นพ. พศวัต วุฒิไกรวิทย์ The Path to Better Health เวชศาสตร์ป้องกัน สำคัญกว่าการรักษา

นพ. พศวัต วุฒิไกรวิทย์ The Path to Better Health เวชศาสตร์ป้องกัน สำคัญกว่าการรักษา

หากคนเราเกิดการป่วยหรือเป็นโรค สิ่งที่ดีสุดหากไม่ใช่การมีหมอที่เก่งหรือมีนวัตกรรมการรักษาที่ทันสมัย แต่คือการป้องกันตั้งแต่แรกไม่ให้เกิดโรค ในเรื่องของเวชศาสตร์การป้องกัน อาจมีการพูดถึงน้อยไปหน่อยในสังคมไทย แต่ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่สำคัญมาก วันนี้เราจะไปทำความรู้จักเรื่องนี้กับ นพ. พศวัต วุฒิไกรวิทย์ ความชำนาญเฉพาะทาง ด้านเวชศาสตร์ป้องกัน จากโรงพยาบาล Medpark

 “เวชศาสตร์ป้องกันเรียกว่าเป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการป้องกันโรค เพราะปัจจุบันสิ่งสำคัญในการรักษาโรคไม่ได้มุ่งเน้นแต่การรักษาอย่างเดียว แต่การป้องกันก่อนจะเกิดโรคเป็นสิ่งที่ดีกว่าที่จะช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิต แล้วลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลงได้ เหมือนที่เขาบอกว่าสุภาษิตที่เขาว่า “ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” หรือภาษาอังกฤษจะใช้ว่า New wealth deserved good health

“ตอนนี้เราพยายามให้ความรู้ เพราะว่าคนทั่วไปยังไม่มีความเข้าใจว่าการป้องกันโรคจริง ๆ มันคืออะไร ช่วงสองสามปีที่ผ่านลองดูตัวอย่างการระบาดของโควิด-19 การป้องกันที่ง่ายที่สุดคือการฉีดวัคซีน ทำให้คนทั่วไปทุกวัยหันมามุ่งเน้นสู่การป้องกันโรค ระดับต่อมาที่ง่ายที่สุดก็คือการตรวจสุขภาพ การตรวจสุขภาพคือเราสามารถทำที่โรงพยาบาลใดก็ได้ บางคนคิดว่าตัวเองสุขภาพแข็งแรง แต่ว่าบางโรคมันไม่มีการแสดงอาการ เราก็เลยต้องมีการตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ทุกช่วงอายุมันก็จะมีเกณฑ์ต่างกันไป”

ก้าวสู่อนาคตบนเส้นทางแพทย์

กว่าจะมาเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกันได้ เรียกว่าต้องผ่านการเล่าเรียนมาอย่างหนัก ในช่วงวัยเด็ก นพ. พศวัต มักมีการเจ็บป่วยบ่อยครั้งต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแทบทุกวัน ทำให้เกิดความรู้สึกอยากเป็นหมอเพื่อช่วยเหลือคนอื่นบ้าง จึงเริ่มต้นเรียนมัธยมที่โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ซึ่งเพื่อนร่วมรุ่นส่วนใหญ่เป็นหมอกันทั้งหมด ในช่วงนี้เอง นพ. พศวัต ยังมีประสบการณ์ในการเรียนภาษาจีนจนจบหลักสูตรมัธยมปลาย แม้ว่าตอนเด็กจะเรียนเพราะถูกบังคับบ้าง แต่พอโตขึ้นก็เริ่มเห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของภาษาจีนที่จะเปิดโอกาสในการสื่อสารกับต่างประเทศได้

หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมปลายได้เข้าศึกษาต่อในวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ที่นี่นอกจากต้องเรียนวิชาการแล้ว ยังต้องฝึกทหารอย่างเข้มข้น ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเวลากลางคืน แม้กระทั่งในช่วงปิดภาคก็ต้องไปฝึกภาคสนาม เป็นช่วงเวลาที่หนักหนาและเหนื่อยยากเป็นอย่างยิ่ง โดยชีวิตมีความต่างจากในช่วงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายมาก เพราะมีอิสระได้เที่ยวเล่นอย่างมีความสุข แต่พอมาถึงชีวิตการเป็นนักศึกษาแพทย์ที่วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฎเกล้า นอกจากต้องเรียนอย่างเข้มข้นแล้วยังเน้นระเบียบวินัยที่เข้มงวดอีกด้วย แต่ก็เป็นประสบการณ์ชีวิตที่มีสีสันและความทรงจำที่ดี

