ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ

ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ

“ผมสอนลูกน้องทุกวัน ว่าอย่ากลัวความผิดพลาด และปัญหา เพราะมันคือสิ่งที่จะทำให้เราเก่ง ผมถือว่าหน้าที่ของผู้บริหารมีสองอย่าง คือทำงาน และทำคนให้เก่งขึ้นดีขึ้น”

 

ตำแหน่งของ ดร.บรรพต คือ Managing Director ของบริษัท RTB Technology บริษัทที่นำเข้าหูฟังบลูทูธอย่าง Jabra ที่ตอนนี้มีส่วนแบ่งตลาดในประเทศไทยเป็นอันดับหนึ่ง ก่อนหน้านี้เขาเคยผ่านการทำธุรกิจประเภทอื่นๆ มาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแรกที่เขาได้ลงมือทำอย่าง อีคอมเมิร์ซ ตามมาด้วยธุรกิจที่สอง ดิสทริบิวเตอร์สินค้าให้กับโรงงานอุตสาหกรรม และอย่างที่สามก็คือการทำเซอร์วิสให้กับมือถือและคอมพิวเตอร์ แต่ด้วยความที่เป็นมือใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ทำให้ประสบปัญหา
เยอะมาก ทั้งในเรื่องของรายได้กับรายจ่ายที่ไม่สมดุลกัน รวมถึงเรื่องของบุคลากรและเรื่องของกลยุทธทางธุรกิจ แต่ถึงแม้จะประสบปัญหาถึง 3 ครั้ง เขาก็ยังพลิกกลับมาสร้างความสำเร็จใหกับธุรกิจตัวเองได้

 

“ผมว่าคนทำธุรกิจต้องทำใจว่ามันต้องมีพลาดบ้าง พอหลังๆ มันทำให้ผมรู้ว่าไม่ต้องไปเสียใจ เพราะนี่คือครู เป็นบทเรียนที่มีค่าที่สุด การมีปัญหาทำให้เราพัฒนาตัวเอง ทีมงานเราก็ได้พัฒนาด้วย และพอไม่กลัว เราก็จะกลายเป็นคนเก่งขึ้น

 

“ธุรกิจแรกพลาดเยอะมาก ธุรกิจที่สองพลาดเยอะแต่ก็น้อยกว่าครั้งแรก ธุรกิจที่สามก็พลาดแบบครึ่งหนึ่ง พอมาธุรกิจที่สี่ก็พลาดสัก 25% ถูกสัก 75% มันทำให้รู้ว่าพอเรามีปัญหา ปัญหาคือโอกาส บางครั้งยอดขายตก มันบีบให้เราต้องเปลี่ยนโฟกัสธุรกิจครับ อย่างตอนที่เราเข้าไปคุยกับต่างประเทศก็คิดว่าตลาดหูฟังบลูทูธมันใช่เลย เราเองมาก่อนรายอื่นในประเทศไทย จึงถือว่าเป็นการได้เปรียบครับ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าสำเร็จ คือกลยุทธสามารถทำให้เราสำเร็จได้แค่ 20 % แต่การปฏิบัติจะสามารถทำให้เราสำเร็จได้ถึง 80 %”

 

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือเขาสามารถนำปัญหามาแปลงเป็นโอกาสให้กับธุรกิจได้เสมอ อย่างในช่วงที่เขาทำธุรกิจเซอร์วิสให้กับมือถือ เขามองว่าธุรกิจการบริการหลังการขาย (รับซ่อม) มือถือ มีการแข่งขันกันสูงจึงเบนเข็มมาเริ่มซ่อมสมาร์ทโฟน ซึ่งกำลังมาแรง และหลังจากที่ยอดขาย (ซ่อม) เติบโตไปตามกระแสการตอบรับของสมาร์ทโฟน ธุรกิจก็โตตามไปด้วย และนั่นก็เป็นจุดเริ่มของการนำเข้าหูฟังบลูทูธแบรนด์ที่ชื่อ Jabra

 

