เมทัล สุขขาว
ตอนนี้นอกจากร้องเพลงแล้วทำอะไรอีกบ้าง?
“ตอนนี้เมทัลทำหลายอย่างมากเลยค่ะ พี่มาสัมภาษณ์ในช่วงจุดเปลี่ยนของชีวิตพอดี มีทางเลือกในชีวิตเข้ามามากมายอย่างที่รู้กันว่าเมทัลเคยเป็นนักร้อง ออกซิงเกิ้ลทั้งในนามวง The Poison กับค่าย Iconic ของพี่โดม และออกซิงเกิ้ลเดี่ยว
ร้องเพลงประกอบละคร เคยผ่านผลงานการแสดงมาบ้าง แต่สิ่งที่เมทัลโฟกัสมากที่สุดในตอนนี้ก็คือการแสดงละครเวทีเรื่องแรกในชีวิต เรื่องขอพบในฝัน สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล ซึ่งจะเริ่มแสดงรอบแรก วันที่ 17 มิถุนายนนี้ จนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม จัดแสดงที่ M Theater ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ตอนนี้ก็เลยทุ่มเทกับการซ้อมละครเวทีมากเป็นพิเศษ”
มาเล่นละครเวทีได้อย่างไร?
“เริ่มจากเราเป็นนักร้องมาก่อน พอตอนร้องเพลงละครก็มีคนรู้จักเรามากขึ้น ทางผู้ใหญ่เล็งเห็นก็เลยให้มาลองแคสติ้ง ปรากฏว่าผ่านก็เลยได้มาเล่นละครเวทีเรื่องนี้ค่ะ คือต้องบอกก่อนว่าการนำเพลงของวงดนตรีระดับบรมครูอย่างสุนทราภรณ์มาตีความทำเป็นละครเวทีนั้นสนุกมาก ตั้งแต่เมทัลได้อ่านบทก็อยากเล่นแล้วค่ะ ปรับได้เข้ากับเหตุการณ์ในปัจจุบัน สนุกมาก และเพลงของสุนทราภรณ์ไพเราะมากค่ะ ทั้งภาษาที่ใช้ในเพลง ดนตรี คำร้องต่าง ๆ มีความสละสลวย ท่วงทำนองที่ไพเราะ สื่อสารความเป็นไทยได้ดีมาก ทำให้เมทัลสื่ออารมณ์ในการแสดงได้ไม่ยาก อินกับบท ปกติเวลาแสดงบทที่ผ่านมา เมทัลจะเป็นคนที่ร้องไห้ยากมากแต่เพลงของสุนทราภรณ์ทำให้เมทัลร้องออกมาได้ง่ายมาก ในเรื่องนี้ร้องหลายเพลงมาก บทของเมทัลจะเป็นคู่พระ-นางตัวหลัก ในเรื่องจะมีคู่พระ-นาง ถึง 3 คู่ด้วยกัน”
ได้อะไรจากการเล่นละครเวทีบ้าง?
“ได้อะไรหลายอย่างมากค่ะ ได้ทั้งฝึกการแสดงเพิ่มขึ้นการซ้อมร้องเพลง การฝึกฝนทักษะต่าง ๆ คือเมทัลคิดไว้ตั้งแต่ก่อนจะมาซ้อมแล้วว่าการเล่นละครเวทีครั้งนี้จะช่วยพัฒนาฝีมือในการทำงานให้เราได้แน่ ๆ ศาสตร์ของละครเวทีหนูว่ายากที่สุดในการแสดงแล้ว แต่ถึงยากแค่ไหนก็จะสู้ค่ะ อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าเป็นช่วงทางเลือกของชีวิต เมทัลเป็นคนที่ดำเนินชีวิตตามโชคชะตากำหนดมาก ไม่เคยใฝ่ฝันว่าจะได้มาเป็นนักร้อง ไม่เคยคิดว่าจะต้องโด่งดัง เป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่จับผลัดจับผลูเข้ามาในวงการบันเทิง”
ไม่เคยคิดทำงานในวงการบันเทิง ทั้ง ๆ ที่คุณพ่อเป็นร็อคสตาร์ชื่อดังของเมืองไทย?