หลังจบการศึกษาและประกอบวิชาชีพแพทย์มาสักระยะหนึ่ง ได้เลือกที่จะเรียนต่อทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน เนื่องจากเห็นว่าการป้องกันโรคนั้นมีความสำคัญและคุ้มค่ากว่าการรักษาโรค ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงถึงขนาดที่บางคนต้องหาเงินมาทั้งชีวิตเพื่อมารักษาโรค ประกอบกับมองว่าในอนาคตเทคโนโลยีจะมีการพัฒนาไปเรื่อย ๆ จึงเลือกเส้นทางนี้เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและยั่งยืน

 

เปลี่ยนวิถีชีวิต ห่างไกลโรค

“การเป็นแพทย์ทางด้านเวชศาสตร์การป้องกัน ปัญหาที่พบเจอบ่อยที่สุดคือ คนไข้ขาดความเข้าใจ เพราะบางคนมักเชื่อข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตมากกว่า หรือว่าไปเชื่อการบอกต่อกัน ซึ่งข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตมันมีทั้งเชื่อถือได้กับเชื่อถือไม่ได้ ทำให้เวลาคนไข้มาหาก็มีการปรับความเข้าใจซึ่งกันและกันซึ่งผมว่ามันเป็นสิ่งที่ดี

“ในบางครอบครัวพบว่ามีคนใดคนหนึ่งเป็นโรคมะเร็ง เช่น โรคมะเร็งเต้านม ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่สุดคือเรื่องพันธุกรรม ดังนั้นก็คือถ้ามีประวัติเป็นมะเร็งเต้านม แนะนำเลยว่าควรจะมาตรวจมะเร็งเต้านมโดยเฉพาะเพศหญิง ควรจะเริ่มมาตรวจทันทีโดยที่ไม่จำเป็นต้องตามเกณฑ์อายุ บางคนบอกต้องเข้าเกณฑ์อายุ 35 ปี ถึงมาทำการเอ็กซเรย์เต้านม แต่เรามีประวัติความเสี่ยงควรรีบตรวจทันทีที่ทำได้ หรือยกตัวอย่างมะเร็งที่เจอบ่อยอีกอันหนึ่งก็คือมะเร็งลำไส้ ซึ่งเราก็จะแนะนำให้ผู้ป่วยมาคัดกรองให้เร็วขึ้น โดยที่ผู้ป่วยบางคนมีประวัติไม่ว่าปู่ย่าหรือคุณพ่อคุณแม่เป็นมะเร็งลำไส้ เราจะแนะนำให้มาตรวจ โดยที่ไม่ต้องรอตามเกณฑ์อายุมาตรฐานของคนทั่วไป

            “ถ้าถามว่าโรคที่ผมเจอมาบ่อยสุดคืออะไร เราเรียกว่าโรคไม่ติดต่อแบบเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันหรือว่าโรคไต ซึ่งทั้งสามโรคเป็นโรคที่มีอัตราการเจ็บป่วยเรียกว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงมาก เพราะว่าพวกนี้การรักษาอย่างน้อยก็ 10 – 20 ปี เวชศาสตร์ป้องกันจะมาดูแลเรื่องส่วนนี้ แล้วดูแลอะไรบ้าง อย่างแรกคือการเปลี่ยนลักษณะวิถีชีวิตของแต่ละคน ซึ่งคนไข้แต่ละคนบริบทสภาพแวดล้อมต่างกัน ต้องมาออกแบบหรือว่าให้คำแนะนำแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน

“ยกตัวอย่างเช่นบางคนเป็นโรคเบาหวาน เรามีการแนะนำว่าถ้าเป็นโรคเบาหวานเราควรมาตรวจน้ำตาล หรืออายุ15 ปี เราก็ต้องเริ่มมาตรวจน้ำตาล เพราะว่าเบาหวานจริง ๆ มีหลายชนิด มันจะมีชนิดหนึ่งที่มันเกิดในเด็กอายุน้อย อย่างไรก็ตามถ้าเรามีการให้ความรู้มีการคัดกรองเรื่องของน้ำตาลจะดีกว่า เพราะบางคนมาห้องฉุกเฉินมาด้วยน้ำตาลสูงโดยที่ไม่เคยมีประวัติมาก่อนก็มี

