พิชิตความฝันอย่างมีเสต็ป
อีกหนึ่งผู้กำกับภาพยนตร์มากความสามารถของวงการภาพยนตร์ไทย “กอล์ฟ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” กว่าที่จะก้าวเข้ามาสู่เส้นทางนี้ ต้องแลกมาด้วยความยากลำบาก เริ่มจากเป็นช่างแต่งหน้ากองถ่าย, รีดผ้า, ACTING COACH, CASTING ไปจนถึงเขียนบทจนก้าวมาเป็นผู้กำกับมากความสามารถการันตีด้วยรางวัลล้นมือ

ด้วยความใฝ่ฝันในวัยเด็กที่อยากจะเป็นนักการทูต จึงส่งผลดีให้การเรียนภาษาอังกฤษของเธอ แถมยังชอบอ่านหนังสือนิยาย หนังสือฆาตกรรม สืบสวนสอบสวนของ อกาธา คริสตี(Agatha Christie) ชื่นชอบการวิเคราะห์มนุษย์ของอกาธา คริสตี ด้วยเหตุผลที่ว่าคนเรานั้นไม่มีใครเกิดมาเพื่อเป็นฆาตกรหรอก ทุกอย่างมันมีสาเหตุเสมอ และการทำละครเวทีของวิชาภาษาอังกฤษในชั้น ม.5 ทำให้เธอค้นพบตัวเองว่าอยากจะเป็นผู้กำกับ

“เราสอบได้โควต้าเอกภาษาฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยขอนแก่น เลือกเรียนวิชาโทภาษาอังกฤษ ตอนนั้นอยากเรียนนิเทศศาสตร์มากกว่า ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยก็ทำกิจกรรมควบคู่ไปด้วย ทำละครเวที และได้เลือกเรียนวิชาเลือกที่เกี่ยวกับการละคร ช่วงปี 3 ได้ทำละครเกี่ยวกับพิศวาสฆาตกรรม พอเรียนจบอาจารย์สอนการแสดงที่มหาวิทยาลัย ก็ชวนเราไปเป็นอาจารย์ผู้ช่วย แต่ปฏิเสธไป เพราะเราอยากเป็นดารา พอเข้ามากรุงเทพฯ ก็ไปแคสงานละครมิวสิคัลเรื่อง วิมานเมือง ปรากฏว่าเข้ารอบแต่เราไม่ถูกคัดเลือกเพราะร้องเพลงไม่เป็น ก็เลยตัดสินใจกลับโคราชไปเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษที่วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา เป็นเวลาถึง 7 ปี

“ในระหว่างนั้นก็ยังได้รับคัดเลือกให้ไปแสดงละครโทรทัศน์ เรื่องชายไม่จริงหญิงแท้ เล่นเป็นตัวอิจฉา ตอนนั้นละครเรื่องนี้ดังมาก ทำให้ชัดเจนว่าเป็นสิ่งที่เราต้องการมากกว่าการเป็นครู ระหว่างนั้นก็ทำหนังสั้นเรื่อง เปลือก ได้รับคัดเลือกให้ไปฉายที่ประเทศฝรั่งเศส การไปที่ประเทศฝรั่งเศสทำให้เราได้เห็นโลกมากยิ่งขึ้น เหมือนประกวดนางงามจักรวาลเลย ทุกคนมากันทั่วโลกเลย แต่ว่ามันไม่ได้ประกวดความสวยความงามไง มันก็คือการประกวดสมอง

“หลังจากกลับมาจากฝรั่งเศส ก็เลยตัดสินใจลาออกจากครู เข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ใช้ชีวิตค่อนข้างลำบาก ถือผลงานไปสมัครค่ายละครก็ไม่มีใครรับ เพราะว่าไม่มีใครรู้จักหนังสั้น จนมาเจอพี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว พี่เขาเคยดูหนังสั้นเรา พี่ปรัชญ์ก็เลยให้มาเป็นนักแสดงก่อน ในเรื่อง อสุจ๊าก ขณะนั้นพี่ก็ต้องเป็นเด็กเสิร์ฟในลานเบียร์ได้วันละร้อยกว่าบาท ด้วยความที่เราไม่มีเงินก็เลยไปอาศัยกับเพื่อนที่เป็นช่างแต่งหน้า Wedding ไปเป็นผู้ช่วยช่างแต่งหน้าเพื่อนแต่งเจ้าสาวเจ้าบ่าว เราก็แต่งให้ญาติ ๆ ตอนนั้นลำบากมาก ถึงขั้นเก็บเศษเงินบนโต๊ะเครื่องแป้งของเพื่อนซื้อมาม่า ซึ่งทุกคนก็มักจะบอกเราว่า ให้เวลาอีก 3-5 ปี นะ ถ้าเราไม่ได้ทำตามความฝันก็ให้กลับบ้านไปเถอะ สิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้เราสู้

