Comedy Story
มีอยู่หนึ่งกฎในเรื่องตลกซึ่งนักตลกส่วนมากมักจะเล่าให้คุณฟังด้วยตัวเอง และแน่นอนว่ามันจะเป็นเรื่องตลกอยู่เสมอ แต่บางเรื่องก็ไม่ตลกเสมอไปเมื่อมีเรื่องตลกบางเรื่องถูกทำลายกำแพงลงจนทำให้คนดูประหลาดใจ และเรื่องตลกเหล่านั้นจึงเปลี่ยนเส้นทางการดำเนินชีวิตของพวกเราให้ไม่เหมือนเดิม

นักตลกค่าตัวแพงที่สุดในปี 2017
เว็บไซต์ Forbes ได้จัดอันดับนักตลกที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกในปี 2017 ไว้โดยมีอันดับ 1 คือ Jerry Seinfeld กับจำนวนเงินค่าตัว $69,000,000 ความสามารถที่อยู่เหนือการเวลาและสถานที่ ทำให้เขาสามารถเรียกผู้คนเข้ามาดูในเต็มโรงละคร ทั้งยังมีการแสดงผ่านชีวิตจริงของตัวเองสู่โลกดิจิทัลพร้อมสัญญาใหม่กับทาง Netflix โดยมีทั้ง Comedian in Cars Getting Coffee และส่วนที่กำลังพัฒนาอยู่ เงินส่วนมากที่ได้เข้าบ้านของเขาจึงมาจากสตรีมมิ่งแพลทฟอร์มและ Hulu นั่นเอง

นักตลกผู้ยืนเดี่ยวคนแรกของโลก
เรื่องตลกไม่ได้เพิ่งถูกเผยแพร่ แต่มันมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ซึ่งเกิดขึ้นกับชายชาวคอร์นวอลนามว่า Samuel Foote ที่หลายคนถือว่าเป็นนักตลกยืนเดี่ยวคนแรกของโลก เขาเริ่มแสดงบทแรกในปี ค.ศ. 1747 และการแสดงของเขาได้ถูกแพร่กระจายออกเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว เขาเป็นคนมีความสามารถมากมาย และมีความสามารถพิเศษอย่างเป็นธรรมชาติในเรื่องการแสดงบทบาท ส่งต่อลูกเล่นได้อย่างรวดเร็ว และยังสร้างชื่อให้ตัวเองว่าเป็น “ชายหนุ่มผู้ตลกที่สุดในลอนดอน” ไว้อีกด้วย

อาชญากรรมทางคำพูด
Lenny Bruce ได้ทำให้คนดูทึ่งไปตาม ๆ กันกับเรื่องชีวิตประจำวันที่ไม่มีการกรองของเขาอย่างเช่น เรื่องยา เชื้อชาติ และศาสนา ทำให้หลายคนต่างแบนและพยายามจะปิดฉากการแสดงของเขา จนในปี 1964 ที่ตำรวจแอบบันทึกการแสดงของ Bruce ในนิวยอร์กและจับกุมเขาด้วยข้อหาลามกอนาจาร และศาลในแมนฮัตตันพิพากษาว่าเขามีความผิดในฐาน “เป็นอาชญากรรมทางคำพูด” แต่นั่นกลับสำคัญเพราะเขาได้เปิดทางให้กับเหล่าตัวตลกหลายคนในวันนี้ และเขายังสามารถทำให้เป็นไปได้ที่จะคิดว่าบางคนก็ตลกในทางแบบนั้นได้

เรื่องตลกกับเชื้อชาติ
ในขณะที่นักตลกบางคนหลีกเลี่ยงการสร้างเสียงหัวเราะและเล่นเรื่องตลกเกี่ยวกับเชื้อชาติ อย่าง Richard Pryor กลับเล่นหัวข้อเรื่องนี้กันซึ่ง ๆ หน้าในการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนของเขา Pryor ไม่ได้เกรงว่าจะทำให้คนผิวขาวรู้สึกไม่สบายใจจากพฤติกรรมเยาะเย้ยเหยียดเชื้อชาติด้วยความโกรธเคืองที่ถูกบดบังบาง ๆ และเขายังเป็นหนึ่งในนักตลกคนแรกที่ทำให้การใช้ N-word เป็นเรื่องที่อิสระมากขึ้น Richard จึงเป็นทั้งแรงบันดาลใจและผู้เบิกทางให้ตลกผิวดำอย่างโชติช่วง

มันตลกเพราะมันเป็นเรื่องจริง
จากการศึกษาของ Caty Borum Chattoo ผู้ดูแลควบคุมงาน Center for Media & Social Impact ที่มีต่อความสามารถของเรื่องตลกที่ส่งอิทธิพลต่อทัศนคติและมุมมองผู้ฟังเกี่ยวกับปัญหาสังคมที่รุนแรง เธอพบว่าผู้ฟังคิดว่าการแสดงของ Toxic Comedy ทั้งมีความสนุกและเต็มไปด้วยความรู้ และยังพบว่า 1 ใน 5 ของเรื่องตลกได้รับการถูกจัดจากผู้ฟังว่าเป็นเรื่องตลกที่น่าเชื่อถือมาก ๆ อีกด้วย ผู้ฟังจึงคิดว่าการแสดงตลกเป็นทั้งแหล่งข้อมูลและที่สำหรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ นอกจากจะได้เสียงหัวเราะแล้วยังได้รับความรู้ขึ้นอีกเพียบเลยครับ
 

TEXT : Wilawan Tippawan