ความหรูหราอย่างเดียวคงไม่เพียงพอสำหรับ Bentley Flying Spur รถยนต์ซาลูนสัญชาติอังกฤษรุ่นนี้เพราะใช้ระยะเวลาการออกแบบ และรังสรรค์ถึง 35 เดือน เพื่อให้เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ใหม่ล่าสุดคันนี้ ยังคงไม่ทิ้งศิลปะอันงดงาม ความคลาสสิก และประวัติที่มีมาอย่างยาวนาน ถูกออกแบบให้มีความร่วมสมัยสอดรับกับปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

เมื่อเข้าไปนั่งในที่คนขับและกดปุ่มสตาร์ท เพื่อให้ขุมพลังของเครื่องยนต์ในรูปแบบ 6 ลิตร Twin Turbocharged 48 วาล์ว W12 ทำงาน ผมก็ลืมมิได้กับคำว่า พละกำลังที่เต็มพิกัด ซึ่ง Bentley บอกว่ามีความเร็วที่สุดสำหรับรถยนต์ในค่ายของเขาสำหรับรุ่น 4 ประตู ก่อนที่ผมจะปล่อยเจ้าแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 616 แรงม้าที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบต่อนาที ซึ่งมีแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 800 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 รอบต่อนาที ซึ่งในข้อมูลเค้าแจ้งมาอย่างนี้ ก่อนจะเหยียบคันเร่งเพื่อให้รถยนต์คันนี้พุ่งทะยานออกไป กับบททดสอบครั้งนี้

ผมต้องขอยลโฉมภายในและซึมซับอารมณ์สุนทรีความงดงาม ตั้งแต่หน้าปัดที่คงความคลาสสิกเป็นอย่างดีกับความพิถีพิถันตัดเย็บหนังที่มีความเชื่อมโยงสอดประสานกลมกลืนกันได้อย่างลงตัว พร้อม ๆ กับ ลายไม้ที่มีเอกลักษณ์ อีกทั้งได้บรรจุอุปกรณ์เพื่อให้ความบันเทิงชั้นนำและเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกมาอย่างครบครัน บอกเลยว่าไม่ต้องไปหาอะไรมาเพิ่มเติมอีกแล้ว

อ้อ! ลืมบอกไปว่าก่อนที่ผมจะเข้ามานั่งภายใน ผมเดินสำรวจกับเจ้ารถยนต์คันนี้รอบคัน ต้องบอกว่าไม่เสียแรงเลยที่ใช้เวลาถึง 35 เดือน เพราะมีความลงตัวตั้งแต่หัวจรดท้าย เส้นสายลายโค้งเว้ามีความคมชัด จัดจ้าน อย่างน่าหลงใหลผมเลยอดคิดไม่ได้ว่า เวลาซ่อมมันจะเป็นยังไงก็ได้คำตอบสั้น ๆ ในใจว่า ก็อย่าขับไปชนก็แล้วกันมันจะได้คงความสวยงดงามอย่างนี้ตลอดไป

เมื่อเวลาของบททดสอบมาถึง มือจับพวงมาลัย พร้อมกับเท้าเหยียบคันเร่งเพื่อให้เจ้า Bentley Flying Spur คันนี้ทะยานไปบนเส้นทางจากแยกอโศก เพื่อตรงไปถนนพระราม 3 ในระหว่างทางบนถนนที่หนาแน่นด้วยจำนวนรถมากมาย แต่ยานพาหนะคันนี้ ก็สามารถขับได้อย่างสะดวกสบาย พร้อม ๆ กับทัศนะวิสัยที่ดีเยี่ยมและคล่องตัวมาก ๆ แต่ความประทับใจหลังจากที่หลุดเข้าถนนพระราม 3 และสามารถใช้ความเร็วได้อย่างเต็มที่ จนไปถึงบนสะพานภูมิพล ต้องบอกเลยว่าได้พบกับประสิทธิภาพของเจ้าเครื่องยนต์ W12 ที่ติดตั้งมาคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว และราบรื่นนุ่มนวลเป็นอย่างมาก อารมณ์ของหลังติดเบาะจากความเร็วที่ขับได้ดั่งใจคิด ของอัตราเร่งในการแซง และเป็นการขับที่สนุกสนาน เพราะการที่เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและส่งพละกำลังเครื่องยนต์ตรงเข้าสู่ล้อได้อย่างแม่นยำด้วยอัตราทดเกียร์ที่ดีเยี่ยม ซึ่งสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 4.6 วินาทีเท่านั้น และทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้บททดสอบในครั้งนี้เป็นความประทับใจอย่างยิ่ง

ซึ่งอยากจะบอกว่าถ้าใครคิดจะซื้อเจ้า Bentley Flying Spur คันนี้แล้วไม่มีโอกาสได้ขับเอง บอกได้คำเดียวว่า คุณพลาดโอกาสสัมผัสกับนวัตกรรมอันแสนวิเศษอย่างครบถ้วนแล้วหละครับ ที่สำคัญ Bentley Flying Spur ไม่ลืมที่จะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพราะนอกจากความสามารถของพละกำลังในการขับเคลื่อนแล้ว ประสิทธิภาพในเรื่องของการปล่อยมลพิษก็ได้รับการพัฒนาอย่างดีเยี่ยมด้วยเช่นกัน

Bentley Flying Spur W12 มีค่าตัวอยู่ที่ 25.2 ล้านบาท ถ้าคิดจะให้รางวัลของชีวิตด้วยรถยนต์สักคันหนึ่งผมว่า รถยนต์คันนี้ต้องเป็นตัวเลือกแรก ๆ อย่างปฏิเสธไม่ได้แน่นอนครับ หากสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส โทร 0-2261-1050-1