หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ

หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ

และเธอคือ โอ๋ หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ

 

ตกลงเราจะเรียกคุณว่าเป็นศิลปินอะไรดี?

 

“คนรู้จักโอ๋ก็มาจากทุกทางนั่นแหละค่ะ อย่างบางคนโทรมาถามว่ามีคิวว่างมั้ย โอ๋ก็ถามต่อว่าพี่คะ จะให้ทำอะไร (หัวเราะ) แต่ไม่ว่าโอ๋จะอยู่ในตำแหน่งไหน โอ๋ก็ยังเหมือนเดิมตลอด ไม่เคยคาดหวังว่าจะให้คนรู้จักในฐานะอะไร โอ๋ก็เหมือนคนที่ทำอะไรได้หลายอย่าง บางคนบอกให้โอ๋ไปวาดรูปแบบจริงจังเพียงอย่างเดียว ก็แล้วแต่คนชอบ”

 

การทำงานแบบเธอนั้นก็มีข้อดีในความหลากหลายคือทำให้ไม่เบื่อ เธอบอกกับเราว่าหากวาดรูปไปนานๆ แล้วเกิดอาการตันขึ้นมาก็จะมาเล่นดนตรีแทน พอเล่นดนตรีแล้วความคิดตัน ก็กลับมานั่งวาดรูปที่บ้าน เป็นการทำงานที่ดูมีความเป็นอิสระไม่น้อย

 

ถ้าพูดถึงงานเพลงนอกจากวงกรูที่เธอเป็นมือเบสแล้ว เธอยังมีงานชิ้นใหม่ที่ออกมาใน Green Light Project ที่นำนักร้อง 5คนมารวมกัน แบ่งกันร้องคนละ 2 เพลง ซึ่งเธอเองก็ยอมรับว่าต่างจากการอยู่ในวงกรูพอสมควร เพราะเธอไม่ได้เป็นคนร้อง ได้แต่เล่นเบสอย่างเดียว โดยงานเพลงที่ว่ามีชื่อเพลงซึ่งฟังดูโหดไปนิดว่า “ฆ่าตัวตาย”

 

“ผลตอบรับก็ดีเลยค่ะ มีการสัมภาษณ์กับสื่อวิทยุ เพลงก็เริ่มมา ก็ดีใจค่ะ ที่สำคัญภาพแรงด้วย ทุกคนก็ชม ก็ดีใจ ทุกคนจะนึกว่าฆ่าตัวตาย แต่จริงๆ ประชดประชันสุดฤทธิ์ เพลงนี้เป็นเพลงที่โอ๋แต่งเองด้วยค่ะ ส่วนใหญ่เพลงโอ๋จะเป็นเพลงที่เหมือนกับแต่งเพลงให้ตัวเองร้องง่ายๆ”

 

สิ่งที่เธอกำลังตื่นเต้นในขณะนี้ก็คือการเขียนพ็อกเก็ตบุ๊คเรื่อง Travelogue By OH+ ได้รวมเอาชีวิตตอนที่เธอไปเที่ยวต่างประเทศมาเล่าสู่กันฟังอย่างสนุกสนาน ปกติแล้วเธอเป็นคนที่เดินทางบ่อยมาก ไม่ว่าจะไปเพราะตั้งใจไปทำงานศิลปะ เล่นคอนเสิร์ตหรือไปเที่ยวแบบธรรมดา เรื่องราวจากประสบการณ์ของเธอจึงน่าสนใจไม่น้อย

 

“ที่เหนื่อยกับเล่มนี้ก็เพราะโอ๋เลือกอาร์ตไดเร็คเตอร์ที่ทำหนังสือเล่มนี้ให้เป็นชาวเยอรมัน เขาอยู่ที่เบอร์ลิน ก็ส่งไฟล์กันแบบงงมาก แต่ออกมาก็คุ้มนะ อย่างไปเวียดนามก็ไปกินเฝอแต่ปรากฏว่าอ้วกอะไรอย่างนี้ หรืออย่างตอนไปอินเดียโอ๋จะบอกว่า 10 สิ่งที่ไม่รู้ก็ได้ แต่รู้ก็ดี หนึ่งในนั้นคือ ควรพกยาธาตุน้ำแดงเพราะท้องจะผูก ทุกคนมักคิดว่าไปอินเดียแล้วท้องจะเสีย (หัวเราะ)”