“อย่างโรคความดันก็เหมือนกัน บางคนไม่เคยวัดความดันมาเลยทั้งชีวิต มาเจออีกทีที่ห้องฉุกเฉิน ซึ่งอันนี้ก็เป็นสิ่งที่หมอทุกท่านก็ควรจะให้คำแนะนำคนไข้ว่า อย่างน้อยเราควรจะมีเครื่องวัดความดันที่บ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่จัดหาง่าย อย่างน้อยวัดวันละครั้ง หรือสองสามวันก็ได้ อย่างน้อยวัดเพื่อให้เรารู้ว่าความดันเราเป็นยังไง เพราะถ้าความดันเราเริ่มสูงหรือว่าผิดปกติ เราจะได้มาปรึกษาหาแพทย์ได้”

 

เชื้อ HPVภัยร้ายใกล้ตัว

“สิ่งที่คนไม่ค่อยรู้คือ เรื่องมะเร็งปากมดลูกไม่ได้เกิดเฉพาะเพศหญิง เพศชายก็เป็นได้ ต้องบอกว่ามะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อ HPV (Human Papilloma virus) ดังนั้นเกิดได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง แต่ว่าแค่มันอาจจะแตกต่างกันทางที่อวัยวะ เพราะแต่ละเพศไม่เหมือนกัน ดังนั้นคือแนะนำดีที่สุดคือควรฉีดวัคซีนทันทีตามเกณฑ์อายุ อายุตั้งแต่ 9 ขวบขึ้นไปก็ควรจะเริ่มฉีด หรือว่าบางคนอาจจะมีความกลัว หรือว่าไม่เข้าใจว่าทำไมฉันไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ฉันไม่เคยมีอะไรพวกนี้ ฉันไม่จำเป็นต้องฉีดไหม จริงๆ ฉีดไว้ก่อนดีครับเพราะไม่ใช่แค่การมีเพศสัมพันธ์ เพราะบางทีเชื้อ HPV มันติดต่อทางน้ำลายการจูบกัน หรือการมีเพศสัมพันธ์ชนิดอื่น ที่ไม่ใช่การเรียกว่าการมีเพศสัมพันธ์ทุกชนิด ไม่ว่าทางอ้อม Oral sex หรือว่าอะไรที่มีการใช้สารคัดหลั่ง มีโอกาสที่จะแพร่เชื้อไวรัสทั้งนั้น ดังนั้นการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ผมว่าเป็นการลงทุนที่มันคุ้ม คุ้มกับการลงทุนมากกว่าที่เราจะมารู้ทีหลังว่าได้รับเชื้อตัวนั้นมาแล้ว ซึ่งจะมีการเสียค่าใช้จ่ายหรือว่าสภาวะจิตใจเราย่ำแย่มากกว่าที่เราจะลงทุนแค่เล็กน้อย

 “เชื้อ HPV สามารถเข้าไปในปากหรือทำให้เกิดโรคที่ในปากของผู้ชายได้ด้วย หรือว่าบางคนผู้ชายมีเชื้อ HPV ที่ได้มาจากบุคคลอื่น และเชื้อ HPV ยังอยู่ในสารคัดหลั่งก็คือน้ำลาย และเราไปทำ Oral Sex ให้ผู้หญิง ผู้หญิงก็มีโอกาสที่จะเกิดโรคทางตรงอวัยวะเพศได้ ซึ่งโรคที่เกิดมันก็ขึ้นอยู่กับชนิดของ HPV ที่ไปว่าเป็น HPV ชนิดไหน ซึ่งอันนี้เราก็อาจจะบอกลำบากนิดหนึ่งเพราะ HPV มีสายพันธุ์เยอะมาก แต่อย่างน้อยวัคซีนมะเร็งปากมดลูกปัจจุบันกันได้ถึง 6 สายพันธุ์ โดยเนี่ยสายพันธุ์หลัก ๆ คือ HPV 16 กับ 18 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดมะเร็งแต่ยังมีสายพันธุ์ย่อย ๆ อีกเช่นสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ แต่ข้อเสียของมะเร็งปากมดลูกอย่างหนึ่งก็คือ คนที่ได้รับเชื้อมาแล้วเนี่ย มันจะไม่สามารถป้องกันได้ ดังนั้นเขาเลยแนะนำว่าให้ควรฉีดเร็วที่สุดในตอนที่อายุเรายังน้อย ๆ โดยเฉพาะคนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์นะครับ”

 

