Steak House and Seafood | SEXY COW RESTAURANT | Issue 163
วันนี้ MiX Magazine จะพาทุกท่านไปรู้จักกับร้าน Sexy Cow รานอาหาร Steak House and Seafood ซึ่งในส่วนชั้นบนยังมี Bonsai เป็นร้านอาหาร ญี่ปุ่นร่วมอยู่ด้วย ภายใต้การบริหารของคุณโจ - โชติวิทย์ เตชะอุบล ชายหนุ่มที่มีมุมมองการดำเนินธุรกิจแตกต่างจากทั่วไปของการทำร้านอาหาร ซึ่งมักจะเป็น Special list แนวไหนก็แนวนั้น เขาจึงได้นำมาผสมผสานโดยมีทั้งเสต็กและซีฟู้ด โดยยังเพิ่มเติมอาหารญี่ปุ่นซึ่งสามารถสั่งมากินในร้านเดียวกันได้ โดยให้เหตุผลว่า Steak house คนทั่วไปคิดว่าจะต้องสำหรับคนกินเนื้อเท่านั้น หลายคนที่ไม่กินเนื้อก็สามารถไปด้วยกันได้ มาที่นี่ทุกคนสามารถกินอะไรก็ได้ที่อร่อยได้ความหลากหลายสามารถทานพร้อมหน้าพร้อมตากันโดยที่ไม่ต้องทะเลาะกันว่าวันนี้จะกินอะไรทุกคนแฮปปิ้
นอกจากนั้นแล้วเราจะได้เห็นสไตล์ของร้าน ที่บ่งบอกรสนิยมของผู้บริหารได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ก้าวแรกที่พบเห็นจนถึงเข้ามาในร้านเขากล่าวว่าการเข้ามาที่ร้านแห่งนี้คุณจะได้พบกับความรู้สึกโมเดิร์น การตกแต่งที่ดี แต่คุณสามารถแต่งตัวสบาย ๆ ได้ เข้ามากินอาหารดี ๆ จากบรรยากาศการตกแต่งร้านด้วยดีไซเนอร์ระดับโลกอีกด้วย
สำหรับวัตถุดิบมีการนำเข้าจากแหล่งต่าง ๆ คนรักเนื้อก็สามารถเลือกสัมผัสได้ทั้ง อเมริกา ฝรั่งเศส อิตาสี รวมไปถึงเสปน ส่วนทางด้านซีฟู้ดก็มีการนำเข้าจากต่างประเทศเช่นกัน แต่อะไรที่เป็น Local Product แล้วรสชาติดี ที่นี่ก็จะนำมาใช้ เพราะ Local มันเป็นอะไรที่ Fresh (สด) เพราะอะไรที่ Fresh มันย่อมตีกว่า Freezeมาถึงตรงนี้แล้วคงอยากทราบใช่ไหมครับ ว่าวันนี้เราจะนำเสนอเมนูอะไรบ้าง
1. เริ่มตันจากเมนูแรก Sea bass Ceviche ในสไตล์อิตาเลี่ยนกึ่งสเปนใช้ปลา Sea bass เพิ่มสโม็คสำหรับคนไทยที่ไม่ถนัดอาหารกึ่งสุกกิ่งดิบได้อรรถรสของรสชาติในความสุกประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงความหอมอวลละมุน จากกลิ่นเบา ๆ ของไม้โอ๊ค เมนูนี้ถ้าใครนิยมดื่มค็อกเทลสามารถท่านคู่กันกับ Is Mahal เครื่องดื่มเหมือนกับความรักหวาน ๆ ผสมกับแอลกฮอล์ที่เบา ๆ เป็นการสตาร์ทเตอร์กับมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี
2. Australian Wasyu Tomahawk 1.2 kg เป็นเมนูเนื้อคัดสรรเป็นพิเศษขนาด 1.2 กิโลกรัม สำหรับคนรักเนื้อด้วยการ Dry Aged ในตู้แช่เฉพาะของทางร้าน 45 วัน ทำให้สีสันของเท็กซ์เจอร์เหมือนบราวน์ชูการ์ ซึ่งเกิดจากการย่างประกอบกับลายมันที่สวยงาม ลองคิดดูนะครับว่าเมื่อเข้าปากตั้งแต่คำแรกและได้สัมผัสของรสชาติความชุ่มฉ่ำของมันจะรู้สึกฟินเพียงใด
