้เสมอครับ ว่า.. ผมไม่ค่อยเน้นเรื่องการคิดบวกเท่าไหร่ เพราะมันมีโอกาสที่ความคิดบวกจะพลิกเป็นลบเมื่อไหร่ก็ได้ สิ่งที่ผมค้นพบจากการเรียนรู้คำสอนของพระพุทธเจ้าผ่านครูบาอาจารย์ คือ คนเราทุกข์ได้เพราะเหตุเดียวคือ “คิด” 

ใช่แล้วครับ คนเราทุกข์เพราะความคิดของเราเอง ไม่ใช่เพราะใครสร้างสถานการณ์อะไรขึ้นมาให้เรา อันนั้นเป็นได้มากที่สุดแค่ปัญหาครับ จะเรื่องอะไร สถานการณ์ไหน ถ้าเราไม่คิดอะไรเลย ใจก็ไม่มีทางทุกข์เลยนะครับ อย่างในเพลงนี้ของแมท เบียงโค (เป็นชื่อวงนะครับ ไม่ใช่ชื่อคน) ที่จริงสถานการณ์ไม่มีอะไรเลย 

คือเดินไปเจอคนรักเก่าที่เลิกกันไปแล้ว เดินมากับคนใหม่ ถ้ามีสติมีปัญญาสักหน่อยก็จะแค่ “รับรู้ เข้าใจ ยอมรับ” ถ้าทำได้ตามกระบวนการนี้ มันจบเลยนะ แต่นี่ดันไปคิดต่อ ไปนึกถึงความหลังอย่างนั้นอย่างนี้ นึกถึงตอนที่เขามีอะไรกัน บลา ๆ ๆ ก็เสร็จสิครับ เสร็จความคิดของตัวเองนี่แหละ มันจะไปเหลืออะไร ยิ่งคิดยิ่งจินตนาการไปเท่าไหร่ ก็ทุกข์ใจไปเท่านั้น

ถ้าเจอกันแล้ว รับรู้ว่า เออ..อดีตเคยคบกัน แต่ปัจจุบันเลิกกันไปแล้ว และตอนนี้เธอมีคนใหม่แล้ว มันมีอะไรต้องคิดต่อล่ะครับ ไม่มีหรอก ยกเว้นเราอยากจะดราม่าแบบละครหลังข่าวเท่านั้นเอง

สุขสันต์วันที่เราเลือกจะฝึกให้ตัวเอง โอเค..จบ ได้กับทุกเรื่องนะครับ

More than I can bear : Matt Bianco

I thought that I was over you
How I was mistaken
Why did I bump into you
And start this chain reaction, mm

I felt it building up inside
When suddenly
Oh, it was more than I can bear
Mm, more than I can bear

When I saw you
Walking down the road with someone new
I couldn’t believe it was true
It was true, yeah

I find it hard to sleep at night
This jealousy is burning bright
Visions of somebody else
Torments me to distraction, oh yeah

I think of him
Making, making love to you
It’s more than I can
Oh, it was more than I can bear
Oh yeah, oh yeah, oh yeah, girl

(it’s more than I can bear)
Walking down the road with someone new
(it’s more than I can bear)
I couldn’t believe that it was true
(it’s more than I can bear)
It was true

When I saw you
(it’s more than I can bear)
Walking down the road with someone new
(it’s more than I can bear)
I closed my eyes
I know I’m not over you
(it’s more than I can bear)
Over you

When I saw you
Walking down the road with someone new
I closed my eyes
I know I’m not over you
Mm, I still love you, baby

(it’s more than I can bear)
Yeah, I still love you baby
(it’s more than I can bear)
Hey, I still love you baby
(it’s more than I can bear)
Yeah, yeah

Song writers: Danny White / Mark Reilly
Lyric: More Than I Can Bear © Sony/atv Harmony, Matt Music Ltd, Matt Music Limited