หลังประกาศว่า COCKTAIL วงดนตรีร็อกแนวหน้าของเมืองไทยจะเริ่มต้นออกทัวร์เป็นครั้งสุดท้ายด้วยไลน์อัพสมาชิก 6 คน ประกอบด้วย โอม ปัณฑพล ประสารราชกิจ, เชา ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย, ฟิลิปส์ เปรมสิริกรณ์, ปาร์ค เกริกเกียรติ สว่างวงศ์, เหน่ง วิวัฒน์ สว่างวรรณรัตน์ และ เอ็กซ์ ชรัณ ตัณฑนันทน์ ก่อนยุติบทบาทการเป็นศิลปินกลุ่มอย่างเป็นทางการหลังสิ้นสุดปี 2568 พร้อมเผยหลากอีเวนต์แห่งการอำลาที่สมาชิกวงวางแพลนเอาไว้แบบจัดเต็ม เพื่อเป็นการบันทึกความทรงจำช่วงสุดท้ายร่วมกับเหล่าแฟนเพลง หนึ่งในนั้นคือ “Yours Ever” ผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดสุดท้ายที่ไม่ใช่แค่ทำหน้าที่ปิดไตรภาคยุค GeneLab และปิดตำนานตลอดระยะเวลา 20 กว่าปีวง แต่ยังทำหน้าที่ส่งต่อเรื่องราวของพวกเขาผ่านหลากผลงานเพลงที่ต่อให้วันเวลาจะผ่านไปนานอีกสักเท่าไหร่ มันก็จะกลายเป็นเพลงของพวกคุณเสมอ

ก่อนอื่นขอขยายความเรื่องไตรภาคยุค GeneLab กันเสียหน่อย จากข้อมูลที่ปรากฏใน “COCKTAIL, YOURS EVER, LIFETIME EXHIBITION” ทางวงได้อธิบายไว้ว่าผลงานของ COCKTAIL มีจำนวนทั้งหมด 9 สตูดิโออัลบั้ม และ 3 EP โดยแบ่งออกเป็น 3 อัลบั้ม และ 3 EP ในยุคศิลปินอิสระ 3 อัลบั้มในยุค genie records และ 3 อัลบั้มในยุค GeneLab เพื่อเป็นการนับตามแบบแฟรนไชน์ภาพยนตร์ Star Wars ที่มีการแบ่งหมวดหมู่ออกเป็น ไตรภาคเดิม ไตรภาคก่อน และไตรภาคต่อ นับเป็นอีกครั้งที่วง COCKTAIL ได้กระทำความ Geek ด้านป๊อปคัลเจอร์ผ่านผลงานของพวกเขาให้เหล่าแฟนเพลงได้สัมผัสกัน

สำหรับ Yours Ever นี่คือสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 9 ของวง COCKTAIL เปิดตัวด้วยซิงเกิลแรก ‘แรงเสียดทาน Feat. 22Bullets’ ซิงเกิลที่สอง ‘ดีซะกว่า’ ก่อนปล่อยอัลบั้มอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 11 แทร็ก นับ 2 ซิงเกิลแรกรวมกันเป็น 7 เพลงใหม่ ประกอบด้วย Your Ever Feat. Q Flure, ขอโทษ, สิ้นฤดู, ความคาดหวัง Feat. ตูน bodyslam และ ปั๊บ Potato, Winter Solitude และอีก 4 เพลงที่เคยปล่อยในรูปแบบซิงเกิล แต่ยังไม่เคยรวมเป็นอัลบั้ม ประกอบด้วย ไม่เป็นรอง, เร้น, เหนือชีวิต และ ลั่นทม ตามลำดับ

เริ่มต้นที่ ‘แรงเสียดทาน’ เพลงเปิดอัลบั้มที่ผสานความร็อกของวงเข้ากับซาวด์และโครงสร้างของเพลงอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างกลมกล่อม ซึ่งเป็นการร่วมงานกับ DJ 22Bullets เนื้อหาว่าด้วยการใช้ชีวิตโอนอ่อนต่อต่อสังคม ขนบ และวัฒนธรรม ทนรับแรงเสียดทานที่คอยกดทับอยู่ทุกวันในระดับนับ 1 ถึง 100 ก็ไม่อาจทนไหว จนต้องปลดปล่อยความรู้สึกนั้นออกมา ตอกย้ำคอนเซ็ปต์เครื่องดื่มผสมของวงด้วยมิติทางดนตรีที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นท่อน EDM ชวนโยก หรือท่อนโซโล่กีตาร์ที่โคตรเอา ถือเป็นการสร้างความตื่นเต้นเปิดอัลบั้มให้กับคนฟังได้เป็นอย่างดี

‘ดีซะกว่า’ เพลงแอบรักเนื้อหาเฟรนด์โซนแบบตะโกน แต่ไวบ์ที่เราสัมผัสได้นั้นเปี่ยมด้วยความจริงใจจนชวนให้รู้สึกถึงความสว่างไสวมากกว่าเศร้าหมอง ผ่านเนื้อร้องและซาวด์ป็อปร็อกจังหวะกลาง ๆ แต่ชวนโยกแบบเมามันส์

ต่อด้วย ‘Your Ever’ เพลงป็อปร็อกเมโลดี้สวย เนื้อหาชวนซึ้ง จังหวะกลาง ๆ ชื่อเดียวกับอัลบั้ม นับเป็นจดหมายรักที่คุณโอม ปัณฑพล ประสารราชกิจ เขียนเป็นเพลงถึงภรรยาในฐานะฟรอนต์แมนของวงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนรีไทร์จาก COCKTAIL ซึ่งเปี่ยมด้วยอารมณ์และความหวาน และการได้ คิว Flure เข้ามาร่วมขับร้องก็ยิ่งทำให้ความหวานของเพลงนั้นถูกยกระดับไปอีกขั้น คาดการณ์ได้เลยว่านี่น่าจะเป็นว่าที่เพลงฮิตอีกหนึ่งเพลงของวงอย่างแน่นอน

‘ขอโทษ’ เพลงป็อปร็อกจังหวะชิล แม้ท่วงทำนองและวิธีการร้องจะแอบชวนล่องลอย แต่เปี่ยมด้วยไวบ์ที่จริงใจจนเราสัมผัสได้ ทางด้านเนื้อหาก็ตามชื่อเลย กล่าวถึงการที่ทำผิดพลาดและพร้อมสำนึกผิดอย่างจริงใจ

‘สิ้นฤดู’ นี่คือแทร็กที่ชวนเซอร์ไพรส์ประจำอัลบั้มสำหรับผม เนื่องด้วยความชอบอันมหาศาลที่มีต่ออัลบั้ม In the Memory of Summer Romance เป็นทุนเดิม เพียงแค่ฟังอินโทรนไม่กี่วินาทีก็ชวนให้นึกหลากบทเพลงในอัลบั้มที่กล่าวมา และทางวงก็เคยบอกออกมาแล้วว่านี่คือเพลงแก้ของ ‘ดาราดับแสง’ ที่มาพร้อมกับท่าเตะในตำนานจากมิวสิกวิดีโอ โดยในเชิงเนื้อหาของทั้งสองเพลงนี้จะมีเรื่องของคำมั่นสัญญาเป็นจุดร่วม แต่ต่างกันตรงที่เพลงเก่าคือการยึดมั่นรอคอยไม่เปลี่ยนแปลง แม้ดวงตะวันจะดับแสงไปแล้วก็ตาม ส่วนเพลงใหม่คือถ้าอีกฝั่งหาได้ยึดมั่นจริงจังในคำสัญญา ก็ป่วยการที่จะรอคอยให้เสียเวลา ซึ่งเป็นการหยิบยกธรรมเนียมแต่งเพลงแก้จากเหล่าครูเพลงลูกทุ่งมาใช้นั่นเอง

ต่อด้วย ‘ความคาดหวัง’ อีกหนึ่งบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่ได้พี่ ตูน BODYSLAM และ ปั๊ป Potato มาร่วมรับส่งเอนเนอจี้ความร็อกแบบไม่มีใครยอมใคร ฝั่งพาร์ตดนตรีก็ใช่ย่อย หยิบยกเครื่องสายมาช่วยประสาน ซึ่งเพิ่มมิติของซาวด์ได้ดีมาก ๆ ด้านเนื้อหาของเพลงสื่อสารได้อย่างตรงไปตรงมาและเปี่ยมด้วยสัจธรรมสูงมาก ฟังแล้วสามารถน้อมนำไปปรับใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิต เป็นอีกหนึ่งเพลงที่สะท้อนตัวตนของคุณโอมและความเป็นเครื่องดื่มผสมของวงได้เป็นอย่างดี

ต่อด้วย ‘Winter Solitude’ ที่มีสถานะคล้ายกับช่วงพักเบรกครึ่งแรกของอัลบั้ม นี่คือเพลงบรรเลงโดยคุณเชา ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย มือกีต้าร์ของวงที่เรียบเรียงออกมาได้อย่างไพเราะ สะท้อนห้วงความรู้สึกเหงาท่ามกลางบรรยากาศอันเหน็บหนาวออกมาได้ดีมาก

ต่อด้วย ‘ไม่เป็นรอง’, ‘เร้น’, ‘เหนือชีวิต’ และ ‘ลั่นทม’ ที่พอได้มาฟังรวดเดียวเป็นอัลบั้มแล้ว ยิ่งทำให้ตัวเพลงดูมีความพิเศษมากยิ่งขึ้นไปอีกแบบ โดยเฉพาะ ‘ลั่นทม’ ซึ่งถือเป็นการปิดฉากสตูดิโออัลบั้มชุดสุดท้ายแบบน้อยแต่มาก เน้นสื่อสารถึงห้วงอารมณ์ของคนฟังเป็นหลัก ผ่านเนื้อหาที่ตรงไปตรงมา ผ่านเมโลดี้และซาวด์ที่ไพเราะ เหมือนเป็นการรีแคปภาพความทรงจำของวงและเหล่าแฟนเพลงไปพร้อม ๆ กัน ให้ความรู้สึกชวนยิ้มทั้งน้ำตา ยิ่งงานคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสุดท้าย ถ้าสมาชิกวงมีพูดทิ้งท้ายความในใจก่อนเล่นเพลงนี้สั่งลานะ แฟน ๆ ได้ยืนกอดคอร้องไห้กันอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณภาพจาก : COCKTAIL และ GeneLab