3. Lamp Chops เนื้อแกะจากออสเตรเลียสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นสาบเฉพาะตัวของมัน ต้องบอกว่าลองที่นี่ดูจะได้ความรู้สึกของกลิ่นน้อยมาก ใช้การสโม็คกับเตาชาร์โคลที่ดีไซน์เป็นพิเศษ ความร้อนและอุณหภูมิส่งผลทำให้มีรสชาติที่ดีและได้กลิ่นควันหอม ๆ อยู่ ราดด้วยซอสโรสแมรี่ซึ่งช่วยตัดเลี่ยนได้ดี สำหรับคนที่ชอบเนื้อแกะต้องไม่พลาดเช่นกันครับ
4. Crispy Tofu (Singapore Chili Sauce) เป็นเอเชี่ยนฟิวชั่นถูกปากคนไทย เอาเต้าหู้ไปดีฟฟรายด์ราดด้วยชอสสิงคโปร์ซิลลี่ ซึ่งใส่เนื้อปูเข้าไปในตัวชอสด้วย ใครที่ไม่ชอบเผ็ดก็สามารถลดความเผ็ดลงได้ พร้อม ๆ กับคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ไม่ต้องใส่เนื้อปูก็ได้
5. Sexy Cow Prime Steak & Seofood เมนูนี้ต้องบอกว่าเป็น Signature ของทางร้าน ในราคาสุดคุ้มที่ได้สะท้อนตัวตนของ Sexy Cow อย่างมาก สามารถกินได้ 2-3 ท่านซึ่งมีเนื้อ Australian New York Striplion ประกอบด้วยSeafood รวมขาปูอลาสก้า แคนนาเดียนล็อบเตอร์ มีน้ำจิ้มชีฟู้ดเบา ๆ มาให้ตัดเลี่ยนพร้อมกับผักรวมและครีมสลัด อีกทั้งเฟรนฟรายด์สำหรับกินร่วมกันได้ทุกคนที่มีความชอบต่างกัน
ปิดท้ายด้วยของหวาน Yuzu Tart จะได้ลิ้มรสความเป็นส้มยูสุของญี่ปุ่น ที่มีความเปรี้ยวและหอม สำหรับคนที่ชอบกินของหวานที่ไม่มีรสหวานจนเกินไป สามารถตัดเลี่ยนด้วยความกึ่งเปรี้ยวกึ่งหวานหลังจากกินเนื้อและซีฟู้ด ซึ่งจะให้ความสดชื่นได้อย่างดี
ของหวานอีกตัวที่อยากแนะนำก็คือ Apple 3.1399 คนดูอาจจะเห็นเป็นเกี้ยวทอด และที่ใช้เป็น 3.1399 เพราะเกือบจะเป็นพายคล้ายกับแอปเปิ้ลพาย ซึ่งจะเป็น 3.14 โดยใช้แป้งเกี้ยวมาห่อแอปเปิ้ลไว้ข้างในและเอาไปทอด ด้วยความอุ่น ๆของตัวเกี๊ยวควรกินคู่กันกับซีสเค้กและวนิลาไอศกรีมเย็น จะรู้สึกเข้ากันได้ดี พร้อม ๆ กับส่วนผสมที่ราดด้วยน้ำผึ้งกับผงชินนาม่อนทำให้รู้สึกความเป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกหวานและเข้ากันได้ดีจริง อยากจะแนะนำจริง ๆ ครับ
ร้าน SEXY COW
ตั้งอยู่ที่ THE MILLENNIA TOWER (G FLOOR) 62 SOI LANGSUAN, LUM PINI, PATHUMWAN, BANGKOK 10330 THAILAND
OPEN EVERYDAY LUNCH 11:00 - 14:30 (LAST ORDER 14:00) DINNER 17:30 - 22:00 (LAST ORDER 21:30)
โทร +66 (0) 82 924 4014,+66 (0) 2 118 2941
ในปัจุบันทางร้าน Singor sazzi เข้ามาอยู่ ในพิ้นที่เดียวกันกับ Sexy Cow โดยแบ่งพื้นที่คนละครึ่ง ของชั้น 1 ตึก (Sexy Cow Prime Steak & Seafood)
ร้านสามารถเข้าได้ 2 ทางฝั่งราชดำริเข้าทางซอยมหาดเล็กหลวง 3 ตรงมาสุดซอยประมาณ 300 เมตรหรือฝั่งหลังสวน ตรงข้ามหลังสวนซอย 2