EDITOR’S PAGE
ศิลปวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือบ่งบอกความเป็นชาติให้ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน และยังสามารถแสดงถึงวิถีแห่งจิตวิญญาณของความเป็นคนในชาตินั้นๆ อีกด้วย
สำหรับประเทศไทยแล้ว มีประวัติศาสตร์ทางศิลปวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน ถึงแม้บางช่วงบางตอนจะได้รับอิทธิพลจากประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเดียวกัน หรือแม้แต่ทางฝั่งตะวันตกเองก็ตามต้องยอมรับว่ามีผลกระทบต่อวิถีของคนในชาติอยู่ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม อิทธิพลเหล่านั้นก็สามารถเข้ามามีบทบาทอยู่ในบางช่วงบางตอนเท่านั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าบางจังหวะมีความรุนแรงของกระแสจนถึงขนาดสร้างปรากฏการณ์ที่เรียกว่าฟีเวอร์ได้เช่นกัน อีกทั้งคลื่นความถี่เหล่านั้น ก็สามารถเข้าไปฝังรากกับคนส่วนหนึ่งได้ ถึงแม้ว่าไม่ทั้งหมดก็ตาม เพราะอย่างน้อยเราก็ได้เห็นทั้งทางภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญในการรณรงค์เพื่อสืบสานศิลปวัฒนธรรมให้คงอยู่คู่ความเป็นไทยอย่างสม่ำเสมอ
แต่เรื่องเหล่านี้ต้องทำอย่างจริงจัง เป็นรูปธรรมและที่สำคัญต้องสร้างจิตสำนึกของทุกคนในชาติ เพื่อหยั่งรากลึกโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนอย่างยั่งยืนถาวร เพราะฉะนั้นการกระทำใดๆ ก็ตาม ต้องไม่เป็นการยัดเยียด ต้องทำให้คนทุกคนรู้สึกซาบซึ้งและภูมิใจในความเป็นไทยเป็นอันดับแรก อย่าบังคับให้รักให้ชอบ ต้องให้ความรู้ความเข้าใจ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าวันนี้เราบังคับให้เด็กดูโขนดูละครโดยที่ไม่เคยทราบความเป็นมาเรื่องราวอย่างแท้จริง เขาก็ไม่เข้าใจ ไม่สามารถเข้าถึงได้เขาก็ดูไม่สนุก ในที่สุดก็ไม่ยอมรับไม่ดู อย่าไปโทษใครครับ ต้องโทษว่าเราไม่มีปัญญาที่สามารถเข้าถึงพวกเขาได้เอง การยอมรับและซาบซึ้งในเรื่องใดไม่ได้เกิดขึ้นได้ในชั่วเวลาข้ามคืน ต้องอาศัยเวลา มีแผนและต้องมีศรัทธาที่แรงกล้าของคนเริ่มต้น และที่สำคัญต้องไม่ยัดเยียด เพราะก่อนที่เกาหลีจะเข้ามาสร้างปรากฏการณ์ฟีเวอร์ในประเทศไทย เขามีแผนอย่างชัดเจน ต้องใช้ความร่วมมือและลงทุนกันอย่างจริงจังมากมายมหาศาล จนประสบความสำเร็จอย่างที่เห็น เพราะเขาสามารถสร้างความเข้าใจ เข้าถึงในการยอมรับและคนส่วนใหญ่ประทับใจครับ
ประเทศเรายังมีของดีหลายอย่างที่คนอีกจำนวนมากไม่ทราบ และรอวันเวลาสร้างความภาคภูมิใจของคนไทยด้วยกัน อย่างที่บอกหล่ะครับความซาบซึ้งบังคับกันไม่ได้ เมื่อใดที่ทุกคนรู้สึกภูมิใจและเห็นความงดงามอีกมากมายที่เรามีอยู่จนซาบซึ้ง วันนั้น ประเทศไทยที่รักของเราก็คงเป็นแผ่นดินทองครับ
ชโลทร ศิวารัตน์
บรรณาธิการบริหาร