เมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวเกรียวกราวในแวดวง Social Network ของไทย เมื่อดีเจในสังกัดค่ายเกมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ล่อลวงเด็กสาววัยไม่ถึง 18 ปี ขึ้นคอนโด จนกลายเป็นประเด็นใหญ่โต โดยเฉพาะข้อหาพรากผู้เยาว์ แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนน่าจะยังสงสัยกันว่าทำไมเด็กวัยรุ่นถึงเต็มใจพบกับคนแปลกหน้าได้ง่ายๆ Parallel World ฉบับนี้จึงขอวิเคราะห์กันให้ฟัง
ปัญหาวัยรุ่นกับการพบเจอบุคคลจากอินเตอร์เน็ตนี้ ไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทยจนเราสามารถแปะตรา Thailand Only ได้ ในต่างประเทศก็มีปัญหานี้เหมือนกัน อย่างคลิปหนึ่งของ Coby Persin ที่ทดลองทางสังคมกับเด็กสาว 3 คน ช่วงวัยประมาณ 13 - 14 ปี โดยการเปิดบัญชีเฟซบุ๊กปลอมเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง เพื่อแชทกับสาวๆ ทั้งสามและขอให้พวกเธอออกมาพบเขา
แน่นอนว่าเมื่อผู้ปกครองเผลอ เด็กสาวทั้ง 3 ก็ออกมาพบกับเด็กหนุ่มที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่แทนที่จะได้พบกันสมใจ กลายเป็นพบกับผู้ปกครองตนเองแทน Coby Persin ติดต่อเพื่อขออนุญาตและให้ร่วมการถ่ายทำเพื่อดูพฤติกรรมของลูกสาว ซึ่งตอนแรกพ่อแม่ก็ไม่เชื่อว่าลูกตัวเองจะออกมาพบกับคนแปลกหน้าแบบนี้ แต่เมื่อผิดคาดก็จึงต้องสั่งสอนกันไป
เหตุผลที่ทำให้เด็กๆ กล้าที่จะออกไปพบกับคนแปลกหน้าก็คงต้องมองย้อนถึงจิตวิทยาของคนทั่วไปที่ธรรมชาติมักสร้างให้มนุษย์เป็นคนที่ “มองโลกในแง่ดี” เป็นพื้นฐานกันตั้งแต่เกิด คือถ้าใครที่ไม่เจอเหตุการณ์ร้ายแรง เคยถูกคนอื่นหลอก ทุกคนก็มักจะมองโลกในแง่ดีกว่าความเป็นจริง คิดว่าคนอื่นๆ ที่เข้าหาก็น่าจะทำดีกับเราด้วยทั้งนั้น
เด็กวัยรุ่นที่ยังอ่อนต่อโลก เป็นวัยที่ธรรมชาติสร้างมาให้ลองทำหลายอย่างเพื่อค้นหาตัวเอง พร้อมจะเปิดใจรับสิ่งใหม่เสมอ ซึ่งเมื่อก่อนเราไม่มีปัญหานี้มากเท่านี้ เพราะการเจอเพื่อนใหม่ในยุคก่อนคือการได้เจอหน้าค่าตา ฟังน้ำเสียง เห็นแววตากันจริงๆ การพบบุคคลใหม่ๆ ของเด็กจึงถูกจำกัดไว้ในขอบเขตที่เหมาะสม แต่ปัจจุบันด้วยการสื่อสารที่ทันสมัย ทำให้เด็กสามารถหาเพื่อนได้ไกลขึ้น รู้จักกันโดยที่ไม่เคยเห็นตัวจริงด้วยซ้ำ
อีกทั้งความเพ้อฝันของเด็กก็เป็นอีกประเด็นสำคัญ ถ้าเรากลับไปทบทวนความคิดของเด็กวัยรุ่น ก็จะพบความจริงอย่างหนึ่งคือ วัยรุ่นเป็นวัยที่ไม่มีตัวตนของตัวเองเด่นชัด เพราะยังไม่รู้จักตัวเองชัดเจน นี่จึงเป็นคำตอบว่าทำไมวัยรุ่นจึงมีไอดอล มีคนที่คลั่งไคล้ มีคนต้นแบบเพื่อลองดำเนินชีวิตตามแบบที่คิดว่าดี ว่าเท่ ซึ่งสุดท้ายสิ่งต่างๆ ในชีวิตหลายอย่างก็จะผสมกันจนเป็นตัวตนของตัวเอง เป็นความถนัด เป็นแนวทางชีวิตในอนาคตของวัยผู้ใหญ่ ทำให้ความเพ้อฝันของเด็กวัยนี้
ที่อยากเป็น อยากได้ หรืออยากเจอคนที่เป็นไอดอล จึงกลายเป็นเรื่องอันตรายถ้าหากไอดอลของพวกเขาไม่ใช่คนดี
วิธีป้องกันก่อนจะเกิดเหตุแก่บุตรหลาน ก็คงต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องทำคือ “ฟังและสนใจ” สิ่งที่พวกเขาเล่าให้ฟัง แล้วให้คำแนะนำแต่พยายามอย่าบงการมากเกินไป เพราะสิทธิพิเศษอย่างหนึ่งของเด็กและวัยรุ่นคือ ทำผิดก็ยังมีโอกาสแก้ตัวเสมอ ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ก็ให้เด็กๆ ได้รับรู้ความเจ็บปวด เรียนรู้ วิธีการแก้ไขด้วยตัวเองบ้าง ประสบการณ์ความผิดพลาดจะช่วยป้องกันเรื่องวุ่นวายในอนาคตเอง
ปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นทุกยุค ทุกสมัย เพียงแต่ว่าจะปรับไปในรูปแบบไหนก็แค่นั้นเอง แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าครับ สวัสดีครับ