พรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่

พรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่

หลังจากที่ปิดฤดูกาลมาประมาณ 2 เดือนเต็ม ในที่สุดฟุตบอลลีกยุโรปก็กลับมาแล้วในฤดูกาลใหม่ 2016-2017 ซึ่งลีกที่หลายคนรอติดตามคงหนีไม่พ้นลีกอันดับ 1 อย่าง “พรีเมียร์ลีก” ของอังกฤษ

ถ้าจำกันได้เมื่อฤดูกาลที่แล้วทีมแชมป์กลับไม่ใช่บรรดาบิ๊กทีมแต่เป็นทีมประเภทหนีตกชั้นอย่าง ขุนพลจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ มร.ทิงเกอร์แมน เคลาดิโอ รานิเอรี่ มาคุมทีมจึงเป็นสิ่งที่กลายเป็น “เซอร์ไพรส์” ประจำฤดูกาลกับแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

สำหรับฤดูกาลนี้ ฟุตบอลลีกเมืองผู้ดีต้องสนุกและเร้าใจกว่าฤดูกาลที่แล้วเพราะบรรดาทีมใหญ่ทั้งหลายที่อกหักหรือหลังเดาะมาจากความล้มเหลวเมื่อฤดูกาลก่อน ต่างพากันเสริมทีมแบบชุดใหญ่ เรียกว่ามีเท่าไหร่ทุ่มหมด ตั้งแต่ผู้จัดการทีมไปจนถึงนักเตะที่ทุ่มเงินซื้อเข้ามาร่วมทีม

เรื่องของตำแหน่งผู้จัดการทีมถือว่าเป็นไฮไลท์ของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ก็ว่าได้ เพราะนอกจาก อาร์เซนอล ที่ยังใช้บริการของอาร์แซน เวงเกอร์, ลิเวอร์พูล ที่ยังเป็น เจอร์เก้น คลอปป์ หรือ สเปอร์ กับ เลสเตอร์ ที่ยังเป็น เมาริซิโอ โปเชสติโน่ กับ รานิเอรี่ เหมือนเดิม

ทั้ง เชลซี หรือ สองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ต่างได้นายใหม่ทั้งสิ้น โดยสิงห์บลูแห่งกรุงลอนดอนได้ อันโตนิโอ คอนเต้ อิมพอร์ตจากอิตาลีเข้ามารับตำแหน่ง เรือใบสีฟ้า แมนฯ ซิตี้ ได้ของใหญ่อย่างโค้ชอัจฉริยะ เป็ป กวาดิโอร่า เข้ามาคุมทีม และที่เด็ดสุด ๆ คือปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้จอมอหังการ โจเซ่ มูรินโญ่ เข้ามากุมบังเหียน

เห็นรายชื่อบรรดากุนซือของทีมในพรีเมียร์ลีก ฝีไม้ลายมือไม่มีใครแพ้ใคร เรียกว่าเป็นการเอาสุดยอดกุนซือระดับโลกยุคนี้มาแข่งกันชัด ๆ นี้ไม่นับบรรดาทีมเล็กที่ได้อิมพอร์ตกุนซือที่มีชื่อระดับรอง ๆ ลงมาอย่าง เซาแธมป์ตัน ที่ได้ โคล้ด ปูแอล มาคุมทีมแทน โรนัลด์ คูมันน์ ที่หนีไป เอฟเวอร์ตัน หรือ วอลเตอร์ มาซซาร์รี่ ที่มาลองหาประสบการณ์ใหม่กับ วัตฟอร์ต 

ส่วนบรรดาทีมน้องใหม่ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาประกอบไปด้วย เบิร์นลีย์, มิดเดิ้ลสโบรส์ และ ฮัลล์ ซิตี้ ซึ่งศักยภาพดูเป็นรองบรรดาทีมในลีกสูงสุดอยู่แล้ว ทำให้ต้องดูการเสริมทีมว่าจะเป็นยังไงซึ่งชื่อของกุนซือถือว่ามองข้ามไม่ได้เหมือนกัน ทั้ง เบิร์นลีย์ ที่มี ฌอง ไดซ์ อดีตกุนซือที่เคยพา วัตฟอร์ต ขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุด หรือ ฮัลล์ ซิตี้ ที่ได้ขาประจำอย่าง สตีฟ บรูซ คุมทีม นอกจากนั้น มูรินโญ่ มีสิทธิ์ที่ต้องเจอกับอดีตลูกน้องอีกคนอย่าง ไอตอร์ การันก้า ที่มาคุม มิดเดิ้ลสโบรซ์ 

สำหรับตัวผู้เล่นของแต่ละทีมโดยเฉพาะนักเตะหน้าใหม่ ที่ถูกบรรดาทีมใหญ่เสริมตัวก็เป็นอีกสีสันว่าจะเป็นยังไง สามารถสร้างชื่อหรือเอาชื่อมาทิ้ง

เริ่มจาก อาร์เซนอล ที่ทุ่มเงินซื้อ กรานิต ชาก้า มิดฟิลด์ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์จาก กลัดบัค กับราคาหลัก 30 ล้านยูโร พร้อมทั้งปล่อย โทมัส โรซิสกี้ ออกไป ต่อที่ ลิเวอร์พูล ขวัญใจมหาชนชาวสยามที่ทุ่มเงินกว่า 34 ล้านปอนด์ในการดึงตัว ซาดิโอ มาเน่ 
จากเซาแธมป์ตันและ โจแอล มาทิป จาก ชาลเก้ 04 

ขณะที่ทีมเปลี่ยนกุนซือทั้งหลายก็ไม่น้อยหน้าเพราะใช้เงินมหาศาลในการนำเข้าผู้เล่นเก่ง ๆ อย่าง เชลซี จ่ายไปกว่า 60 ล้านปอนด์ ในการดึงตัว มิชี่ บาสชัวยี่ กับ เอ็นโกโล่ กองเต้ มาสู่ทีม หรือ แมนฯ ซิตี้ เอง เป็ป ก็สั่งนำเข้า อิลคาย กุยโดกัน, มานูเอล โนลิโต้ และ อเล็กซาน เซนเชนโก้ ซึ่งเชื่อว่าไม่หมดแค่นี้แน่

แต่ที่น่าจะสร้างความหวือหวามากที่สุดยังไงต้องยกให้ทีมของ เดอะ สเปเชี่ยล วัน โจเซ่ มูรินโญ่ ที่ได้ เฮนริค มคิตาร์ยาน มิดฟิลด์ตัวรุกเชิงสูงจาก ดอร์ทมุนด์ แบบไม่ยอมเปิดเผยค่าตัวด้วย และ บร๊ะเจ้า อย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าที่ถือว่าเก่งที่สุดในโลกยุคนี้มาแบบฟรี ๆ หลังจากที่เจ้าตัวหมดสัญญากับทีมเก่า

เหลืออีกไม่กี่วันฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษก็จะเปิดแล้ว ในวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคมนี้ และจะไปปิดฤดูกาลในช่วงเดือนพฤษภาคมปีหน้า ก็อยากให้แฟนฟุตบอลอังกฤษเตรียมตัวเตรียมใจกันให้ได้เพราะแค่คิดถึงความสนุก ความมันส์ที่กำลังมาถึงก็สนุกแล้วครับ 

 

ที่แค่คิดก็สนุกแล้ว