วัคซีน เกราะป้องกันโรคร้าย

“ในเรื่องของวัคซีน ก็อยากจะฝากสิ่งสำคัญที่สุดผมว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ควรจะฉีดทุกปี อย่างน้อยช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ ส่วนวัคซีนอันดับสองที่แนะนำคือวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ซึ่งปัจจุบันมีครอบคลุมถึง 6 สายพันธุ์ฉีดได้ทั้งเพศชายและเพศหญิงท่านใดมีบุตรหลานหรือว่ามีญาติพี่น้องที่อายุน้อย ๆ ยิ่งแนะนำให้มาฉีดครับ ถึงราคามันอาจจะสูงไปนิดหนึ่งแต่ผมว่ามันคุ้มค่า คุ้มค่ากับการลงทุน

“ส่วนวัคซีนประเภทอื่นแนะนำก็คือวัคซีนเรื่องปอดอักเสบติดเชื้อในผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุด้วยความที่เราเป็นลูกหลานเราก็ไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่หรือคนในครอบครัวเราเนี่ยมีการเจ็บป่วย เพื่อจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจหรือว่าการทำงานของเราก็อยากจะแนะนำให้พาผู้สูงอายุมาฉีดวัคซีนเรื่องปอดอักเสบติดเชื้อ ส่วนวัคซีนทางเลือกอื่นก็ยังมีอีกเช่นวัคซีนไข้เลือดออกหรือวัคซีนอีสุกอีไส ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ความสมัครใจดีกว่า หรือว่ามีความต้องการจะมาปรึกษาก็ยินดีที่จะคุณหมอทุกท่านก็ยินดีให้คำปรึกษาครับ

“เรื่องวัคซีนอีกอันหนึ่งอย่างที่ผมว่าน่าสนใจคือวัคซีนไวรัสตับอักเสบ ซึ่งปกติไวรัสตับอักเสบเราอาจจะเรียกว่ามีความไม่รู้อยู่ในหลายส่วน ไวรัสตับอักเสบที่เราเจอบ่อยก็คือเอ บี และ ซี แต่ที่เราเจอแล้วทำให้เกิดมะเร็งตับคือไวรัสตับอักเสบชนิดบีกับซี โดยเฉพาะไวรัสตับอักเสบชนิดบีมีความจำเป็นอย่างมากที่ทุกคนควรจะต้องฉีดวัคซีน เพราะว่าไวรัสตับอักเสบชนิดบีการติดต่อมันง่ายมาก โดยเฉพาะสารคัดหลั่งพวกน้ำลายหรือว่าการมีเพศสัมพันธ์หรือว่าทางเลือด

“บางทีเราไปกินข้าวสังสรรค์กับเพื่อนไม่ได้ใช้ช้อนกลาง เราก็ไม่รู้ว่าใครเคยได้รับเชื้อมาก่อน บางทีเราก็อาจจะติดโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แล้วพอเราติดเสร็จมันก็จะส่งผลว่าเราจะไปติดคนในบ้านหรือว่าไปติดบุคคลที่เรารัก ซึ่งอันนี้ผมก็แนะนำว่าการตรวจสุขภาพทุกวัย ควรจะตรวจไวรัสตับอักเสบชนิดบีหรือซีเพิ่มเติม โดยไม่จำเป็นต้องรอถึงอายุมาก ผมว่าถ้าเริ่มตรวจอายุ 20 ปี ก็เริ่มตรวจได้เลย เริ่มตรวจอายุ 15 ปี ก็ตรวจเรื่องไวรัสตับได้เลย เพราะว่าจริง ๆ ไวรัสตับชนิดบีเราก็มีวัคซีนที่ฉีดตั้งแต่เด็กอยู่ละ แต่ว่าบางคนมันก็มีคนไข้ บางกลุ่มฉีดวัคซีนแล้วภูมิคุ้มกันไม่ขึ้นก็มี หรือว่าฉีดวัคซีนภูมิคุ้มกันขึ้นแต่ว่าภูมิคุ้มกันอยู่ไม่กี่ปีมันก็ลดลงกลายเป็นไม่มีภูมิคุ้มกัน ซึ่งส่วนนี้ก็สำคัญอันนี้ ก็แนะนำเรื่องไวรัสตับอักเสบชนิดบีนะครับควรจะฉีดวัคซีนนะครับ”

