ญดา นริลญา กุลมงคลเพชร โชว์สกิลสายแดนซ์ มูฟเมนท์ร่างกายผ่านแฟชั่นธีม “Bronx Legacy สเต็ปนอนสต๊อป สู่เทรนด์ท๊อประดับโลก”

ญดา นริลญา กุลมงคลเพชร โชว์สกิลสายแดนซ์ มูฟเมนท์ร่างกายผ่านแฟชั่นธีม “Bronx Legacy สเต็ปนอนสต๊อป สู่เทรนด์ท๊อประดับโลก”

 

นักแสดงสาวสวยที่กำลังมีผลงานการแสดงมาแรงอย่างต่อเนื่องทั้งจอเงินและจอแก้ว ด้วยฝีมือและความทุ่มเทในการแสดงอันเป็นที่ประจักษ์ หลายคนคงจะรู้จักชื่อเสียงของเธอกันอย่างแน่นอน เธอคนนี้คือ ‘ญดา นริลญา กุลมงคลเพชร’

ก่อนหน้านี้ ‘ญดา’ มีประสบการณ์ในวงการบันเทิงทั้งด้านงานเพลงและงานแสดงจำนวนมาก กระทั่งได้แจ้งเกิดในบทบาท ‘มิ้ง’ จากภาพยนตร์เรื่อง ‘ร่างทรง’ เมื่อปีพ.ศ. 2564 หลังจากนั้นมีงานแสดงละครตามมาอีกหลายเรื่องและเป็นที่รู้จักมากขึ้นอีกครั้งจากผลงานละครชุดเรื่อง ‘ดวงใจเทวพรหม’ ตอน ‘ขวัญฤทัย’ ในปีพ.ศ. 2567 ที่นักแสดงสาวสวยสามารถตีบทแตกจนตัวละคร ‘ไอ้ทัย’ ได้เข้าไปครอบครองพื้นที่ในหัวใจของใครหลาย ๆ คน นอกจากนี้ ‘ญดา’ ยังมีผลงานซีรีส์สุดเข้มข้นทางแพลตฟอร์ม Netflix เรื่อง ‘สืบสันดาน’ อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่ากระแสตอบรับย่อมดีมาก ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย

ช่วยเล่าเกี่ยวกับเส้นทางในวงการบันเทิงของคุณให้เราฟังหน่อย

ญดา : งานแรกในวงการบันเทิงของญดาเริ่มตั้งแต่ตอนอายุ 13 ปีค่ะ เริ่มจากแคสโฆษณาก่อนแล้วค่อย ๆ เติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ จากการแคสโฆษณาก็เข้าสู่การแคสซีรีส์จนมาถึงการแคสละคร ซึ่งละครถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จุดประกายความชอบในเรื่องของการแสดงอย่างจริงจังค่ะ เรารู้สึกว่าอยากไปต่อกับวงการบันเทิงโดยยึดสิ่งนี้เอาไว้เป็นหลักว่าเรารักและชอบการแสดง จนภาพยนตร์เรื่อง ‘ร่างทรง’ ที่เรารับบทเป็น ‘มิ้ง’ ได้กลายเป็นบทบาทที่ทําให้ทุกคนได้รู้จักญดาในฐานะนักแสดงมากยิ่งขึ้นค่ะ

