หากเอ่ยถึงการ์ตูนกับนาฬิกา ผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะสงสัยเสียแล้วว่าผมกำลังจะพูดถึงอะไร และทำไมการ์ตูนกับนาฬิกา ถึงมาเกี่ยวข้องกันได้ ตามผมไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจของเจ้าสุนัขแสนน่ารักอย่าง สนู้ปปี้ ที่กลายมาเป็นคอลเลคชั่นให้นักสะสมนาฬิกาทั่วโลกต้องตามหากันครับ

ครับว่าทำไม สนู้ปปี้ กับ โอเมก้า ถึงมาบรรจบพบกันได้บนหน้าปัดของเรือนเวลา คงต้องบอกว่านี่คือการครบรอบ 45 ปีพอดิบพอดีกับภารกิจการสำรวจอวกาศของยาน อพอลโล่ 13 และอย่างที่เราพอจะทราบกันว่าพวกเขาสามารถกลับสู่โลกได้อย่างปลอดภัยหลังประสบกับปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง ซึ่งความเป็นมาของภารกิจและสิ่งที่เกิดขึ้นกับยาน อพอลโล่ 13 ครั้งนั้นได้เคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์โดยฮอลลีวู้ด มาแล้วด้วยและยังนำแสดงโดยดาราชายเจ้าบทบาทอย่าง ทอม แฮงค์ส อพอลโล่ 13 ได้ออกสำรวจอวกาศหนึ่งปีให้หลังจากที่ อพอลโล่ 11 ประสบความสำเร็จพิชิตดวงจันทร์ได้สำเร็จ อย่างไรก็ดีขณะที่ออกปฏิบัติการและอยู่ห่างจากโลกไปประมาณ 200,000 ไมล์ นักบินอวกาศทั้ง 3 คนใน อพอลโล่ 13 ต้องอาศัยการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าร่วมกันระหว่างพวกเขาและศูนย์ปฏิบัติการที่ NASA จนพาตัวเองและยาน อพอลโล่ 13 กลับสู่โลกได้อย่างปลอดภัยทั้งหมดและสิ่งที่มีส่วนสำคัญในการทำให้พวกเขาปลอดภัยในครั้งนี้คงไม่เกินความจริงที่จะกล่าวว่านาฬิกา Speedmaster โดย โอเมก้า ถือว่าเป็นพระเอกของงานนี้เลยเมื่อมันถูกใช้ในการคำนวณสิ่งต่าง ๆ เพราะไม่สามารถมีที่ว่างให้กับข้อผิดพลาดได้เลยแม้แต่นิดเดียวและนั่นทำให้นาฬิกาโอเมก้า เลยยิ่งได้รับการยอมรับและยกย่องในการปฏิบัติภารกิจต่างๆของ NASA มาจนถึงปัจจุบัน ส่วนที่มาหรือจุดกำเนิดของการที่ทำไมต้องเป็นสนู้ปปี้ด้วย ในเมื่อในโลกนี้มีสุนัขอยู่มากมายหลากหลายสายพันธุ์ นั่นเป็นเพราะว่าในปี ค.ศ.1968 ทาง NASA ได้เลือกเอาตัวการ์ตูนตัวเอกอย่างสนู้ปปี้ จากการ์ตูนดัง Peanuts ซึ่งเขียนโดย ชาร์ลส์ เอ็ม ชูลซ์ มาใช้อย่างแพร่หลายเพราะ NASA ต้องการให้ สนู้ปปี้ เปรียบได้กับตัวแทนที่ขึ้นไปปฏิบัติภารกิจสำคัญร่วมกับนักบินอวกาศนอกโลกนั่นเอง นอกจากนั้นตัวของ ชาร์ลส์ เอ็ม ชูลซ์ เองก็เห็นดีเห็นงามกับการนำภาพลายเส้นจากปลายปากกาของเขาไปใช้อย่างเต็มใจ นั่นทำให้สนู้ปปี้จึงได้กลายเป็นสัญลักษณ์บนเข็มกลัดที่ทำจากเงิน และยังเป็นสัญลักษณ์ที่ปรากฏอยู่บนตราประทับในเอกสารหลาย ๆ อันของ NASA อีกด้วย อย่างไรก็ดีกว่าที่ โอเมก้า จะนำเอาตัว สนู้ปปี้ ขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของ Speedmaster ของพวกเขานั้นก็เกิดขึ้นในปี 2003 ว่ากันว่ามันได้รับความนิยมจากนักสะสมนาฬิกาผู้หญิงทั่วโลกไม่น้อยไปกว่านักสะสมผู้ชายเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความน่ารักและสีสันอันสดใสของตัว สนู้ปปี้ ที่เราเห็นกันนั่นเองครับ  แต่ที่สำคัญกว่านั้นคงหนีไม่พ้นการที่พวกเขาได้ผลิตนาฬิกาแสนพิเศษนี้ขึ้นมาเพียง 5,441 เรือนเท่านั้น ตัวเลข 5,441 นี้มีที่มาที่ไปนะครับ เป็นตัวเลข 142 วัน 54 ชั่วโมงกับอีก 41 นาทีที่ยานอพอลโล่ 13 ใช้ไปตั้งแต่ออกเดินทางจนกระทั่งกลับถึงโลกได้สำเร็จ มูลค่าของ โอเกม้า สนู้ปปี้ สปีดมาสเตอร์ ไม่เคยตกและมีแต่จะเป็นที่ต้องการของนักสะสมนาฬิกาทั่วโลกโดยเฉพาะนักสะสมประเภทสายตรงของ โอเมก้า จนในที่สุด โอเมก้า ก็ได้หยิบเอา สนู้ปปี้ มาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้งกับ สปีดมาสเตอร์ เอดิชั่นพิเศษที่เป็นการเฉลิมฉลองวาระพิเศษของการครบรอบ 45 ปี การกลับคืนสู่โลกของยาน อพอลโล่ 13 หน้าตาของ สนู้ปปี้ สปีดมาสเตอร์ โฉมล่าสุด
นั้นอาจจะดูแตกต่างออกไปจากเวอร์ชั่นแรกนิดหน่อย โดยจากพื้นหน้าปัดที่เป็นสีดำในหนก่อน มาหนนี้ โอเมก้า เลือกจะใช้พื้นสีขาวแทน โดยรูปของ สนู้ปปี้ จะปรากฏอยู่ในหน้าต่างเล็กตรงตำแหน่ง 9 นาฬิกา การดูเวลาในยามค่ำคืนก็จะไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไปเมื่อ โอเมก้า ได้ใช้ Super Luminova ในการแต้มพรายน้ำเพื่อให้การดูเวลาเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นกว่าในรุ่นแรก ส่วนกลไกของ สนู้ปปี้ สปีดมาสเตอร์ เวอร์ชั่นล่าสุดนี้เป็นกลไกจากรุ่น 1861 ที่ได้รับการยอมรับมายาวนาน ดังนั้นครั้งต่อไปหากได้พบเห็น สนู้ปปี้ บนหน้าปัดนาฬิกาอีก เราจะได้รู้ว่าเจ้าสุนัขแสนน่ารักพันธุ์บีเกิ้ลตัวนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ความน่ารักและเฉลียวฉลาดอย่างเดียว แต่มันยังมีเรื่องราวที่เป็นตำนานของมันซ่อนรวมอยู่ด้วยอย่างน่าสนใจครับ