คอนเนคชั่นต่อเนื่องมาจากคุณหรั่ง ร็อคเคสตร้า ต้องบอกเลยว่าสิ่งที่ชายคนนี้กำลังทำอยู่นั้นน่าสนใจมาก คุณภูมิ “พิสิษฏ์พงศ์ วรเศรษฐการกิจ” ประธานและคณบดี วิทยาลัยดนตรีและศิลปะการแสดง SCA (Superstar College of Asia) เขากำลังผลักดันให้เกิดการเรียนการสอนศาสตร์ด้านการบันเทิงในระดับสากล เพื่อให้ศิลปะและวัฒนธรรมไทยได้ไปแข่งในตลาดโลก เริ่มต้นจากปลูกฝังในเมล็ดพันธุ์เล็ก ๆ ผ่านนักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ ลบคำครหาที่ว่าเป็นอาชีพเต้นกินรำกิน กลายเป็นธุรกิจบันเทิงขนาดใหญ่ในอนาคต

แนะนำเกี่ยวกับสถาบัน SCA?
“วิทยาลัยดนตรีและศิลปะการแสดง SCA (Superstar College of Asia) เปิดสอนหลักสูตรครบวงจรในด้านดนตรีและการแสดงในทุกสาขาวิชา มีทั้งที่เป็นประกาศนียบัตรรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ คือเหมือนเรียนพิเศษนั่นเอง นักเรียนมีตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่เลย อย่างดาราและศิลปินมีเยอะมากที่เป็นลูกศิษย์ของสถาบันเรา และก็มีหลักสูตรปริญญาตรี ศิลปกรรมศาสตร์บัณฑิต ด้านดนตรี การเต้น และด้านการแสดง โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยสยาม และหลักสูตรมัธยมปลายด้านศิลป์ดนตรีและศิลป์นิเทศ ร่วมกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน,  โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ และโรงเรียนศรีวิกรม์ คือเป็นทางเลือกให้นักเรียนที่อยากเรียนด้านนิเทศและดนตรี มากกว่าที่มีอยู่เช่น ศิลป์ภาษา วิทย์-คณิต เป็นต้น รวมทั้ง ปวช. และ ปวส. วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ซึ่งเป็นที่แรกในเมืองไทยด้วยครับ อย่างเมืองนอกเขาจะมีสอนกันมานานแต่ของเรายังไม่เคยมีมาก่อนครับ นอกจากนี้ก็มีหลักสูตรอินเตอร์ ล่าสุดก็เพิ่งคุยกับทางประเทศจีนที่จะส่งนักเรียนเข้ามาเรียนกับเรา และเราก็มีหลักสูตรเทรนนิ่งเรื่องบุคลิกภาพ หลักสูตรการพูดในที่ชุมชน ให้กับพนักงานและผู้บริหารในองค์กรต่าง ๆ อีกด้วย”

อย่างเรื่องเทรนนิ่งด้านต่าง ๆ ถ้าเป็นระดับผู้บริหารหรือผู้ที่อยากพัฒนาตนเองมีอะไรบ้าง?
“แนะนำเรื่องการพูดปาฐกถา (Speech) เพราะจะช่วยในหน้าที่การงานได้ครับ คือจะสอนในเรื่องที่คลอบคลุมทั้งหมด ตั้งแต่คิดสคริปต์ ปรับบุคลิกภาพ ท่านนั่งท่ายืน การออกน้ำเสียง แววตา การมองกล้อง และซ้อมบนเวที อย่างนักการเมืองบางท่านก็มีมาเรียน อย่างมิสไทยแลนด์เวิร์ลให้ SCA เป็นเทรนเนอร์มาหลายปีแล้วครับ เพราะนอกจากความสวยแล้ว บุคลิกภาพ การพูด การตอบคำถาม ทัศนคติ แอคติ้ง การเดินแบบ ฯลฯ คือทุกอย่างสามารถฝึกได้หมดครับ บุคลิกทั้งภายนอกและภายใน ศาสตร์เหล่านี้สามารถช่วยในการเจรจาธุรกิจได้เช่นกันครับ”