“ใช่ค่ะ คือเมทัลเป็นเด็กกิจกรรมตอนเรียนมาตลอด แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาทำงานด้านนี้ จุดเริ่มต้นเกิดจากเราได้ไปเต้นเป็นแดนเซอร์แบคอัพให้ศิลปินดัง ๆ เมทัลว่าเป็นเพราะความโชคดีที่ผู้ใหญ่มักให้โอกาสได้ทดลองทำในสิ่งต่าง ๆ แล้วเราก็เดินตามโอกาสและทำให้เต็มที่มาตลอด จนตอนนี้เมทัลคิดว่าถึงจุดที่เราจะต้องเลือกว่าอยากจะเป็นอะไร หรืออยากจะทำอะไรในวงการบันเทิงอย่างจริงจังแล้ว ไม่ใช่แค่ว่าคนรู้จักเราเพราะคุณพ่อหรือเพราะเป็นแฟนกับพี่โดม นิสัยของเมทัลค่อนข้างจะไม่ยึดติดกับอะไร คือถ้าตามคำสอนของพุทธศาสนาก็คือทุกสิ่งล้วนอนัตตา ไม่มีอะไรที่เป็นของเราตลอดไป ทั้งชื่อเสียงหรือเงินทอง ทำให้ไม่คิดว่าจะได้ทำงานในวงการบันเทิงอย่างที่บอกไปค่ะ แต่คุณพ่อก็ขอให้เราเรียนเปียโนตั้งแต่เด็กนะ แต่ก็ไม่เคยบอกว่าต้องให้ร้องเพลง พอโตมาเราเลยได้ทักษะการเล่นดนตรีและการร้องเพลงมาโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อมีโอกาสก็เลยอยากจะทำให้ออกมาดีที่สุดค่ะ”
แล้วผลงานเพลงใหม่ล่ะ?
“นี่คือเรื่องที่เมทัลกำลังคิดหนักค่ะ อย่างที่บอกว่ามีทางเลือกเข้ามาในช่วงนี้พอดี ทั้งการแสดงและการร้องเพลง ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงติดต่อประสานงานกับค่ายเพลงในต่างประเทศอยู่ค่ะ พอดีว่าภาพลักษณ์เราอาจจะไปโดนใจชาวญี่ปุ่น เขาเลยติดต่อให้ไปร่วมงานด้วย เริ่มจากการถ่ายแบบก่อน แต่ฟีดแบคดีจนคิดว่าน่าจะมีโอกาสที่ได้ออกซิงเกิ้ลกับค่ายเขาค่ะ ตอนนี้อยู่ในช่วงคุยเรื่องสัญญา คือต้องบอกก่อนว่าเมทัลไม่ได้ฝึกร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กอาจจะเจอทางชีวิตช้ากว่าคนอื่น บางคนอาจรู้ตัวว่าอยากเป็นนักร้องหรือนักแสดงตั้งแต่เด็ก แต่เราเพิ่งมาเจอตัวตน แต่ก็คิดว่าจะสู้จะพยายามทำทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุดให้เต็มความสามารถค่ะ”
รู้จักกับคุณลูกหมี รัศมี ได้อย่างไร?
“พี่ลูกหมีเป็นคนน่ารัก เริ่มแรกเจอพี่เขาในงานอีเว้นท์ เมทัลไปร้องเพลง พอคุยกันก็ถูกคอเลยได้แลกไลน์กัน มีช่วงหนึ่งก็คุยเรื่องบุคลิกภาพ เพราะเราเป็นคนเดินไม่สวยท่าทางเหมือนผู้ชาย พี่ลูกหมีก็ช่วยแนะนำและช่วยสอนเรื่องบุคลิกภาพให้ คุณแม่เมทัลก็เลยเชียร์ให้ไปเรียนเรื่องบุคลิกภาพกับพี่ลูกหมีค่ะ เพราะอยากให้ลูกสาวดูสง่าผ่าเผยขึ้น พี่ลูกหมีใจดีมาก ช่วยสอนและแนะนำให้พอเรียนเสร็จก็จะมีเจอกันบ้างตามงานบุญต่าง ๆ พี่เขาใจบุญมากค่ะ ตอนนี้ก็ยังคุยไลน์หรือโทรคุยกันบ่อย ๆ พี่ลูกหมีเป็นพี่สาวที่หนูเคารพค่ะ”