คำว่า 100 มหาเศรษฐ์ นั้น มาจากบ้านเลขที่ 100 บวกกับชื่อถนนตรงสถานที่ตั้ง กลายมาเป็นร้านอาหารไทย – อีสานที่ผสมผสานความเป็นโมเดิร์น แต่รสชาติยังคงแซ่บซี้ดแบบท้องถิ่น มีการสร้างสรรค์เมนูพื้นบ้านให้ดูแปลกใหม่โดยการนำส่วนต่าง ๆ ที่คนไม่นิยมใช้ของวัตถุดิบมาดัดแปลงให้เป็นอาหารรสเลิศ อย่างสมองหมู ไขกระดูก หรือเรียกว่า Nose – to - tail ท้าทายฝีปากนักชิมทั้งหลาย ซึ่งล่าสุดทางร้านถูกจัดอยู่ในลิสท์ ร้านอาหารแนะนำ ของ มิชลินไกด์ 2019  จึงขอเชิญให้ท่านไปลิ้มลองด้วยตัวเองสักครั้ง

สไตล์การตกแต่งของร้าน ถูกปัดฝุ่นให้กลายเป็นโรงสีข้าวเก่า ๆ ตกแต่งด้วยพร๊อบอย่างกระสอบป่าน หวด สุ่มไก่  ประกอบกับเก้าอี้และโต๊ะที่ทำมาจากไม้ และยังมุงหลังคาด้วยสังกะสี ช่วยสร้างบรรยากาศภายในร้านดูเก่าคงความเป็นคลาสสิกได้เป็นอย่างดี ที่นี่ นอกจากจะมีอาหารอีสานแล้ว ยังมีเฝอซึ่งเป็นอาหารเวียดนามเมนูเดียวของทางร้านเสิร์ฟตอนกลางวันอีกด้วย  เชฟชาลี การ์เดอร์ ยังบอกกับเราอีกว่า ทางร้านอยากให้คนที่มาทานอาหารที่นี่ ได้รสชาติ ความรู้สึกเหมือนนั่งทานข้าวที่อีสานจริง ๆ ทางร้านจึงสร้างบรรยากาศนั้นด้วยการเปิด เพลงอีสาน อย่างหมอลำ ที่เปิดคลอสลับกันไป ยิ่งช่วยให้ความรู้สึกชัดเจนขึ้นอีกด้วย

มาเริ่มกันที่ เมนูออเดิร์ฟ ที่ทางร้านเสิร์ฟมาเป็นอย่างแรก หน้าตาของผักก็อาจจะแปลกหูแปลกตาไปหน่อย ไม่ค่อยได้เห็นตามร้านอื่น ๆ อย่างผักแขยง ผักชีลาว ผักชีไทย ผักชีฝรั่ง ซึ่งมีกลิ่นหอม เหมาะสำหรับทานคู่กับน้ำพริก 3 อย่าง ที่มากันเป็นเซ็ท อย่าง แจ่วมะขาม, แจ่วปลาร้า, ชิมิชูรี่สไตล์อีสาน  อันที่จริงแล้วเชฟชาลี กาเดอร์ บอกกับเราว่าน้ำพริกหรือแจ่ว ชิมิชูรี่ เป็นของดั้งเดิมทางฝั่งอเมริกาใต้   ส่วนชิมิชูรี่สไตล์อีสาน เป็นการนำเอาผักชีลาว ผักชีใบเลื่อย ผักชีไทย ใบสะระแหน่มาโขลกกับกระเทียมและพริกแห้ง ทำให้คล้ายกับชิมิชูรี่สไตล์อเมริกาใต้ โดยเอาผักของบ้านเราใส่แทน  

ต่อกันด้วยเมนูหาทานยากอย่าง ไขกระดูกส้าขี้ม่อน (Bone Marrow)  กระดูกแข้งของวัว นำไปผ่าครึ่ง ย่างบนเตาถ่าน ด้านบนโรยด้วยงาขี้ม่อน ปรุงแต่งเพิ่มความหอมด้วย ต้นหอม น้ำปลา ตะไคร้ และมะนาว ช่วยชูรสชาติของไขกระดูก แถมยังดับความเลี่ยนได้เป็นอย่างดี 

หัวใจหมูย่างกับสลัดผักชี (Grilled Hearts) หัวใจหมูย่างถูกวางบนยำผักชี 3 อย่าง ทั้งผักชีไทย ผักชีลาว และผักชีฝรั่งไทยราดด้วยน้ำสลัด รสชาติเค็ม ๆ หวาน ๆ หน่อย เหมาะสำหรับทานกับหัวหมูดองน้ำปลา 

ส่วนเมนู ต้มเปรอะคูณใส่เนื้อกับเครื่องในวัว (Beef and Koon Stalk) แกงเปรอะของที่นี่เน้นใส่เครื่องในมากกว่าผักเพราะโดยปกติแล้วแกงเปรอะโดยทั่วไปมักจะนิยมใส่ผักกันเยอะหน่อย โดยการนำเอาเครื่องในวัว มาเคี่ยวปรุสรส เคี่ยวจนได้ที่ด้วย น้ำปลาร้า น้ำใบย่านาง ตะไคร้ ใบแมงลัก และข้าวเบือ ที่ช่วยชูรสชาติของแกงเปรอะได้เป็นอย่างดี

เมนูแนะนำ : ข้าวปุ้นสมองหมู (Kao Poon Samong Moo) 
เมนูนี้ทางร้านไม่ได้ใช้เนื้อปลาแบบร้านทั่ว ๆ ไป แต่กลับนำเอาเนื้อสมองหมูมาทำเป็นน้ำยาขนมจีน ราดน้ำยาสมองหมูลงไปบนเส้นขนมจีนให้ทั่ว โรยหน้าด้วยผักชีลาว ผักแขยง ถั่วงอก และกากหมู  รสชาติมันเข้มข้น เข้ากันดี  รับรองถูกใจคนชอบเมนูแปลกอย่างแน่นอน

How to go?

ร้าน 100 Mahaseth ตั้งอยู่ถนนมหาเศษฐ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร สามารถปักหมุดตาม GPS ไม่มีหลงทางแน่นอน เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.30 – 23.00 น. เบอร์ : 0-2235-0023 Facebook : 100Mahaseth

TEXT : Natat & PP
PHOTO : Pornsaran Soithong