“ทำงานเบื้องหลังทุกอย่างเลยตั้งแต่ ช่างแต่งหน้า, รีดผ้า, Acting Coach, ทำ Casting ไปจนถึงเขียนบท พอเราทำหลาย ๆ อย่างก็มีคนเห็น ซึ่งคนที่เห็นก็คือพี่พจน์ อานนท์ เขาเห็นเราทำหนังสั้นแล้วได้รับรางวัล เห็นเราไปเป็น Acting Coach เรื่องเขาชนไก่ และเราเคยทำหนังสั้นไปขายที่จตุจักรแล้วเขาเคยซื้อดู พี่พจน์เลยให้โอกาสเป็น Acting Coach เรื่อง แต๋วเตะตีนระเบิด แล้วก็ยังให้โอกาสเป็นผู้กำกับหนังใหญ่เรื่องแรกนั่นคือเรื่อง ตายโหง เป็นหนังที่ทำเงินนะ ตอนนั้นได้ประมาณ 30 ล้านบาท ทำงานเบื้องหลังวงการภาพยนตร์ไปด้วย แถมยังเรียนต่อปริญญาโทคณะนิเทศศาสตร์ เอกสื่อสารการแสดง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอนนั้นเลยทำภาพยนตร์เองเรื่องแรก ทั้งเขียนบทเอง หาเงินเอง ร่วมกันทำกับเพื่อน ๆ เรื่อง แมลงรักในสวนหลังบ้าน หรือ Insects In The Backyard หนังเรื่องนี้ยังถูกนำไปประกวดในงานแวนคูเวอร์ International Film Festival ประเทศแคนาดา อีกด้วย

“หลังจากโดนแบนไปถึง 7 ปี กลับมาฉายบ้านเราเมื่อปีที่แล้ว ผลตอบรับดีนะ หนังของเราเมื่อคนได้ดูแล้วจะทำให้เกิดการเปิดกว้างทางความคิด แล้วก็ไม่ตัดสินคนที่นิยมทางเพศ หนังพี่ตั้งคำถามว่า ไม่ว่าเขาจะมีรสนิยมทางเพศแบบใดเขายังมีความเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?เมื่อฉายในปัจจุบันก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะว่ามีกรณีคุณพอลลีน งามพริ้ง ยิ่งทำให้หนังของเราชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเราไม่ได้มโนไปเอง มันมีพ่อที่เป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็ดีใจมากที่ตอนนี้หนังเรื่องนี้ได้เข้าชิงในหลายรางวัล และแน่นอนว่าผลงานระดับมาสเตอร์พีซก็คือ Insects In The Backyard เพราะว่ามันมาถึงจุดที่ได้ชิงสุพรรณหงส์ ได้ไปเทศกาลภาพยนตร์ทั่วโลก ทั้งแคนาดา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมัน เบลเยี่ยม สเปน แอฟริกาใต้ ฯลฯ

“ท้ายนี้เราอยากให้วงการหนังไทยมีความหลากหลาย เพราะวงการหนังไทยยังมองความบันเทิงแค่แบบเดียว เราถือว่างานภาพยนตร์เป็นงานศิลปะ เสน่ห์ของศิลปะคือเมื่อคนดูแล้ว มันไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน ประโยชน์ของศิลปะคือเมื่อเราดูแล้วเราสามารถเข้าใจคนอื่น ที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากเรา เพราะโลกใบนี้เราอยู่ด้วยความแตกต่าง เราไม่ได้อยู่ด้วยความเหมือน ฉะนั้นการดูภาพยนตร์ คือการเรียนรู้ความแตกต่างในสังคมบนโลกใบนี้”

KNOW HER
• ตอนนี้เธอมีผลงานผลงานกำกับละครเรื่องเสน่ห์หามายา ที่กำลังออนแอร์ทางช่อง 7
• ความใฝ่ฝันของเธอในตอนนี้คืออยากเป็นผู้กำกับหนังร้อยล้าน

TEXT : Phattaranit Suphason
PHOTO : Pornsarun Soithong