คำว่า “ด่าน” ในภาษาของตำรวจนั้นมีอยู่หลายชนิดครับ ไม่ว่าจะเป็น ด่านความมั่นคง, ด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์, ด่านจราจร, ด่านควันดำ หรือ ด่านตรวจค้น ด่านก้าวสกัดจับ การจะตั้งด่านเหล่านี้ ไม่ใช่อยู่ ๆ จะไปตั้งได้ ทางสถานีตำรวจหรือหน่วยในกองบังคับการจราจรกลาง จะต้องทำเรื่องแผนการตั้งด่านไปยังกองบังคับการที่สังกัด จากนั้นจึงจะมีหนังสือจากหน่วยงานเป็นคำสั่ง ให้ไปตั้งด่านได้ 

ซึ่งทั้งหมดนี้ “ด่านความมั่นคง” เป็นด่านเพียงชนิดเดียว ที่จะต้องมีหนังสือสั่งการจากกระทรวงกลาโหม โดยมีรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงเป็นผู้ลงนามเท่านั้น จึงจะสามารถตั้งด่านชนิดนี้ได้ เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศไทยโดยเฉพาะครับ โดยด่านความมั่นคงจะเป็นการสนธิกำลังกันระหว่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจกับทหาร จะเป็นด่านถาวร ตำรวจพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงจะหมุนเวียนสับเปลี่ยนกำลังตลอด 24 ชั่วโมง คอยบริการและป้องกันเหตุให้ประชานจนกว่าจะมีคำสั่งยกเลิก ดังเช่นด่านราชประสงค์พระพรหมเอราวัณ เป็นต้นนั่นเอง

ผมซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม นั้นก็มักจะต้องทำหน้าที่ตั้งด่านตรวจค้นอยู่เป็นประจำ สิ่งแรกที่จะต้องเฝ้าตรวจค้นและเฝ้าระวังคือ “ยาเสพติด” สิ่งต่อมาคือ “อาวุธ” ไม่ว่าจะเป็นปืนหรือมีด เมื่อจะต้องทำการควบคุมตัวและนำไปทำบันทึกจับกุมที่สถานีตำรวจ และสิ่งสุดท้ายคือ “รถต้องสงสัย” รถคันใดไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หรือ คันใดไม่มีเอกสารคู่มือรถมาแสดง จะต้องนำไปเปรียบเทียบปรับที่สน. และทำประวัติ ตรวจสอบสถานะรถว่ารถคันดังกล่าว ถูกขโมยมาหรือไม่ หากถูกขโมยมา คนผู้นั้นจะต้องถูกดำเนินคดี “ลักทรัพย์หรือรับของโจร” ไปตามกฎหมาย 

วันหนึ่งขณะที่ผมทำการตั้งด่านอยู่นั้นมีหนุ่มสาวชายหญิงหน้าตาดีคู่หนึ่งอายุไม่น่าเกิน 20 ปี ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านเข้ามายังด่านที่ผมควบคุมอยู่ จึงได้เรียกให้หยุดและสอบถามจึงได้ทราบว่า ทั้งคู่เป็นแฟนกันกำลังจะไปดูหนังเลยขับผ่านมาในเส้นทางนี้ ไหน ๆ ก็ผ่านเข้ามาแล้ว ผมและลูกชุดจึงได้เรียกขอตรวจค้นเบื้องต้นนั้น รถมีเอกสารการครอบครองถูกต้องฝ่ายชายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีไม่มีสิ่งผิดกฎหมายใด ๆ ในตัว 

แต่..!! ผู้หญิง มีท่าทีไม่ให้ตรวจค้น โดยเฉพาะกระเป๋าที่เธอถืออยู่...

ด้วยลางสังหรณ์ของความเป็นตำรวจผมค่อนข้างมั่นใจว่า ในกระเป๋าของเธอนั้นต้องมีสิ่งผิดกฎหมายเป็นแน่แท้ 