Work Life Balance

“จริง ๆ เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมากเลยที่ปัจจุบันเราการดูแลตัวเองในคำว่า Work Life Balance เพราะถ้าเราไม่มีสมดุลการใช้ชีวิตกับการทำงาน มันทำให้คนเราในยุคปัจจุบันมีความเครียดเยอะมาก ซึ่งพอมีความเครียดทำให้เราได้เห็นในข่าวมีการสูญเสียทรัพยากรบุคคลจำนวนมาก เราไม่อยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นวิธีการในความคิดผมแนะนำง่าย ๆ เลยคือปกติถ้าเราทำงานเราก็จะทำงานวันละประมาณ 8 ชั่วโมง ช่วงการทำงานเราอาจจะมีการรีแลกซ์ ซึ่งผมว่าการรีแลกซ์แต่ละคนแตกต่างกันเช่น อย่างของผมทุกชั่วโมงผมจะต้องเดิน ตรวจคนไข้เสร็จอาจจะต้องไปทำนู่นทำนี่ เดินไปกินน้ำหรือว่าเดินเพื่อให้เราไม่นั่งอยู่ที่เดิมต้องมีการขยับร่างกาย แล้วช่วงเย็น ๆ ไม่ใช่ทำงานเสร็จรีบตรงกลับบ้าน บางทีเราอาจจะต้องไปแบบเดินห้างสรรพสินค้าหรือว่าไปออกกำลังกาย เพื่อทำให้มีการใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย

“ผมเคยไปสมัครงานที่หนึ่งซึ่งในปัจจุบันดีมาก ๆ เขาบอกว่าเด็กยุคใหม่สมัยใหม่ไม่ว่าจะเป็นหมอหรืออาชีพอื่น ๆ เขาเคยบอกว่าเดือนหนึ่งมี 30 วัน ฉันให้คุณทำงาน 10 วัน อีก 20 วัน คุณไปเที่ยวต้องเรียกว่ามันแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนด้วยว่าเป็นยังไง แต่ไม่ว่าจะทำวิธีไหนคือมันก็สามารถที่จะปรับ Work Life Balance ให้เหมาะกับของแต่ละคน ผมคงไปแนะนำทุกคนไม่ได้เพราะแต่ละคนก็มีความจำเป็นหรือสภาพแวดล้อมที่มันต่างกันเยอะมาก ๆ แต่ก็อยากให้ทุกคนผ่อนคลาย(ยิ้ม)”

 

MedPark หนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำ

“สุดท้ายอยากจะฝากเรื่องสิ่งสำคัญสุดก็คือเรื่องสุขภาพของทุกคน เริ่มต้นการตรวจสุขภาพคือง่ายที่สุดแล้ว อย่างที่สองเรื่องการที่เราจะหาข้อมูลเรื่องสุขภาพอยากให้ทุกคนหาข้อมูลจากโรงพยาบาลต่าง ๆ เพราะว่าทุกโรงพยาบาลมีคุณหมอช่วยตรวจ ส่วนเรื่องการป้องกันโรคเน้นย้ำว่ามีความสำคัญมากกว่าการรักษาโรค คือลดการสูญเสียทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่องค่าใช้จ่ายหรือว่าสภาพจิตใจของเราเองหรือว่าของคนในครอบครัว โดยเฉพาะโรคเรื้อรังที่ไม่ติดต่อเช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคความดัน ซึ่งทั้งหมดเนี่ยเราสามารถป้องกันได้ 70-80 เปอร์เซ็นต์

“ผมอยากจะฝากโรงพยาบาล MedPark เป็นโรงพยาบาลที่เราตั้งเป้าว่าจะดูแลประชากรคนไทยทุกคน โดยเรามุ่งเน้นไปที่การรักษาโรคยากและซับซ้อน โรงพยาบาล MedPark เป็นโรงพยาบาลที่มีเตียง ICU เยอะที่สุดในโรงพยาบาลเอกชน เรามีอุปกรณ์เทคโนโลยีในทุกแผนกที่ทันสมัยมีความสะอาด มาโรงพยาบาลเราจะรู้สึกผ่อนคลายรู้สึกมีความสุขกับการได้มาเจอคุณหมอ หรืออาจมาใช้บริการในด้านอื่น ๆ ก็ได้ อยากให้ทุกคนมาสัมผัสที่โรงพยาบาล พอเราเดินเข้ามาทั้งด้านบริการหรือว่าในด้านบุคลากรทางการแพทย์ ทุกท่านเนี่ย ทำให้เรารู้สึกแบบผ่อยคลาย อาจจะมากินข้าวดื่มกาแฟ หรือมาขอคำปรึกษาเฉย ๆ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องป่วยเป็นโรคก็ได้ครับ”

หากคนเราเกิดการป่วยหรือเป็นโรค สิ่งที่ดีสุดหากไม่ใช่การมีหมอที่เก่ง