นุวีร์ เลิศบรรณพงษ์

นุวีร์ เลิศบรรณพงษ์

คุณนุวีร์ เลิศบรรณพงษ์ คือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวงการโฆษณาและการตลาดมากมาย มีประสบการณ์ทำงานด้านครีเอทีฟรวมถึงการสร้างแบรนด์ทั้งไทยและต่างประเทศมาอย่างโชกโชน โดยใช้ไอเดียแปลกใหม่ในการนำเสนออยู่ตลอดเวลา ปัจจุบันเขาทำงานในตำแหน่ง Head of Invention, Mindshare Thailand (WPP group) ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่คนในวงการโฆษณายอมรับ

เนื่องจากเป็นคนที่ชอบเรื่องของศิลปะการดีไซน์มาตั้งแต่เด็ก จนได้มาศึกษาที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะศิลปกรรม การเรียนที่นี่ทำให้ต้องตั้งคำถามกับตัวเองในเรื่องของผลงานที่คิดออกมา เพราะงานชิ้นเดียวกันที่เขาทำนั้นอาจารย์แต่ละท่านล้วนตีความต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาจึงรู้ว่าการศึกษาที่มีอยู่ในตำราเพียงอย่างเดียวจะทำให้ไอเดียถูกจำกัดอยู่ในกรอบเกินไป จึงต้องแสวงหาเส้นทางใหม่โดยการส่งผลงานเข้าประกวดในเวทีต่าง ๆ จนได้มีโอกาสทำงานในบริษัทโฆษณาตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาเมื่อเรียนจบเขาได้ทำงานกับบริษัทโฆษณาอย่างเต็มตัว แต่การทำงานตอนนั้นเขารู้ดีว่ายังไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุดเพราะไอเดียและแนวคิดต่าง ๆ ยังต้องแสวงหาอีกเยอะ และเป้าหมายของเขาคือเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งรวมไอเดียและศิลปะไว้มากที่สุดเมืองหนึ่งของโลกก็ว่าได้“ผมเริ่มทำงานบริษัทได้ประมาณ 3 ปี ก็บินไปเที่ยวนิวยอร์ก พอถึงผมไม่รู้เส้นทางอะไรเลยจึงใช้วิธีนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินแล้วลงทุกสถานี เดินตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ ของเมืองให้ทั่ว แล้วผมก็รู้ทันทีเลยว่าที่นี่คือวิชาเรียน เพราะนิวยอร์กไม่เหมือนประเทศไหนที่เคยไป แต่ละโซนมันจะมีโซนศิลปะอยู่ทุกที่มีทุกแขนง ผมก็เที่ยวอยู่ 20 วัน ก่อนกลับมาประเทศไทย แต่ผมมุ่งมั่นแล้วว่าจะต้องไปศึกษาต่อที่นั่นให้ได้

“แต่โชคไม่ดีเท่าไหร่เมื่อกลับมาประเทศไทยเวลานั้นเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง พ.ศ.2540 พอดี ตอนนั้น 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 50 บาท จากการคำนวณค่าเรียนราว 4 ล้านบาทเพิ่มเป็น 7 ล้านบาททันที แต่ผมไม่รอเพราะเวลามันเดินเร็ว ผมไม่ได้มีเงินเยอะแต่คิดว่ามีแค่ตั๋วเดินทางแล้วหาอะไรทำก็น่าจะอยู่รอดได้ แล้วผมได้เรียนเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ ทำสินค้าราคาถูกให้ดูแพงและเรื่องเกี่ยวกับโฆษณาทั้งหมด การเรียนการสอนที่นั่นจะเน้นให้เด็กคิดแบบไม่มีผิดไม่มีถูก แต่ละคนปล่อยของได้เลย ระหว่างเรียนผมทำอย่างอื่นด้วยเช่น ไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่เขาทิ้งแล้วในราคาถูกเอามาทำใหม่แล้วขาย ผมใช้ชีวิตแล้วเรียนอยู่ที่นั่น 2 ปี ก็เรียนจบ”