ผม    :    น้องครับ..!! ทำไมน้องไม่ให้พวกพี่ตรวจค้นกระเป๋าน้องล่ะครับ..?
ญ     :    ก็หนูไม่ให้ตรวจค่ะ พวกพี่มีสิทธิอะไร มาตรวจค้นกระเป๋าหนู..?
ผม    :    ตามประมวลกฎหมาย ป.วิอาญา ตำรวจสามารถเรียกตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยในที่สาธารณะได้อยู่แล้วครับ และที่นี่คือด่านตรวจค้น ชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว เอาเรื่องกระเป๋าน้องดีกว่า ในนั้นมีอะไรกันแน่ ทำไมไม่ให้พวกพี่ตรวจค้น หรือมีอะไรผิดกฎหมายกันแน่นครับน้อง...? (ผมเริ่มเสียงแข็ง)
ญ    :    โธ่ พี่ ก็มันไม่มีอะไร (เริ่ม...สั่น ออกอาการ)
ผม    :    ไม่มีอะไรก็ต้องให้ตรวจสิครับ ยิ่งทำอย่างงี้พี่ยิ่งสงสัยนะครับ (ตอนนี้ผมมั่นใจหนักมากว่า ต้องมียาเสพติดอยู่แน่ ๆ) 
ญ    :    มันไม่มีอะไรจริง ๆ 
ช    :    ไม่มีอะไรก็ให้พี่เขาดูไปสิ จะได้ไปดูหนังสักที เธอยื้อไม่ให้ตรวจอย่างนี้ยิ่งเสียเวลาเดี๋ยวก็ไม่ทันรอบหนังหรอก 

ทั้งฝ่ายตำรวจ และฝ่ายแฟนผู้ชายต่างช่วยกันกดดันสาวคนนี้อย่างหนัก จนในที่สุดเธอก็ยอมให้ตรวจค้น ผลการตรวจค้นภายในกระเป๋าไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายใด ๆ เลย เหลือแต่กระเป๋าสตางค์เท่านั้นที่ไม่ได้ตรวจ

ผมเป็นคนทำหน้าที่ตรวจกระเป๋าเอง ทุกซอกทุกมุมในกระเป๋า ว่ามีถุงซิปใส่ยาซุกซ่อนอยู่หรือเปล่า และผมก็สะดุดเข้ากับ สิ่งหนึ่ง....

บัตรประชาชนลงชื่อว่า นาย...วรรณพร 
นาย...นาย...นาย... นาย.... นาย...... ไม่ใช่นางสาว...ไม่ใช่ผู้หญิง...อ่าวววววว ไม่ใช่ ผู้หญิง... (ผมคิดทบทวนอยู่ในใจเพราะน้องสวยมาก ๆสวยจนผู้หญิงยังอาย ผมงงไปหมด แทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น) 
ผม    :    อ่าว...!! น้อง นี่น้องเป็นผู้ชายหรอกเหรอ...??? (ผมอุทานถามมาอย่างตกใจ)
ญ    :    พี่...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! (เธอร้องเรียกออกมาอย่างมีอาการผวา)
และ ทันใดนั้นเอง..!!
อ่าวว..!! อีห่านนน มึงเป็นกะเทยเหรอเนี่ย..??? (ผู้ชายร้องออกมาอย่างตกใจเช่นกัน) แล้วฝ่ายชายก็สตาร์ทรถและขี่ออกไปจากด่านทันที ทิ้งของกลางคือแฟนสาวประเภทสองที่เป็นอดีตคนเคยรักจากการถูกแฉคาด่าน
ผม    :    เอ่อน้อง แฟนน้องไม่รู้หรอกเหรอ พี่ขอโทษ...
ญ    :    โธ่ พวกพี่ทำไมทำกับหนูอย่างนี้ หนูอดหมดเลย ฮึ่ยยย...!!!!!! (และเธอก็เดินเท้าออกไปจากด่าน อย่างไม่สบอารมณ์ ปล่อยให้พวกผมมองตาปริบ ๆ)

เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมอยากให้ท่านผู้อ่านเห็นข้อดีของด่าน หากไม่มีด่านในวันนั้น ชะตากรรมของชายหนุ่มหน้ามลคนนั้นจะเป็นอย่างไร มันอาจจะไม่ใช่ความรักที่หอมหวานดั่งที่เขาปรารถนา แต่อาจจะกลายเป็นมนต์รักฟักทองบด ที่ต้องเจ็บช้ำใจไปอีกนานแสนนาน 

ปล.ขอโทษน้องคนสวยในวันนั้นด้วย จากนี้ไปผมจะไม่อุทานดังเช่นนั้นอีกต่อไป 

ปล.2 ไอ้หนุ่ม เอ็งติดหนี้พี่นะเว้ยยย

ปล.3 สวยขนาดนี้ ไปประกวดเวทีมิสทิฟฟานี่เถอะน้อง รุ่งโรจน์ชัวร์ ๆ