“ในช่วงที่ผ่านมา มีคนหันมาทำหูฟังบลูทูธเยอะมาก จากที่มีอยู่ในตลาด 10 กว่าแบรนด์ ตอนนี้มีมากกว่า 30 แบรนด์ ทำให้เราต้องสื่อสารในเรื่องของคุณภาพให้ลูกค้าเห็น และต้องมีการบริหารจัดการที่ดี ทีมการตลาดเองก็ต้องพยายามคิดนอกกรอบ แต่ก็จะมีการประเมินความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงการคิดที่จะนำไปสู่ความล้มเหลว สำหรับตัวหูฟังบลูทูธเอง ในอนาคตก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความคิดที่ว่ามันไม่ได้เป็นของใช้เพียงอย่างเดียว

 

“เราทำการตลาดค่อนข้างหนัก เราจึงต้องคิดนอกกรอบแต่มันก็ต้องระวัง บางทีเส้นแบ่งคำว่าอัจฉริยะกับคนบ้ามันบางมาก ทีมงานเราพยายามทำให้มันเป็นเครื่องประดับ อย่างเอาเพชร คริสตัลหรือสติ๊กเกอร์มาติด เท่าที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดีของเราจะมีวัสดุอุปกรณ์ให้มีสติ๊กเกอร์ อย่างในงานคอมมาร์ทเราจะให้ลูกค้าลองออกแบบเอง หรือในช่วงต้นปี มีสินค้าจากจีนค่อนข้างมาก ราคาถูกจริง แต่พอซื้อไปอาจใช้ไม่ได้ ทางเราจึงคิดโปรโมชั่นเก่าแลกใหม่ออกมา แล้วก็ให้คนที่ไม่พอใจคุณภาพเอามาแลกซื้อกับเราในราคาที่ถูกลง ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากครับ”

 

ตามการคาดการของ ดร.บรรพต เทคโนโลยีจะมารองรับไลฟ์สไตล์ต่างๆ มากขึ้น อย่างบลูทูธเองก็เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น มีกลุ่มของเอนเตอร์เทนที่ฟังสเตอริโอ ถ้าจะเป็นกลุ่มของนักธุรกิจก็จะมีอีกแนวหนึ่ง หรือดีไซน์วัยรุ่นก็จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง

 

“ผมคิดว่า Jabra ตอนนี้อยู่ตัวแล้ว เราก็อยากรักษาความเป็นเบอร์หนึ่งตรงนี้ไว้ ส่วนธุรกิจด้านอื่นเรามีความตั้งใจไว้ว่าจะนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ ทางด้านเทคโนโลยีหรือไอทีเข้ามาในเมืองไทยต่อไปเรื่อยๆ อย่างเช่นที่เรานำมาก็คือตัวแอคเซสซอรี่ของไอโฟน ภายใต้แบรนด์ Gear4 ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่เรามองไว้”

 

วันหนึ่งๆ เขาทำงานหนักพอสมควร แต่เขาบอกว่าเมื่อทำงานที่ตัวเองรักแล้วเราจะไม่รู้สึกเหนื่อย

 

“สำหรับผม มันไม่มีเส้นแบ่งในเรื่องของการทำงานกับการพักผ่อน แต่ก็ยังมีเวลาออกกำลังกายนะครับ เมื่อก่อนผมเล่นเทนนิสเดี๋ยวนี้เลิกไปเพราะปวดหลัง ปัจจุบันก็เข้ายิมฯ แทน นอกนั้นถ้ามีเวลาว่างผมก็จะชอบไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปทะเล ไปภูเขา หรือไปดูวัฒนธรรมอื่นๆ ที่แตกต่างกันไป ก็ช่วยผ่อนคลายได้ครับ นอกจากนี้เมื่อมีปัญหาธรรมะก็ช่วยได้เยอะ อย่างเวลาเราทำงานถึงจุดๆ หนึ่งบางครั้งถ้ามันมีแสงสว่างมันก็ช่วยให้ชีวิตมีความสุขขึ้น ธรรมะเป็นเรื่องของธรรมชาติ เป็นเรื่องของคน เป็นเรื่องสังคมที่เราอยู่ พอเราเข้าใจแล้ว เมื่อมีอะไรเข้ามา เราก็จะทำใจได้ครับ”

“ปัญหาและความผิดพลาดคือโอกาสในการพัฒนา”