หลังจากนั้นเขากลับมาประเทศไทยได้เข้าทำงานกับบริษัทเอเจนซี่โฆษณาชั้นนำระดับโลก โดยมีผลงานการันตีความสามารถจากรางวัลที่ได้รับมากมาย แต่งานที่เขาชื่นชอบมากที่สุดไม่ได้เป็นงานที่ต้องใช้เทคนิคขั้นสูง กลับเป็นงานที่ร่วมกับห้างค้าปลีกแบรนด์หนึ่งที่มีส่วนช่วยเหลือสังคม“เป็นโครงการที่เราคิดขึ้นมาเพื่อให้รองเท้าแก่เด็กยากจนที่ไม่มีรองเท้าใส่ คอนเซ็ปต์คือปกติเราจะเห็นพรมแดงแบบที่ดาราเขาเดินกันเข้างานสำคัญ แต่เปลี่ยนพรมแดงนั้นให้เป็นพรมดินแบบขรุขระแล้วให้คนลองเหยียบดูว่าเจ็บแค่ไหน นั่นแหละคือความรู้สึกของเด็กไม่มีรองเท้าใส่ที่ต้องเดินไปโรงเรียน ในแต่ละวันจึงมีผู้ร่วมบริจาคให้กับห้างค้าปลีกนั้นเพื่อนำไปให้เด็กยากไร้มากพอสมควร 

“ผมคิดว่างานครีเอทีฟที่ดีต้องช่วยสังคมไม่ใช่ขายของอย่างเดียว ส่วนใหญ่แล้วคนในวงการครีเอทีฟเขาจะคิดงานโฆษณาแล้วส่งประกวด ส่วนผมนอกจากประกวดแล้วผมจะเอาความคิดสร้างสรรค์มาทำธุรกิจของผมด้วยและที่สำคัญมันไม่เป็นตามกฎที่ตำราวางไว้ ผมต้องใช้ประสบการณ์โดยเอาไอเดียมาต่อยอด อย่างการทำหนังสือเล่มหนึ่ง เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ทำหนังสือเล่มนึ่งแล้วหาโฆษณาแล้วนะ มันต้องเป็นโมเดลที่หนังสือเป็นแค่ Content นำไปต่อยอดในโปรดักชั่นอื่น เช่นในรายการทีวี หรืออีเว้นท์ 

“ผมยังใช้ไอเดียเจ๋ง ๆ ที่มีมาต่อยอดในการลงทุนกับอสังหาฯ อย่างแรกเลยผมจะหาคอนโดทำเลดี ๆ เวลาตกแต่งห้อง จะใช้ความคิดสร้างสรรค์ใส่เข้าไปโดยที่ไม่จำเป็นต้องตกแต่งห้องแพง นักลงทุนทั่วไปก็จะบอกว่าแค่เอาเฟอร์นิเจอร์อีเกียมาใส่แล้วจบ แต่ผมจะซื้อโต๊ะและเก้าอี้จากดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียงแล้วเวลาที่ผมจะปล่อยเช่า ผมจะเขียน  Story เลยว่าห้องนี้ความเป็นมาอย่างไร กลุ่มคนที่มีกำลังทรัพย์จะเข้าใจและยอมจ่าย 

“ไอเดียที่เกิดขึ้นของผมมันต้องนอกกรอบต้องคิดอะไรที่ไม่เหมือนใครแล้วการทำธุรกิจที่ดีควรจะต่อยอดไปได้เรื่อย ๆ เราต้องรู้ว่าตอนนี้โลกเราเปลี่ยนไปแล้วถ้ายังทำธุรกิจแบบเดิมอยู่มันไปไม่รอดแน่ ๆ ผมจึงอยากจะเอาความรู้และประสบการณ์ด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ที่ผมมีทั้งหมด มาเผยแพร่ให้ผู้คนที่สนใจได้รับรู้ในการทำธุรกิจในการแข่งขันอย่างเป็นธรรมต่อไป” 

ผู้มีประสบการณ์ทำงานด้านครีเอทีฟรวมถึงการสร้างแบรนด์ทั้งไทยและต่างประเทศมาอย่างโชกโชน นุวีร์ เลิศบรรณพงษ์