เราทราบว่าคุณเคยอยู่วงเกิร์ลกรุ๊ปมาก่อนด้วย

ญดา : ใช่ค่ะ ‘ญดา’ เคยเป็นสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อว่า ‘Gelato’ เมื่อตอนอายุประมาณ 16-17 ปีได้ไปเป็นเด็กเทรนอยู่ในค่ายเพลงแห่งหนึ่ง ที่เราเลือกไปสายนักร้องจริง ๆ แล้วไม่ได้รู้สึกว่ามีไอดอลคนไหนเป็นแรงบันดาลใจพิเศษ แค่รู้สึกว่าเรากําลังค้นหาตัวตนว่าจริง ๆ แล้วเราเป็นคนแบบไหนและชอบอะไรกันแน่ มันเป็นช่วงวัยที่กําลังสับสนว่าจะไปทางไหนดี ซึ่งเราเองชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วด้วย รู้สึกว่าการร้องเพลงมันเป็นสิ่งหนึ่งที่เราได้ทําและรักที่จะทำก็เลยเลือกเป็นนักร้องในตอนนั้น แต่ว่ายังไม่ได้ทิ้งการแสดงนะคะ ยังคงทำควบคู่กันไปตลอด อีกอย่างบรรยากาศตอนที่ได้เป็นนักร้องก็สนุกดีค่ะ ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เราไม่เคยได้รับมาก่อน อย่างเช่น เราต้องฝึกร้องเพลงตลอดเวลา ต้องวิ่งบนลู่วิ่งแล้วร้องเพลงไปด้วย เหมือนได้ออกกําลังกายเพิ่มขึ้นเพราะว่านักร้องต้องมีกําลังเยอะมาก ๆ ซึ่งแตกต่างจากการเป็นนักแสดง คือนักแสดงเราจะใช้เซ้นส์และความรู้สึกในการทํางานมากกว่าค่ะ

คุณมีวิธีเตรียมตัวอย่างไรบ้างสำหรับการแสดงในบทบาทที่หลากหลาย

ญดา : ต้องทําการบ้านว่าตัวละครที่เราได้รับมามีคาแรคเตอร์ยังไง ญดาจะใส่ใจมาก ๆ เกี่ยวกับเรื่องคาแรคเตอร์เพราะว่ามันเป็นสิ่งสําคัญมากที่จะทําให้การแสดงของเราออกมาแล้วดูมีเสน่ห์ในอีกมิติ หากว่าเราแสดงเรื่องต่าง ๆ ที่เปลี่ยนบทบาทไปแล้วคนยังมองว่านี่คือ ‘ญดา’ อย่างนี้ไม่ใช่ เรารู้สึกว่าถ้าเราแสดงได้ดีจริง ๆ ก็ควรที่จะสวมบทบาทเป็นตัวละครนั้นให้ได้มากที่สุด เพื่อแต่ละตัวละครที่เราแสดงออกมาจะได้ดูไม่ซ้ำกันเลย อีกอย่าง ‘ญดา’ รู้สึกว่าสิ่งที่ยากอยู่ตรงที่เราเข้าใจความเป็นตัวละครได้มากแค่ไหน จริง ๆ อย่างขวัญฤทัย (ละครชุด ดวงใจเทวพรหม) ก็เล่นยากนะคะ เพราะเขาคือคาแรคเตอร์ที่มีบุคลิกในแบบที่เราไม่ค่อยคุ้นชิน แล้วเราจะต้องทําท่าทางยังไงให้การแสดงมันออกมาดูสมจริงเป็นธรรมชาติและไม่โอเวอร์จนเกินไป  

การแสดงภาพยนตร์กับการแสดงละคร ต่างกันมากน้อยแค่ไหน

ญดา : จริง ๆ แล้วทั้งหมดก็คือการแสดงเหมือนกัน เพียงแต่ว่ามันอยู่ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป อย่างภาพยนตร์เราต้องเข้าไปดูในโรงภาพยนตร์ ส่วนละครเราได้นั่งดูอยู่ที่บ้าน ตรงนี้รูปแบบจะต่างกันบ้างนิดหน่อย แต่สําหรับ ‘ญดา’ แล้วรู้สึกว่าชอบการแสดงทั้งสองแบบเลย ไม่ได้อยากจะเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งไปตลอด เราสามารถแสดงได้ทั้งหมดเลยค่ะ

