ปีที่ 8 ของ
Smart Nation ที่เต็มไปด้วยความมีระเบียบ เมืองแห่งนวัตกรรม ปีนี้เป็นปีที่สิงคโปร์ครบรอบการสร้างชาติ 50 ปี ตั้งแต่ได้เอกราชจากมาเลเซียเมื่อ ค.ศ.1965 และแน่นอนว่าช่วงเดือนกันยายนแบบนี้ สิงคโปร์จะคึกคักเป็นพิเศษกับการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง Singapore Grand Prix ซึ่งเป็นการจัดต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 8
เป็นภาพที่คุ้นชินไปแล้วกับแฟนกีฬาทั่วโลกที่หลั่งไหลมารวมตัวกันที่มารีน่าเบย์ เพื่อมาชมการแข่งขันสตรีท ไนท์เรซที่ตื่นตาตื่นใจ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับประเทศในเอเชียที่สามารถประสบความสำเร็จกับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน F1 ซึ่งหลายประเทศในเอเชียเคยจัดการแข่งขันมาแล้วอย่างประเทศเกาหลีใต้ที่จัด Korean Grand Prix แต่สุดท้ายในปีนี้ก็ไม่สามารถที่จะยืนหยัดจัดลงในปฏิทินการแข่งขันได้เนื่องจากประสบปัญหาทั้งเรื่องของสนามการแข่งขัน ที่พัก รวมถึงสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุน แต่เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นที่สิงคโปร์
นับตั้งแต่มีการจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี 2008 ฟอร์มูล่าวัน ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และเศรษฐกิจให้แก่ประเทศสิงคโปร์ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมการแข่งขัน F1 มากกว่า 250,000 คน จากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งยังมีจำนวนผู้ชมทั่วโลกมากกว่า 500 ล้านคน แต่กว่าจะประสบความสำเร็จนั้น สิงคโปร์ ก็มีปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการต่อต้านจากประชาชนในตอนแรกที่ไม่เห็นด้วยกับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน F1 ทั้งเรื่องเสียงที่ดังของรถสูตรหนึ่ง รวมถึงเรื่องของมลภาวะ แต่สิงคโปร์สามารถพิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นแล้วว่าสามารถทำได้
สนามมารินาเบย์ สตรีท เซอร์กิต ถือว่าเป็นสนามที่ขับยากโค้งเยอะ ไม่สามารถทำความเร็วได้เหมือนแข่งตอนกลางวันความเร็วไนท์ เรซ ประมาณ 270 - 280 กม./ชั่วโมง
ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของวิวที่สวยงามยามค่ำคืน เส้นทางของการแข่งขันที่เต็มไปด้วยแลนด์มาร์คสำคัญ การปล่อยตัวจาก F1 Pit Building บริเวณนั้นเราจะพบกับชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ Singapore Flyer ซึ่งหากแฟนๆ ที่ซื้อตั๋วโซนหนึ่งก็จะสามารถขึ้นไปนั่งกระเช้าชมวิวการแข่งขันแบบพาโนรามา ไม่จำกัดรอบ ซึ่งการขายตั๋วชมการแข่งขันแบ่งออกเป็นโซน ราคาบัตรเข้าชมก็จะแตกต่างกันออกไปตามทำเล พิกัด แต่บางคนที่ชอบเดินมากกว่า ก็จะขอซื้อตั๋ว Walkabout เพื่อเดินชมรอบการแข่งขัน บรรยากาศสิงคโปร์ยามค่ำคืนต้องขอบอกว่าสวยเว่อร์วังอลังการมากๆ ประหนึ่งหลุดออกมาจากภาพยนตร์เรื่อง Avatar เลยทีเดียว กับวิวทิวทัศน์ของ Garden By The Bay สวนพฤกษชาติที่ถูกสร้างขึ้นด้วยงบประมาณกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสิงคโปร์ตลอดสัปดาห์ของการแข่งขัน สิงคโปร์จะกลายเป็นเมืองแห่งความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นงานอีเวนท์ ขบวนพาเหรด สตรีทโชว์คอนเสิร์ตจากนักร้องระดับโลกที่จัดเอาใจแฟนกีฬา ซึ่งปีนี้นำโดย ลุงบอง โจวี่ It’s my life พี่อดัมและผองเพื่อน แห่ง Maroon 5 ที่ตั๋วคอนเสิร์ตในประเทศไทยหายากจนกลายเป็นดราม่า ทำให้หลายคนจ่ายตังค์ซื้อตั๋วไปดูเอฟวันพ่วงกับคอนเสิร์ต Maroon 5 ซะเลย
สำหรับคิวการแสดงของ ฟาร์เรลล์ วิลเลียมล์ ศิลปินเพลงอาร์แอนด์บี จะมาโชว์เสียงร้องในรอบทดสอบสนาม วันศุกร์ที่18 ก.ย. ตามด้วย อดัม เลอวีน และผองเพื่อน รอบควอลิฟายวันเสาร์ที่ 19 ก.ย. และปิดท้ายด้วย บอง โจวี่ ในวันที่ 20 ก.ย. และสำหรับปีที่พิเศษของสิงคโปร์แบบนี้ มีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน ดังนั้น ห้ามพลาดกับ 2015 Singapore Grand Prix เด็ดขาด