Playboy Electronix : DJ Drop the Beat Issue 145

Playboy Electronix : DJ Drop the Beat Issue 145

Playboy Electronix ชื่อนี้คงไปสะดุดหูใครหลาย ๆ คนที่สนใจในแวดวงดนตรีแนว Electronic Chill Out เขามีชื่อจริงว่า เอ พีระวัฒน์ มานะมนตรีสกุล หลายคนอาจคุ้นเคยกับเขาในบทบาทของ DJ ซึ่งความจริงแล้ว ศิลปินรุ่นเก๋าคนนี้ถือเป็นนักดนตรีที่มีประสบการณ์และมากล้นไปด้วยความสามารถคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เห็นได้จากผลงานที่ผ่านมาของเขา การที่ได้เข้าชิงรางวัลสีสันอะวอร์ด ปี 2005 ครั้งที่ 17 สาขาเพลงบรรเลงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เยาวราช และได้โอกาสสร้างสรรค์ดนตรีประกอบภาพยนตร์อีกมากมายหลายเรื่อง ทำให้เขาโลดแล่นในวงการนี้มาเป็นเวลานานเลยทีเดียว

 

Playboy Electronix : ผมเรียนมนุษยศาสตร์ฯ ซึ่งไม่เกี่ยวกับดนตรีเลย แต่ตอนเป็นทหารผมได้อยู่วงดุริยางค์ทหารเรือก็ได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนชอบดนตรีอยู่แล้ว ชอบฟังเพลง เล่นกีตาร์ แต่งเพลง  พอเรียนจบเริ่มเข้ามาในวงการดนตรี เราก็เหมือนเด็ก Wanna be คนหนึ่ง จนพี่ ๆ เรียกว่าจอมพยายามแห่งยุค ไปตามคนนั้นคนนี้ พี่แถวบ้านถือกีตาร์ก็ตามเขาไป ไปตามหลายคนมาก ผมเลยได้ความรู้จากพวกเขามาพอสมควร 

ผมเคยเป็นโปรดิวเซอร์อยู่ที่ บริษัท วอร์นเนอร์ มิวสิก ไทยแลนด์ เรียนเขียนเพลงที่ AV Studio  ทำเพลงให้บริษัท อาร์เอส จำกัด และจับผลัดจับผลูได้มาทำดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องผีสามบาท ตอนน้ำมันพราย, พระอภัยมณี, หลอนช้างเพื่อนแก้ว, มหัศจรรย์พันธุ์รัก และ เยาวราช มีอยู่ช่วงหนึ่งผมกับเพื่อนรู้สึกว่าอยากทำงานเพลงเป็นงานของตัวเองสักชิ้น เราเลยผันตัวเองไปทำอัลบั้ม ทำเองทุกขั้นตอนรวมถึงออกแบบด้วยปกอัลบั้ม ใช้ประสบการณ์จากสิ่งที่เราเคยเก็บเกี่ยวมาจากผลงานก่อนหน้านี้ ออกมาเป็นอัลบั้มเดี่ยวของตัวเอง นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปีนี้ก็ครบ 15 ปี Playboy Electronix แล้วครับ

 

Playboy Electronix : จุดเริ่มต้นการเป็น DJ ชื่อ Playboy Electronix เริ่มจากการที่ทำอัลบั้มแล้วเรารู้สึกว่าสิ่งที่มันควรจะเป็นในอนาคตคือการเล่นดนตรีคนเดียวและสามารถควบคุมได้ทุกอย่าง ในอัลบั้มแรก ๆ ของผมจะมีดนตรีแบบอนาล็อกเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะ เช่น กีตาร์ กลอง เบส บางเพลงจะมีลูกเล่นร็อกแอนด์โรล เบสสิบสองห้อง ผมเลือกทำเพลงของตัวเองเพราะรู้สึกว่ามันน่าจะมีอะไรที่บอกความเป็นตัวตนของเราได้ ดนตรีที่มี Electronic ที่ฟังง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่เครียด ไม่ต้องมีเนื้อร้อง สาเหตุที่ไม่มีเนื้อร้องเพราะเราร้องเพลงไม่เพราะ แต่แต่งเพลงได้ เลยมาคิดว่าเราร้องเพลงไม่เพราะจะทำเพลงที่มันมีเนื้อร้องทำไม การทำเพลงมันจะได้ไม่มีอุปสรรคหรือมีสิ่งมากั้นระหว่างคำว่าต้องมีเสียงร้องนะถึงจะเป็นเพลงได้ แต่จริง ๆ แล้วในเมืองนอกก็มี มันได้อิทธิพลมาจากนักดนตรีต้นฉบับ เช่น Michael Oldfield, Robert Miles

ผมอยู่วงการดนตรีมาตั้งแต่ยุค 90 ซึ่งเป็นยุคของการพิสูจน์ตัวเอง เพราะไม่ได้มีสื่อให้เราโปรโมต เพราะฉะนั้นเพลงต้องดี ปล่อยออกไปคนต้องฟัง ยุคนั้น โมเดิร์นด็อก, แบล็กเฮด, สมายบัฟฟาโล่ อยู่มาได้จนถึงตอนนี้แสดงว่าเจ๋งจริง ส่วนยุคนี้ผมมองว่ามั่วไปหน่อย รู้สึกอะไรมันง่ายไปหมด บางครั้งคนฟังแค่รู้สึกว่าสะใจกับเนื้อร้อง ผมไม่อยากให้วงการนี้เป็นการทำสงครามด้วยเพลง มุมมองที่ผมมีต่อวงการดนตรีมันยังมีส่วนต่างและส่วนที่คล้ายกัน ส่วนคล้ายคือตัวจริงก็ยังจะอยู่ได้ แต่ตัวปลอมอาจจะดังแต่มาไม่นานก็หายไป 
สังเกตได้ว่าหลาย ๆ คนจะเป็นแบบนั้น แต่ที่สำคัญคือจังหวะเวลาและกระแสในช่วงเวลานั้นด้วยครับ

ตอนนี้ Playboy Electronix กำลังจะปล่อยผลงานใหม่ในรูปแบบอัลบั้ม เป็นอัลบั้มที่เกิดจากความคิดที่ว่าเรามีเพลงที่ไม่ฮิตหลายเพลง เราเลยอยากทำให้เพลงที่ไม่ฮิตของเราให้คนได้ฟังกันใหม่ เป็นอัลบั้มรวมเพลงที่มีอยู่ และมีเพลงที่แต่งขึ้นใหม่มีทั้งหมด 14 เพลง เริ่มปล่อยเพลงให้ทุกคนได้ฟังกันในเดือนธันวานี้ สามารถติดตามข่าวสารของ Playboy Electronix ได้ที่ Fackbook : Playboy Electronix ฝากติดตามด้วยนะครับ

Photo : Nutchanun Chotiphan

Playboy Electronix : DJ Drop the Beat Issue 145