Don’t give up on soccer  if it’s what you love to do.

Don’t give up on soccer if it’s what you love to do.

ในช่วงเดือนที่ผ่านมาไม่มีที่ไม่ทราบข่าวการสูญเสียบุคคลสำคัญของวงการฟุตบอลอังกฤษ และ ฟุตบอลไทย คือการเสียชีวิตของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และเจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ จากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกที่ข้างสนามคิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม ประเทศอังกฤษ ซึ่งคุณวิชัยถือเป็นคนที่ทำคุณงามความดีให้เมืองเลสเตอร์อย่างมากมาย โดยเฉพาะการทำทีมเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษในฤดูกาล 2015-2016 ถือเป็นการได้แชมป์ฟรีเมียร์ลีกครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรขึ้นมา ในฉบับนี้เราจึงนำเสนอประวัติความเป็นมาของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ มาติดตามกันได้เลย

เลสเตอร์ ซิตี้ เคยใช้ชื่อว่า เลสเตอร์ฟอสส์ เอฟซี ก่อนจะเปลี่ยนในปี 1919 เลสเตอร์ฟอสส์ เอฟซี ในปี ค.ศ.1884 ถูกก่อตั้งโดย นักเรียนกลุ่มหนึ่งจากโรงเรียน “Wyggeston and Queen Elizabeth I College” ในเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ และเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ.1890 ก่อนที่จะย้ายสนามมาอยู่ที่ ฟิลเบิร์ตสตรีท และใช้สนามนี้มานานกว่า 111 ปี จนกระทั่งปี ค.ศ.2002 ได้ย้ายไปสนามใหม่ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน นั่นคือ สนามวอล์กเกอส์ สเตเดี้ยม และได้เปลี่ยนชื่อสนามมาเป็น “คิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม” ตามชื่อของกลุ่มบริษัทผู้ซื้อกิจการ โดยมีคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นผู้บริหาร ในปี 2011 หากย้อนกลับไปในฤดูกาล 2008-2009 คือ 8 ปีที่แล้ว ชาวเมืองเลสเตอร์ก็ได้เฮเช่นกัน แต่อาจไม่เสียงดังเท่าวันนี้ เพราะทัพจิ้งจอก คว้าแชมป์ลีกวัน และเลื่อนชั้นขึ้นมาโม่แข้งในศึก เดอะ แชมเปี้ยนส์ชิฟ แต่ทว่าในฤดูกาลถัดมา 2011-2012 เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ “ไนเจล เพียร์สัน” กลับมาอีกครั้ง การมาครั้งนี้ เพียร์สัน ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง เพราะในฤดูกาล 2013-2014 เขาพาเลสเตอร์ ได้แชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนส์ชิฟ และแน่นอนได้เลื่อนชั้นขึ้นมาวาดฝีเท้ากันบนเวทีพรีเมียร์ลีก แต่ฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีก ดูจะใหม่และหนักจนแทบเอาตัวไม่รอดหลังจากที่ต้องหนีตกชั้นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย จนกระทั่งในปี 2015 เมื่อ “เคลาดิโอ รานิเอรี่” กุนซือชาวอิตาลี อดีตนายใหญ่เชลซี ยูเวนตุส และอินเตอร์มิลาน เข้ามาคุมทีม ใครจะเชื่อว่าทีมหนีตกชั้นในฤดูกาล 2014-2015 จะผงาดขึ้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษในปี 2015-2016 “เซอร์ไพรส์

โดยมีกองหน้าตัวเก่งอย่าง “เจมี่ วาร์ดี้” ยิงไป 48 ประตูจากการลงสนามรับใช้เลสเตอร์ 142 เกม ณ เวลานั้น และมีมิดฟิลด์แอฟริกัน ทีมชาติแอลจีเรีย อย่าง “ริยาด มาห์เรซ” และกองกลางอย่าง “เอ็นโกโล่ กองเต้” โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม จนมีชื่อลุ้นรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมฟุตบอลอังกฤษหรือ PFA และผลงานฉายแสง ไปเข้าตา ดิดิเย่ เดช็อง บอสใหญ่ของตราไก่ จนทำให้ถูกเรียกตัวติดทีมชาติฝรั่งเศส ลุยศึก ยูโร 2016 ที่บ้านเกิดอีกด้วย แม้ว่า เลสเตอร์ ซิตี้ จะมีอัตราการครองบอลเป็นอันดับ 18 ของลีก คิดเป็นร้อยละ 44.7 เหนือกว่าแค่ ซันเดอร์แลน และเวสบรอมวิชฯ และ เลสเตอร์ ซิตี้ มีอัตราการจ่ายบอลสำเร็จเป็น อันดับ 20 ของลีก คิดเป็นร้อยละ 70.0 แต่ก็ไม่ใช่สาเหตุที่จะหยุดความร้อนแรงฟอร์มแชมป์ของเลสเตอร์ในเวลานั้นได้ 

Did You Know 
เส้นทาง “เจ้าสัววิชัย” กับ “เลสเตอร์ ซิตี้”
• ปี 2010    เทคโอเวอร์ เลสเตอร์ ซิตี้ 40 ล้านปอนด์ (แชมเปี้ยนชิพ)
• ปี 2013-14    คว้าแชมป์ แชมเปี้ยนชิพ (เลื่อนชั้นพรีเมียร์ลีก)
• ปี 2014-15    พรีเมียร์ลีก  จบอันดับ  14  (หนีตกชั้น)
• ปี 2015-16    คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยแรกในประวัติศาสตร์
• ปี 2016-17    รอบ 8 ทีม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
• ปี 2017-18    พรีเมียร์ลีก จบอันดับ 9
*ปัจจุบันมูลค่า เลสเตอร ซิตี้ ประมาณ 400 ล้านปอนด์ 17,000 ล้านบาท

 

TEXT :  Jirrayut Chantarasri

 

 

 

#mixmagazinethailand #FootballFact