ทำไมถึงสนใจและเปิดโรงเรียนในศาสตร์การแสดง?
“ผมเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรงครับ เรียนด้านธุรกิจบันเทิงมาจากมหาวิทยาลัย UCLA ประเทศอเมริกา อาจารย์ส่วนใหญ่ก็ทำงานในวงการฮอลลีวู้ด จริง ๆ ต้องบอกว่าผมหยิบเอาโมเดลการสอนบางอย่างของที่นั่นมาปรับใช้ คือมาเป็นจุดเริ่มไอเดียในการทำโรงเรียนครับ เพราะในเมืองไทยยังขาดสถาบันที่ครบวงจรจริง ๆ และสามารถปั้oศิลปินได้จริง ๆ คือเมืองไทยมีศักยภาพด้านโปรดักชั่นที่ดีมากในแถบ AEC นะครับ เรียกได้ว่ามีหลายประเทศก็มาใช้บริการจ้างผลิตหนังในบ้านเราแต่ทำไมเราถึงยังตามเกาหลีและญี่ปุ่นไม่ทัน คือเรื่องการศึกษาสำคัญมากครับ ดูอย่างโมเดลของประเทศเกาหลี เขาเริ่มต้นจากนโยบายรัฐบาลที่จะส่งออกวัฒนธรรม ถ้าดูดี ๆ แล้วศิลปวัฒนธรรมของเรานั้นเก่าแก่กว่าด้วยซ้ำไป รัฐบาลเกาหลีเขาวิเคราะห์แล้วว่าทำไมแฮมเบอร์เกอร์ถึงนิยมไปทั่วโลก ก็เพราะหนังฮอลลีวูดมันดัง เขาเลยสร้างแบรนด์ของเกาหลีขึ้นมาจนตอนนี้ประสบความสำเร็จทั้ง เคป็อบ และหนังเกาหลี ที่ดังไปทั่วโลก โดยรัฐบาลร่วมลงทุนด้วย แม้เมืองไทยยังไปไม่ถึงจุดนี้ แต่เราก็มีองค์กรเอกชนหลายแห่งที่มีศักยภาพไม่แพ้เกาหลีเลยครับ” รู้จักกับคุณหรั่ง ร็อคเคสตร้าได้อย่างไร? “ครูหรั่งเป็นหนึ่งในครูผู้ทรงคุณวุฒิของสถาบัน SCA ครับ เพราะเรามีความเชื่อว่าถ้าเราจะสอนคนให้เป็นศิลปิน เราก็ต้องหาคนที่เป็นศิลปินตัวจริงมาสอน เหมือนกับวงการกีฬาเลยครับ ถ้าโค้ชที่เคยเป็นนักกีฬาและเคยแข่งโอลิมปิคย่อมเข้าใจและแนะนำได้ดีกว่าคนที่ไม่เคยแข่งในรายการใหญ่ อย่างถ้าได้มาเรียนกับครูหรั่ง เขาจะบอกได้เลยว่าต้องซ้อมขนาดไหนถึงจะทำได้ ต้องร้องเพลงดีขนาดไหนถึงจะเรียกว่าศิลปิน ต้องทุ่มเทขนาดไหนเป็นต้น ครูแต่ละท่านเคยเป็นศิลปินดังหรือยังเป็นศิลปินอยู่ บุคคลระดับนี้ค่าสอนไม่มีความสำคัญกับเขาเลย เพราะออกคอนเสิร์ตครั้งหนึ่งก็ได้เงินเยอะกว่ามากครับ แต่ที่เขามาสอนเพื่ออยากสร้างคนรุ่นใหม่ให้ไปไกลกว่ารุ่นเขา คนเหล่านี้ถึงเสียสละเวลามาสอนเด็กครับ อย่างครูหรั่งท่านเป็นคนน่ารักครับ สอนแบบจัดเต็มเด็ก ๆ รักครูหรั่ง ท่านเป็นคนดีมีน้ำใจจริง ๆ ครับ”