 

แม้ว่าเธอจะทำงานหลากหลายเพียงใด แต่เชื่อได้ว่าหลายคนคงรู้จักเธอมาจากเพลงและภาพที่เธอวาดเสียเป็นส่วนใหญ่

 

“ความจริงแล้วโอ๋ไม่มีสไตล์ค่ะ แต่คนเขาจะดูรู้นะว่าโอ๋เป็นคนวาด ชอบวาดคนเหงาๆ เศร้าๆ ตาตกๆ ขนาดวาดผู้ชายยังดูอ่อนแอเคยมีงานหนึ่งเขาบอกว่าช่วยวาดงานแบบมีความสุขให้หน่อย โอ๋วาดมาสุขสุดเลย แต่เจ้าของงานบอกว่าสุขได้แค่นี้เหรอ(หัวเราะ) ไม่รู้เป็นเพราะอะไร”

 

ชิ้นงานที่เธอเลือกให้เป็นมาสเตอร์พีซในครั้งนี้นั้น เป็นภาพเซ็ตที่มีชื่อว่า Under a Spell เป็นรูปผู้หญิงที่ดูเหงาๆ อีกเช่นเคย มีทั้งหมด 14 ภาพ ใช้เวลาทำงานสำหรับภาพชุดนี้ถึง 2 เดือน โดยก่อนหน้านั้นเธอได้ไปโชว์งานนี้ที่ โคโลญจน์ ประเทศเยอรมันมาแล้ว ตอนนั้นเธอต้องคิดว่าต้องทำอย่างไร รูปถึงจะเบา ก็เลยมีคนแนะนำให้วาดบนไม้ซึ่งจะเบากว่าด้วย เธอก็เลยได้ไอเดีย
นี้มาทำงานชิ้นนี้

 

“มันเหมือนกับนอนหลับแล้วฝันว่าอยากทำงาน นั่งไม่ติด ออกไปซื้อของแล้วมาทำงานเลย บางช่วงก็ไม่อยากวาดรูปเลย ใครจ้างก็บอกว่าช่วงนี้วาดรูปไม่ออกขอโทษด้วย แต่มันเป็นจริงๆ นะ อย่างงานเซ็ตนี้ โอ๋ตื่นมาทำแล้วยังไม่ได้คุยกับใครหรือแกลเลอรี่เลย แล้วด้วยดวงหรืออะไรไม่รู้เวลาผ่านไปสองวัน จนรูปแรกเกือบเสร็จ มีพี่คนหนึ่งโทรมาบอกว่าอยากโชว์มั้ย แล้วโอ๋ก็ส่งรูปนี้ไปให้ดู ทั้งที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ปรากฏว่าเขาชอบมาก สุดท้ายก็เลยได้ไปจัดแสดงที่เซ็นทรัลเวิลด์ ตอนนี้หมดไปแล้วค่ะ โอ๋จัดแสดงแค่เดือนกว่าๆ เอง หนึ่งในนั้นมีฝรั่งซื้อไป 2 ราย ตอนนี้เขายังติดต่อมาเลยว่างานเซ็ตนี้ยังมีเหลือมั้ย จะเอาไปโชว์ที่ต่างประเทศ”

 

เธอบอกว่าอยากทำงานไปเรื่อยๆ ไม่หยุดอยู่กับที่ หากมีใครเสนองานแปลกมาเธอก็อยากลองทำดู อย่างการแต่งบ้าน แต่งสวนตามสไตล์ของเธอ หรือการประดิษฐ์ของสวยๆ งามๆ อย่างหมอนหรือการ์ด ถ้ามีเวลาคงได้เห็นไอเดียแบบนี้จากเธอแน่นอน

เธอคือมือเบสของวงดนตรีเปรี้ยวจี๊ดนาม Futon