เหตุที่ผมมาเที่ยวที่นี่ ก็เนื่องจากเป็นวันสังสรรค์ของเพื่อนฝูงที่นัดกันมากินเลี้ยง วันนั้นผมมาถึงด้านหน้าร้านประมาณทุ่มครึ่ง เจอเพื่อนบางส่วน เลยนั่งตัดสินใจว่าจะเดินเล่นถนนข้าวสารก่อนจะขึ้นไปนั่งกินข้างบนดีหรือไม่ แล้วก็ได้คำตอบคือขึ้นไปเลยเถอะไม่งั้นไม่มีที่นั่งแน่ๆ

เมื่อผมขึ้นไปถึง ตะลึงเลยครับ ร้านนี้เป็นร้านที่นั่งสบายขายบรรยากาศโอเพ่นแอร์ และที่สำคัญมันเป็นร้านที่ตกแต่งสไตล์แขกๆได้อย่างสวยงามสุดจะบรรยาย หากให้พูดง่ายๆ ที่นี่คือฮาเรมโอเอซิสกลางทะเลทรายร้อนๆ ที่มีชื่อว่ากรุงเทพฯ นั่นเอง ที่นี่ยังมีของโปรดของผมอย่าง Shisha สมุนไพรแขกให้ผมได้ดูดดื่มความหอมจนหนำใจอีกด้วย อาหารที่นี่ก็มีหลากหลายสไตล์ให้เลือกสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย แขก ฝรั่ง แต่ที่ผมกับเพื่อนติดใจมากที่สุดก็เห็นจะเป็น ยำขาอ่อน ต้มยำไข่ตุ๋น ไก่กอแระและชีสทอด กินไปเพลินไป หมดจานไม่รู้ตัว ไม่ผิดหวังเลยครับ

ร้านแห่งนี้มีการจัดแบ่งโซนของร้านเป็นสองส่วนคือส่วน Out Door นั่นก็คือส่วนดนตรีสดที่ผมนั่งอยู่นี้ และอีกส่วนคือส่วนIndoor ที่ตกแต่งร้านอีกรูปแบบหนึ่งที่ฉีกออกไปเพื่อวัยรุ่น หรือคนที่อยากเต้นด้วยดนตรีฮิพฮอพ เฮ้าส์ อิเล็คโทร เฮ้าส์

ระหว่างที่ผมนั่งกินข้าว ดูดชิช่ารอเพื่อนกลุ่มหลังมาสมทบนั้น วงดนตรีวงแรกของวันก็เริ่มต้นบรรเลงบทเพลงอมตะทั้งหลาย อาทิบทเพลงของ Eagle, Nirvana, Aerosmith เสียงดนตรีคลอบรรยากาศให้ผมรู้สึกคล้อยตาม ทั้งๆ ที่หลายเพลงรู้สึกเฉยๆ เมื่อฟังจากเครื่องเล่น ไม่นานผู้คนก็เริ่มสนุกลุกขึ้นเต้น โบกไม้โบกมือ บรรยากาศเริ่มเข้าสู่ช่วงพีคขึ้นเรื่อยๆ และพีคขึ้นไปอีกเมื่อบรรดาเพื่อนๆ ผมมากันครบองค์ประชุม อาหารเครื่องดื่มพร้อมสรรพวางเต็มโต๊ะเสียงเพลงหนักขึ้นๆ จนทุกคนทนไม่ไหว ต้องลุกขึ้นเต้นตามเพลง และชวนกันย้ายฝั่งไปเต้นต่อที่ฝั่ง Indoor เรียกว่าเปลี่ยนบรรยากาศจาก Live Band ไปเป็น Hip Hop ความรู้สึกตอนนั้นเหนื่อยเท่าไรผมจำไม่ได้ แต่ความสนุกของบทเพลงกับบรรดาสาวๆ ทั้งไทยเทศที่แต่งตัวเหมือนนางแบบมาเที่ยวนั้นเป็นยาบำรุงกำลังชั้นดีให้ผมและเพื่อนๆ มีแรงเต้นต่อไปได้เรื่อยๆ และเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จบ นับเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับผม คืนนั้นไม่อยากให้เวลาหมดลงเลย ผมสัญญากับตัวเองว่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้งแน่นอน

ถ้าคุณอยากรู้ว่าสนุกแค่ไหน ไม่ยากครับแค่ลองมาเที่ยวที่นี่ดู แล้วจะรู้ครับ