การเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ ยังคงเป็นสไตล์สุดคลาสสิคที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองได้ดีเสมอ ด้วยสภาพจราจรรวมถึงที่จอดรถที่แสนจะหายาก แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สำหรับผมแล้วรถ 2 ล้อ คือการเดินทางที่สนุกอีกแบบของผม ซึ่งหนึ่งวันครั้งนี้ของผมขอพาชมจุดเช็คอินในกรุงเทพฯยามค่ำคืนว่า จะไปที่ไหนอย่างไรไปชมกันได้เลยครับ

เริ่มต้นจาก บริษัท มิตรมายา จำกัด (MiX Magazine) พอได้รถมอเตอร์ไซค์ผมก็เก็บภาพบรรยากาศ ถ่ายภาพกันสนุกสนานกับน้อง ๆ แต่ด้วยกระแสที่มาแรงของเพลง Rockstar ที่มีฉากหนึ่งที่นำรถของ Royal Enfield มาเข้าเฟรม ผมจึงชวนน้องแบงค์ฝ่ายการตลาดสุดหล่อของเรามาเต้นโคฟเวอร์เพลงไปหนึ่งกรุบ

หลังจากที่ผมได้สัมผัส Interceptor 650 ที่ได้แรงบันดาลใจการออกแบบมาจาก Royal Enfield Interceptor รุ่นปี 1960 แค่ผมฟังดูก็รู้สึกถึงความคลาสสิคของรถรุ่นนี้เลย ต้องบอกว่ายุคสมัยปี 1960 การขับรถมอเตอร์ไซต์ชมวิวเลียบชายฝั่งแคลิฟอร์เนียร์จะเป็นที่นิยมมาก ผมจึงยากจะนำรถจักรยานยนต์ออกไปขี่เลียบหาดบางแสน แต่บรรยากาศฟ้าฝนตอนนี้ที่ไม่ค่อยเป็นใจกับผมเท่าไร ภรรยาและครอบครัวจึงขอไว้จึงเปลี่ยนแผนมาเที่ยวในกรุงเทพฯ แทน

เมื่อเป้าหมายในการเดินทางของเราเปลี่ยน แต่วิถีการเดินทางของเรายังเหมือนเดิมผมจะรออะไร จับคันเร่งแล้วบิดออกไปเลยกับเครื่องยนต์ 2 สูบ 648 ซีซี ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ถ้ามองด้วยตาเปล่ารถอาจมีขนาดใหญ่ แต่เมื่อได้ลองสัมผัสจริง ๆ ผมรู้สึกว่าไม่ได้ใหญ่มาก ด้วยน้ำหนัก 200 กิโลกรัม แต่ผมอาจตัวเล็กไปหน่อย เวลาจอดติดไฟแดงทีจะเซ ๆ หน่อย แต่เมื่อรถจักรยานยนต์คันนี้วิ่งอยู่บนท้องกับทำให้ผมรู้สึกสง่างามและเท่มาก ๆ

ค่ำคืนในกรุงเทพฯ ยังคงสวยงามสมเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลกจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพระบรมมหาราชวัง ถนนเยาวราชที่มีของกินให้เราได้เลือกสรรแบบว่าที่สุดของสตรีทฟุ๊ดกันเลย และถ้าใครอยากเลือกดอกไม้สวย ๆ ให้คนสำคัญก็ต้องที่ปากคลองตลาดเลยครับ และปิดด้วยการขับรถเล่นผ่านเสาชิงช้าไปจนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นจุดให้เช็คอินสำหรับสายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ผ่านมาก็ต้องแวะกัน สำหรับใครที่มีจุดเช็คอินแนะนำก็คอมเม้นต์บอกกันไว้บ้างนะครับ ผมจะได้ตามไปในทริปครั้งหน้า

สิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจใน Royal Enfield Interceptor 650 นั้นไม่ใช่เพียงแค่รถจักรยานยนต์ แต่เป็นกลุ่มชาว RE ที่ขับไปไหนก็เจอกันแล้วทักทายกันอย่างอบอุ่น แล้วทุกครั้งที่เจอคนที่ขี่ Interceptor 650 ผมจะเห็นสไตล์การแต่งตัวที่สุดจะคลาสสิคซึ่งมันคือเสน่ห์ของคนขับรถรุ่นนี้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม

สรุปการขับขี่ทริปนี้ต้องขอขอบคุณ Royal Enfield ประเทศไทย ที่ส่ง Interceptor 650 มาให้ทดลองขับขี่กันหลายวันเลย ซึ่งครั้งนี้สนุกสนานกับการลุยฝน หรือแม้จะเจอรถติดแบบสุดโหดในหลาย ๆ พื้นที่ เพราะว่าผมได้ไปชมมวย ONE ที่สนามมวยลุมพินี ถ.รามอินทรา มาด้วย ซึ่งมุดในช่วงเวลารถติดก็ทำได้ดีคล่องตัว อัตราเร่งดีมาก ๆ แต่ที่คิดว่าน้ำหนักจะเป็นปัญหากับไม่มีอาการนั้นเลย ยิ่งรถวิ่งเร็วเท่าไร เราก็เหมือนล่องลอยมากเท่านั้น

ดังนั้นพยายามอย่างเร่งมากนะครับ เพราะรถเขาแรงจริง ๆ แต่อย่างที่ผมบอกเลยว่าผมตัวเล็ก พอจอดทีก็อาจต้องพยุงน้ำหนักหน่อย ยิ่งมีคนซ้อนด้วยยิ่งต้องห่วงกลัวจะล้ม แต่พอประคองเข้าจริง ๆ ก็ไม่มีปัญหา

มอเตอร์ไซต์รุ่นนี้ไม่ได้มีดีแค่ความคลาสสิค แต่ยังมีไลสไตล์ที่โดดเด่นอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นลวดลายของรถที่มีสีสรรทันสมัย และอุปกรณ์แต่งอีกมากมาย มาในราคา 253,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ดีและตัวเลือกที่ดีของกลุ่มผู้ชื่นชอบรถคลาสสิค