Design : The New Normal Office Space by Keith Melbourne Studio | Issue 163
จากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดการนิยามคำศัพท์ใหม่ขึ้นมาคำหนึ่งนั่นคือ New Normal ซึ่งก็คือการทำมาตรฐานการใช้ชีวิตประจำวันของคนแบบใหม่ซึ่งจะกลายเป็น Daily Life ของเรา ที่ต้องปฏิบัติให้เคยชินเพื่อป้องกันการเกิดโรคติดต่อนั่นเอง ตัวอย่างง่าย ๆ ของ New Normal นี้ก็ได้แก่ การใส่แมสต์ปิดปากหรือ Face Shield ไปทำงานหรือเวลาออกไปข้างนอก การมีเจลแอลกอฮอล์ติดตัว การล้างมือที่บ่อยครั้งมากขึ้นในแต่ละวัน การทานอาหารแยกโต๊ะเพื่อสร้าง Social Distance ในที่สาธารณะ
เอาจริง ๆ ผมเองค่อนข้างรู้สึกขำในมาตรการป้องกันโรคสำหรับการสร้าง Social Distance ในร้านอาหารเป็นอย่างมากนะครับ คู่รักหลายคู่ไปข้างนอกด้วยกัน นั่งรถคันเดียวกัน ระหว่างนั่งไปก็จับมือ จุ๊บปากหอมแก้มกันตลอดทาง แต่พอถึงร้านอาหาร กลับต้องมานั่งแยกกันห่างกันเป็นเมตร คิดถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้วช่างน่าตลกบัดซบสิ้นดี คนไปกินอาหารในร้านก็รู้สึกแปลกไม่ถนัด ร้านอาหารเองก็อึดอัดอยากตามใจลูกค้าเพราะตัวร้านก็ได้รับผลกระทบลูกค้าเข้าร้านน้อยลง ไม่ทำตามมาตรการก็ไม่ได้ เดี๋ยวร้านอาหารจะถูกสั่งปิด ถ้ามองยาว ๆ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปธุรกิจร้านอาหารจะค่อย ๆ ตายไป เพราะคนเข้าร้านน้อยแต่ค่าเช่าที่ยังคงต้องแบกรับอยู่ เมื่อเป็นเช่นนี้อีกหน่อย
ร้านอาหารคงถูก Resize ให้เป็น Takeaway หรือกลายเป็นร้านอาหารเดลิเวอรี่ไปเสียหมดในท้ายที่สุด...
ช่วงที่ผ่านมาก่อนมีมาตรการคลายล็อค หลายคนต้องเจอกับการกักตัว อยู่กับบ้าน ถูกลดเงินเดือน ขาดรายได้ บางพวกก็ Work from home จนตอนนี้เริ่มมีมาตรการคลายล็อคต่าง ๆ ห้างร้านบริษัทเริ่มกลับมาเปิดทำการปกติ แต่ปกติจริงหรือเปล่า..?? โควิด หายไปแล้วหรือ ปลอดภัยจริงหรือ..?? มันก็ยังคงเป็นคำถามที่ค้างคาในใจเราแต่ละคน
ไอ้การอยู่บ้านมันอึดอัดจริง ๆ ครับ อยากไปเที่ยวเดินห้างก็อยากไป แต่ถ้าไปแล้วเสี่ยงติดโรคกับมามันก็ไม่คุ้มแล้ว แค่ค่ารักษาพยาบาลก็หนักเอาการอยู่ไม่ร้อย
ทุกคนยังหวาดกลัว และหวาดระแวงการระบาดของโรค และคาดเดาว่ายังคงจะมีการระบาดในระลอกถัด ๆ ไป เรายังคงต้องระมัดระวังตัวและต้องกำหนดมาตรฐานการป้องกันใหม่ในชีวิตอย่างเคร่งครัด แต่จะมีสิ่งใดที่จะเกิดขึ้นมาเป็นมาตรฐานใหม่ในชีวิตบ้าง คงไม่สามารถใครสามารถคาดเดาได้ทั้งหมด
เมื่อเรากลับไปทำงาน คงไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า พื้นที่ทำงานจะเปิดได้อย่างเต็มศักยภาพากน้อยขนาดไหน
ประตู อาจจะกลายเป็นประตูอัตโนมัติ ลิฟท์อาจจะถูกเปลี่ยนเป็นระบบสั่งการอื่นที่ไม่ใช่ระบบสัมผัส พื้นที่ทำงานอาจจะเป็นพื้นที่ที่มีความเซฟตี้และมีความส่วนตัวมากขึ้นเช่นกัน แต่พื้นที่ส่วนกลางอาจจะถูกลดลงเพราะเสี่ยงต่อการรวมกลุ่มของผู้คน
ผมได้เห็นงานออกแบบหนึ่งที่มีความใกล้เคียงกับ New Normal ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตครับ ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของ Keith Melbourne Studio โดยเป็นการออกแบบ Function Workspace อย่างชัดเจน ด้วยเป็นการนำรูปทรงที่คล้ายลูกบาศน์ นำมาตัดทอนลบเหลี่ยม ลบมุม และทำพื้นที่กั้นโต๊ะทำงานอย่างสวยงาม ตัดกับการออกแบบหน้าต่างที่บังคับแสงและทิศทางของแสงทำให้ดูโล่งและไม่อึดอัดมากเกินไป ซึ่งตรงกับคำภาษาการออกแบบที่ว่า "กั้นโดยไม่กั้น" และมีการไล่ลำดับ ของชั้นผู้จัดการและบริหารลำดับต่อไปโดยการใช้ราวผ้าม่านกั้นซึ่งสามารถเปิดออกเป็น Work Space ที่กว้างขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งจากตรงนี้โดยภาพรวมทั้งหมดความเห็นส่วนตัวผมมองว่าตรงต่อการตอบโจทย์ของ New Normal ในอนาคตข้างหน้าอย่างที่สุด ซึ่งในปัจจุบันนี้ออฟฟิศหลายแห่งก็เริ่มมีการปรับตัวกันมากขึ้น มีการปรับเปลี่ยนชั้นทำงานใหม่เพื่อป้องกันการเกิดโรคระบาดกันอย่างเคร่งครัด ไม่เพียงแต่การจัดซื้อหรือหา Partition มากั้นแต่เพียงเท่านั้น แต่เป็นการปรับเปลี่ยน Layout สถานที่ทำงานใหม่เกือบทั้งหมดเลยทีเดียว
มันไม่ใช่เรื่องที่ทำเกินกว่าเหตุ ไม่มีคำว่ามากไป แต่มันเป็นความจำเป็นอย่าหนึ่งของชีวิตที่ต้องเดินต่อไปข้างหน้า ท่ามกลางโรคระบาดที่กำลังสร้างความหวั่นกลัวให้เราอยู่ ไม่อยากจะพูดคำนี้เลย แต่ขอกล่าวสั้น ๆ ตรงนี้ครับว่า "ทำตัวให้คุ้นชินกันไว้นะครับ" มันไม่ใช่เพียงแค่นี้หรอก ในสภาวการณ์ข้างหน้าอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกเยอะ