The Legend of
ในเดือนที่แล้วผมได้เขียนเรื่องราวตำนานของ The Black Superman Muhammad Ali สุดยอดอดีตแชมป์มวยโลกรุ่น Heavyweight 3 สมัย ผู้ล่วงลับ โดยผมได้ทิ้งท้ายเรื่องราวไว้ช่วงหนึ่งของตอนที่ Ali ได้เดินทางมาที่ประเทศญี่ปุ่นและจัดการต่อสู้เพื่อการกุศลขึ้นซึ่งเป็นการแข่งขันที่ถูกขนานนามว่า The Greatest vs. The Greatest ฝ่ายหนึ่งคือ Ali ที่เรารู้จัก และอีกฝ่ายหนึ่งคือ Antonio Inoki สุดยอดนักมวยปล้ำชาวญี่ปุ่น
Antonio Inoki เป็นใครสุดยอดมาจากไหน มีดีอย่างไรถึงสามารถเทียบชั้นมาสู้กับ Ali ได้ ลองมาติดตามประวัติชายคนนี้กันดีกว่าครับ
Antonio Inoki ชื่อเดิมคือ Kaniji Inoki (คันจิ อิโนกิ) เกิดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ปี 1943 เป็นบุตรชายคนสุดท้องคนที่สิบในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 11 คน ชีวิตของเขานั้นเป็นชีวิตที่ผ่านอะไรสาหัสมามากครับ ทางบ้านของอิโนกินั้นเดิมเป็นครอบครัวที่มีฐานะอยู่พอสมควรเนื่องด้วยคุณพ่อนั้นเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง แต่ว่าเรื่องราวในชีวิตต่อจากนั้นเป็นหนังชีวิตม้วนใหญ่ที่เขาต้องเผชิญ
คุณพ่อของอิโนกิ ได้เสียชีวิตลงเมื่อเขามีอายุเพียง 5 ขวบ ปัญหาทางธุรกิจของที่บ้านเลยทรุดตัวลง แต่ด้วยการค้ำจุนของผู้ใหญ่ในบ้านเลยพอที่จะประคองเลี้ยงดูต่อไปได้ แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลายลงเมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามให้สหรัฐอเมริกา ผลกระทบจากสภาวะแพ้สงครามทำให้สภาพการเงินของครอบครัวของอิโนกิทรุดตัวลงหนักจนต้องอพยพไปอยู่ที่ประเทศบราซิล ซึ่งในตอนนั้นอิโนกิมีอายุเพียง 14 ปี
แต่อิโนกิก็ใช้ชีวิตได้อย่างน่าทึ่งครับ อิโนกิเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ตั้งแต่เด็กมีหน้าตาที่หล่อเหลา และมีทักษะทางกีฬาที่น่าทึ่ง เขาได้ฝึกคาราเต้จากพี่ชายตั้งแต่ 7 ขวบเป็นพื้นฐาน เมื่อศึกษาอยู่ในชั้นประถมเขามีส่วนสูงถึง 180 เซนติเมตร ได้เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลทีมโรงเรียน และยังเป็นนักกีฬากรีฑาอีกทั้งยังเคยชนะการแข่งขันรายการระดับเขตมาแล้วอีกด้วย เมื่อครั้งที่อพยพไปอยู่ที่บราซิลได้ไปลงแข่งขันจนชนะการแข่งขันกรีฑาประเภทพุ่งแหลนและทุ่มน้ำหนัก ในระดับภูมิภาคที่ประเทศบราซิลมาแล้ว แต่แม้จะมีรายได้จากการลงแข่งขันกีฬาในหลาย ๆ รายการ แต่ก็ยังไม่พอช่วยให้สภาวะทางการเงินของครอบครัวอิโนกิดีขึ้นสักเท่าใดเลย
จนในปี 1960 ชีวิตของอิโนกิ ก็ก้าวผ่านมาสู่ช่วงฟ้าหลังฝน และเปลี่ยนชีวิตของเขาไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง อิโนกิ ในวัย 17 ปี ได้พบกับ “ริคิโดซัน” นักมวยปล้ำและโปรโมเตอร์มวยปล้ำชื่อดังของญี่ปุ่นในขณะนั้น ริคิโดซัน ได้ต้องชะตาและถูกใจในความเป็นนักกีฬาของอิโนกิ ทั้งประกอบไปด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาและรูปร่างที่สูงใหญ่ถึง 191 เซนติเมตร ริคิโดซัน จึงได้ชักชวนให้อิโนกิมาร่วมงานกับเขาที่ Japanese Wrestling Association (JWA) ประเทศญี่ปุ่น และแน่นอนครับคำตอบของอิโนกิคือ “ตกลง”
อิโนกิ ได้เริ่มต้นฝึกฝนทักษะมวยปล้ำกับ ริคิโดซัน ซึ่งด้วยทักษะทางกีฬาที่ยอดเยี่ยมเป็นทุนเดิมทำให้เขาเรียนรู้การเคลื่อนไหวแบบมวยปล้ำจนขึ้นโชว์ได้อย่างรวดเร็ว และเขาก็ได้พบกับ Giant BABA ผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนรุ่นพี่ในวงการ เพื่อนร่วมห้องพัก
กินอยู่หลับนอนด้วยกัน และเป็นคู่ Tag Team ที่ถือได้ว่าเป็น The Greatest Tag Team of All Time
เขาทั้งคู่เผชิญศึกเหนือเสือใต้ด้วยกันมาแล้วทั่วโลก และ BABA ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ อิโนกิ มีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนั้น หากเมื่อใดที่ทั้งดู่ได้หันมาเผชิญหน้ากัน เชื่อได้เลยว่าจะเป็นหนึ่ง Match มวยปล้ำที่บรรดาชาวญี่ปุ่นอยากให้เกิดขึ้นและอยากดูที่สุดนั้น แต่น่าเสียดายที่ไม่เคยมีการเผชิญหน้ากันระหว่างสองคนนี้อยู่เลย
อิโนกิ และ Giant Baba ทั้งคู่ได้เป็นคู่ Tag Team ออกปล้ำด้วยกันอย่างยาวนาน จนในปี 1972 อิโนกิจึงได้แยกตัวออกก่อตั้งสมาพันธ์มวยปล้ำใหม่โดยใช้ชื่อว่า New Japan Pro Wrestling (NJPW) ซึ่งอิโนกิใช้ตัวของเขาเองเป็นตัวชูโรง ออกปล้ำ
ต่อเนื่องมายาวนานจนถึงปี 1994 ในวัยที่ตัวเขามีอายุ 51 ปี จึงได้เลิกปล้ำไป
ตลอดเวลาในการจัดโชว์การแข่งขันมวยปล้ำนั้น อิโนกิได้บริหารงานเป็นอย่างดีได้ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวในการเชื้อเชิญนักมวยปล้ำต่างชาติที่มีชื่อเสียงดัง ๆ มาร่วมปล้ำด้วยกันตลอด ไม่ว่าจะเป็น Hulk Hogan, Ric Flair, Andre The Giant หรือ
Big Van Vader ซึ่งถือได้ว่าเป็นยุคที่วงการมวยปล้ำของประเทศญี่ปุ่นเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก จากนั้นในปี 2005 อิโนกิจึงได้ขายหุ้นสมาพันธ์ให้กับบริษัทเกมชื่อดังอย่าง Yuke’s video game company และพักตัวเองอย่างสมบูรณ์
Antonio Inoki ถือได้ว่าเป็นนักสู้ที่ได้รับความเคารพในวงการมวยปล้ำและวงการต่อสู้ของประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก นอกจากเขาจะเป็นนักมวยปล้ำแล้ว ในวงการ Mix Martial Art หรือในวงการการต่อสู้ศิลปะป้องกันตัว อิโนกิก็ได้ลงแข่งขันมาแล้ว
โดยมีสถิติที่น่าสนใจ ชนะ 30 แพ้ 2 เสมอ 3 และในจำนวนนั้นเป็นการชนะน็อคถึง 9 ครั้ง เรียกได้ว่าสู้ได้จริงทั้งในและนอกเวที
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ทุกคนจะจำได้คือ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ในเวทีไหน ๆ ก็ตาม อิโนกิจะปรากฎตัวในชุดของนักมวยปล้ำ ซึ่งเป็นการบอกถึงความภูมิใจในความเป็นนักมวยปล้ำของเขา จนกระทั่งในปี 2010 อิโนกิได้รับเกียรติเชิญจาก World Wrestling Entertainment (WWE) เชิญเข้าสู่หอเกียรติยศ ซึ่งถือเป็นเกียรติอันสูงสุดที่ได้รับในการมวยปล้ำเป็นอย่างมากทีเดียว
นอกเหนือจากการปล้ำและการบริหารงานในองค์กรมวยปล้ำแล้ว ในปี 1989 อิโนกิ ยังเคยได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศ และมีผลงานที่เคยสร้างชื่อไว้ก็คือ เป็นหนึ่งในทีมเจรจาที่เข้าไปต่อรองกับ ซัดดัม ฮุสเซนในประเทศอิรัก เพื่อช่วยเหลือคตัวประกันชาวญี่ปุ่นในสงคราม Gulf War มาแล้วซึ่งผลการเจรจาในครั้งนั้นผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และดำรงตำแหน่งจนครบวาระในปี 1995 และได้รับเลือกอีกครั้งอีกวาระหนึ่งในปี 2013 ที่ผ่านมาและยังคงดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนี้
Antonio Inoki นั้นถือได้ว่าเป็น สัญลักษณ์ของวงการการต่อสู้ของประเทศญี่ปุ่น ชื่อเสียงของเขามีการกล่าวขานมาจนถึงในปัจจุบันนี้ หากใครที่เป็นแฟนการ์ตูนการต่อสู้ของญี่ปุ่นน่าจะสังเกตได้ไม่ยากเลยครับ รูปลักษณ์ของ Inoki นั้นปรากฏแฝงอยู่
ในชื่อตัวละครในแต่ละเรื่องที่ต่าง ๆ กันออกไป แต่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ทางหน้าตาและร่างกายอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสูงใหญ่ หน้าตาที่หล่อเหลา คางยาวเป็นสัน ยกตัวอย่างดังเช่นเรื่อง Tough หรือ “ใครว่าข้าไม่เก่ง” ปรากฏตัวในชื่อของ
Iron Kiba หรือจากเรื่อง บากิ จอมประจัญบาน ในชื่อของ “คันจิ อิงาริ” และในอีกหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งหาไม่ยากอย่างแน่นอนครับ เชื่อได้ว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านมายาวนานไปอีกเท่าใดตำนานและชื่อเสียงของเขาก็จะยังคงถูกกล่าวขานถึงต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
แน่นอน สุดยอดนักสู้ Antonio Inoki