Football Facts : New Normal | Issue 163
Covid 19 (โควิด-19) ในช่วงเวลานี้คงไม่มีใครรู้จักคำคำนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สร้างความเสียหายกับโลกอย่างสาหัสส่งผลกระทบกับทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม การใช้ชีวิตประจำวัน แม้กระทั่งวงการฟุตบอลก็ได้ผลกระทบอย่างหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นในนามทีมชาติหรือสโมสรที่ไม่สามารถลงแข่งขันได้ตามปกติและปัญหาด้านการเงินของสโมสร และสำหรับข่าวใหญ่ของโลกฟุตบอลคือการที่ มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล และ เปาโล ดิบาล่า (Paulo Dybala) นักเตะของยูเวนตุส ที่ติดเชื้อโควิด-19
หลังจากที่เราเผชิญกับโควิด-19 ได้สักพักนึงมีคำหนึ่งคำที่ปรากฏขึ้น New Normal วิถีชีวิตใหม่ที่ไม่เพียงปรับอย่างใช้ในชีวิตประจำวันในวงการฟุตบอลก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามวิถีนี้ด้วยไม่ว่าจะเป็นการซ้อมที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทำให้แต่ละสโมสรต้องหาวิธีและรูปแบบการซ้อมที่เปลี่ยนไปนักเตะเองก็ต้องปรับตัวและรักษาสภาพความฟิตด้วยตัวเอง
พฤติกรรมการรับชมฟุตบอลทีมเปลี่ยนไปที่ไม่สามารเข้าชมในสนามได้ทำได้เพียงรับชมผ่านการถ่ายทอดสด ปฏิเสธไม่ได้ว่าสนามฟุตบอลมีองค์ประกอบรอบด้าน ที่ทำให้คนติดโรคระบาดได้ง่าย ทั้งการร้องเพลง การเชียร์ การจับมือ รวมถึงพื้นที่อันเบียดเสียดของสนามฟุตบอล ทำให้แฟนบอลเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ ส่งผลให้การแข่งขันในช่วงนี้บรรยากาศสนามที่เราเคยคุ้นตาจะแปลกไปที่นั่งบนอัฒจันทร์ไม่มีผู้ชมแม้แต่คนเดียว จะมีการเอารูปแฟนบอลมาแปะไว้ที่เก้าอี้นั่ง หรือบางสนามเอาจอ LED ขึ้นภาพของแฟนภาพที่รับชมผ่านการถ่ายทอดสดในขณะนั้น และด้วยเทคโนโลยีการถ่ายทอดสดทำให้รับชมฟุตบอลแบบมีอรรถรสแม้ในสนามจะไม่มีคนดูทางทีมถ่ายทอดสดได้ใส่เสียงเอฟเฟคเสียงร้องเพลงเชียร์ เสียงโห่ เสียงปรบมือ เสียงเฮเวลาได้ประตู
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลที่เปลี่ยนในสนามจะเข้าได้เพียงนักฟุตบอล ทีมงามสตาฟโค้ช เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันเท่านั้นโดยผู้เล่นสำรองต้องนั่งบนอัฒจันทร์เว้นระยะห่างและต้องสวมหน้ากากอนามัย แต่สำหรับผู้จัดการทีม ลีกอนุญาตให้ไม่สวมได้เพื่อสะดวกต่อการสั่งการลูกทีมในสนาม และที่การทักทายเปลี่ยนจากการจับมือเป็นการใช้ข้อศอกชนกันแทน ในช่วงระหว่างการแข่งขันมีสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือมีการให้ช่วงเวลาพัก Cooling Break ระหว่างการแข่งขันและการเปลี่ยนตัวผู้เล่นได้เพิ่มขึ้นจาก 3 คน เป็น 5 คน แต่การเปลี่ยนยังบังคับให้ใช้สิทธิ์เปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ 3 ครั้งเท่าเดิม ซึ่งภาพที่เราเห็นในการแข่งฟุตบอลในช่วงนี้คงจะเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ (อาจจะ) ไม่เกิดขึ้นอีก และภาพบรรยากาศเดิมๆในสนามจะกลับมาก็ขึ้นอยู่กับเราทุกคนจะให้ความร่วมมือทำตามระเบียบอย่างเคร่งครัดหรือไม่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วงการฟุตบอลก็ต้องเดินหน้าต่อไป
Text: Jirayut Chantarasri