มีสิ่งใดบ้างที่คุณอยากลองทำในอนาคต

ญดา : มีหลายอย่างเลยค่ะที่อยากทำ อย่างเช่น ทําอาหาร ทํางานบ้าน ขับรถ ดูแลตัวเอง อะไรพวกนี้เรายังทําไม่ได้เลยค่ะ เพราะเราอยู่กับคุณแม่ตลอดและเขาคอยดูแลเรามาตั้งแต่เด็ก ๆ สมัยเริ่มทํางานในวงการเลย กลายเป็นว่าเราคือเด็กที่มีทักษะทางด้านการทำงานด้านอื่นด้วย แต่ยังมีหลายอย่างมากที่ ‘ญดา’ ยังไม่ได้ลองไปทําความรู้จักกับมันจริง ๆ เพราะว่าเราทํางานตั้งแต่เด็ก ซึ่งสิ่งหนึ่งที่อยากทํามาก ๆ เลยคือการทำอาหารค่ะ ‘ญดา’ ทำอาหารเองไม่เป็นและรู้สึกว่าสิ่งนี้มันคือพื้นฐานของคนเราที่ควรจะต้องทำเป็นบ้าง เลยอยากไปเรียนทำอาหารเผื่อจะได้ทำให้คุณแม่กินค่ะ

ในช่วงเวลาที่คุณต้องเผชิญกับความยากลำบาก คุณผ่านมันไปได้อย่างไร

ญดา : อย่างแรกเลยคือต้องจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองก่อน เราต้องเจออยู่แล้วกับคําวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ หรือเสียงตอบรับกลับมาที่มันไม่ค่อยดี เพราะฉะนั้นต้องรับมือด้วยตัวเราเองก่อน แต่ถ้าเกิดว่าเราไม่สามารถที่จะคอนโทรลกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้ ก็คงต้องหาคนรอบข้าง อย่างเช่น แม่ เพื่อน หรือคนที่เรารู้สึกว่าเขาเป็นที่พึ่งพาทางใจได้ ณ ตอนนั้นค่ะ พอได้รับคําพูดดี ๆ หรือว่าคำปลอบใจจากเขาจนเราหายจากอารมณ์เหล่านั้นและกลับมานั่งคิดทบทวนอีกครั้ง เราก็จะผ่านมันไปได้เอง

คุณเป็นคน Introvert (ชอบเก็บตัว) หรือเป็นคน Extrovert (ชอบเข้าสังคม)

ญดา : ถ้าอยู่ข้างนอกจะเป็น Extrovert แต่ถ้าอยู่บ้านจะเป็น Introvert ค่ะ เวลาอยู่ข้างนอกเราจะตื่นเต้นที่ได้เจอผู้คนแล้วก็อยากเข้าสังคมอยากพูดคุยด้วย แต่ว่าถ้าอยู่บ้านเราจะกลายเป็นคนที่รักความสงบ อยากใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองและพักผ่อนไปในตัว

สถานที่ใดที่คนทั่วไปสามารถพบเจอกับคุณได้

ญดา : ทุกคนสามารถเจอ ‘ญดา’ ได้ที่วัดค่ะ เพราะว่าเราชอบทําบุญและปฏิบัติธรรมมาก เวลาว่าง ๆ ก็จะหาวันไปเข้าวัด ซึ่งจริง ๆ มันมีผลต่อการใช้ชีวิตและการทํางานของตัวเองมาก ๆ เพราะหลังจากที่เราต้องสวมบทบาทเป็นตัวละครมากมายและค่อนข้างหนักหน่วง เราจําเป็นจะต้องหามุมสงบหรือหาพื้นที่สำหรับชำระล้างความรู้สึกตัวเอง ดังนั้น ‘ญดา’ เลยชอบไปอยู่ที่วัดค่ะ

ไลฟ์สไตล์การแต่งตัวของคุณเป็นอย่างไร

ญดา : ‘ญดา’ เป็นคนที่แต่งตัวได้หลายสไตล์มากและรู้สึกสนุกกับการแต่งตัวด้วย เพราะว่าเราเป็นคนที่แค่เปลี่ยนทรงผมหรือเปลี่ยนการแต่งหน้า ลุคก็ต่างกันไปแบบชัดเจนมากแล้ว เราเลยไม่ชอบแต่งตัวซ้ำเดิมแต่จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ค่ะ

สเปกของคุณคือแบบไหน

ญดา : สเปกของญดาเปลี่ยนไปตลอดเวลา เราไม่ได้มีสเปกด้านรูปร่างหน้าตาอะไรอย่างนี้ชัดเจน เพราะรู้สึกว่าถ้าอยู่บนหลักความเป็นจริงเราน่าจะมองในเรื่องของนิสัยมากกว่า ท้ายที่สุดแล้วคนเราจะอยู่ด้วยกันได้มันก็ต้องปรับจูนทําความเข้าใจกันหลาย ๆ อย่าง ซึ่ง ‘ญดา’ จะชอบคนที่อยู่ด้วยแล้วมีเอเนอร์จี้ดี ๆ ทําให้เราสนุกหรือมีความสุขเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าส่วนมากเวลาชีวิตของเรามักเป็นช่วงของการทำงาน เราต้องเจอกับภาวะที่เหนื่อยล้าและมีความกดดันอะไรหลาย ๆ อย่าง เลยรู้สึกว่าขาดพลังบวกบางอย่างที่สามารถทําให้เราได้กลับเข้าไปสู่หมวดความผ่อนคลาย สนุกสนานและเป็นตัวเองได้แบบนี้ค่ะ

มุมมองความรักในแบบฉบับของคุณ

ญดา : เนื่องจากคุณแม่ดูแล ‘ญดา’ มาตั้งแต่เด็ก ๆ และท่านก็ไม่อนุญาตให้มีแฟน ตลอดเวลาที่เรียนมัธยมจนถึงตอนเข้ามหาวิทยาลัยเลย ‘ญดา’ ไปเรียนกับพี่ชายและพี่ชายก็จะตามติดตลอด ดังนั้นถ้าให้พูดตรง ๆ ‘ญดา’ แทบไม่รู้จักกับความรักในของแบบหนุ่มสาวเลยค่ะ แต่เราจะเข้าใจความรักในรูปแบบของครอบครัว เพื่อน คนร่วมงานหรือผู้ใหญ่กับเด็กมากกว่า ซึ่งพอเป็นความรักรูปแบบนี้มันก็คือความหวังดีที่มีต่อกัน การเสียสละอะไรบางอย่างเพื่อกัน รวมถึงการให้อภัยกันและกันด้วย เพราะฉะนั้นถ้า ‘ญดา’ จะมีความรักก็คงยึดสิ่งเหล่านี้เอาไว้เป็นแก่นหลักค่ะ

งาน เงิน สุขภาพ ความรัก อยากให้คุณช่วยจัดอันดับความสำคัญ

ญดา : ถ้าให้เรียงลำดับความสำคัญจะเป็นตามนี้ค่ะ อันดับ 1 คือสุขภาพ อันดับ 2 คือเงิน อันดับ 3 คืองาน และอันดับ 4 คือความรัก เพราะ ‘ญดา’ เชื่อว่าถ้าเกิดเราสามารถรับผิดชอบตัวเองได้ ในของเรื่องความรักคนที่เขาเข้าใจเราแล้วก็รักเราต้องยอมรับในตัวเราได้อยู่แล้ว

สุดท้ายนี้เราขอขอบคุณ ‘ญดาที่ให้เกียรติมาร่วมงานกับ MiX อยากให้ช่วยเล่าความรู้สึกการถ่ายแบบว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ญดา : การได้มาถ่ายแบบกับ MiX Magazine ญดารู้สึกว่าเป็นลุคที่ยังไม่เคยแต่งที่ไหนมาก่อนเลยค่ะ ส่องกระจกแล้วเหมือนได้เห็นคนใหม่ รู้สึกว่าเป็นความแปลกใหม่แล้วก็สนุกดี ถือเป็นอีกความท้าทายหนึ่งที่เราต้องสวมบทบาทในการถ่ายแบบกับคาร์แรคเตอร์นี้ด้วย เพราะฉะนั้นฝากให้ทุกคนช่วยติดตาม MiX Magazine ฉบับที่ 197 ด้วยนะคะ แล้วจะได้เห็นญดาในลุคสาวเท่ ๆ แบบนี้ในเล่มแน่นอน

MiX Magazine ดิจิตอลแมกกาซีนคว้าตัว ‘ญดา นริลญา กุลมงคลเพชร’ โชว์สกิลสายแดนซ์ มูฟเมนท์ร่างกายขึ้นปกฉบับเดือนสิงหาคม ในชื่อธีม “Bronx Legacy สเต็ปนอนสต๊อป สู่เทรนด์ท๊อประดับโลก”