พีพี ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์ Cutie-Sexy ที่ถูกต้อง!! เผยความเซ็กซี่ขี้เล่นผ่านธีมเล่ม ‘Toy Stories เรื่องราวที่อยู่เหนือกาลเวลา’

พีพี ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์ Cutie-Sexy ที่ถูกต้อง!! เผยความเซ็กซี่ขี้เล่นผ่านธีมเล่ม ‘Toy Stories เรื่องราวที่อยู่เหนือกาลเวลา’

นับเป็นครั้งที่สองแล้วสำหรับการขึ้นปก MiX Magazine ของ ‘พีพี ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์’ นักแสดงสาวสวยที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง จากบทบาท ‘แม่ปราง’ ในละครเรื่อง ‘พรหมลิขิต’ สู่บทบาท ‘ชีวัน’ ในละครเรื่อง ‘พรชีวัน’ นอกจากนี้ยังมีผลงานให้รอติดตามอีกไม่ว่าจะเป็นละครเรื่อง ‘แสนรัก’ รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง ‘Happy Monday (s) สวัสดีวันจันทร์ (ส)’ เรียกได้ว่าคราวนี้เธอกลับมาพร้อมพัฒนาการทางการแสดงที่เต็มเปี่ยม ทว่าความสดใสร่าเริงอันเป็นเอกลักษณ์ของนักแสดงสาวคนนี้ยังคงอยู่ไม่จางหายไปไหน 

แนะนำตัวเองตามสไตล์ของ ‘พีพี ปุญญ์ปรีดี’ 

พีพี : สวัสดีค่ะ ชื่อ ‘พีพี ปุญญ์ปรีดี’ นะคะ พีพีเป็นคนสดใสร่าเริงค่ะ อย่างที่ทุกคนได้เห็นกันเลย 

คิดว่าอะไรคือจุดเด่นของคุณ 

พีพี : น่าจะดวงตากับรอยยิ้มมั้งคะ (ยิ้ม) สดชื่นไหมไม่รู้ ต้องถามทุกคน (หัวเราะ) 

คุณมีวิธีสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองยังไงบ้าง 

พีพี : จริง ๆ เมื่อก่อนพีก็เป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองค่ะ แต่ต้องขอบคุณวงการบันเทิงที่ให้พีเข้ามามีพื้นที่ในการได้ลองทำอะไรหลายอย่าง จนเริ่มรู้ว่าเราชอบอะไรและทำให้เรากล้าแสดงออกมากขึ้น เพราะฉะนั้นความมั่นใจที่มีต้องขอบคุณคนรอบข้างมากกว่าที่คอยให้กำลังใจ คอยซัพพอร์ต คอยเชียร์เราให้ทำอะไรทำเลย ลองไปก่อนผิดถูกไม่ว่ากัน สิ่งเหล่านี้มันทำให้เรารู้สึกว่าทุกอย่างคือการได้ทดลองทำค่ะ ผลลัพธ์จะได้หรือไม่ค่อยว่ากันทีหลังแค่อย่างน้อยขอให้ได้ลอง  

เมื่อต้องเจอความคิดเห็นเชิงลบ คุณมีวิธีจัดการกับมันยังไง 

พีพี : พีจะแยกก่อนว่ามันเป็นความคิดเห็นเชิงลบที่พูดเพื่อให้เราแก้ไขพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นไหม หรือว่าพูดเพื่อความสะใจและพูดเพื่อกดข่มเรา ถ้าอันไหนมันมีประโยชน์กับเราก็เอามาปรับใช้ได้ แต่ถ้าอันไหนมันฟังแล้วไม่รื่นหูหรือว่ามันไม่ได้ส่งผลให้ชีวิตเราดีขึ้น พีก็จะปัดตกทิ้งไปไม่ได้เก็บมาใส่ใจค่ะ เราเห็นแล้วอาจจะรู้สึกไม่ดีนิดหนึ่งแต่คิดว่าเขาทำอะไรเราไม่ได้หรอก เพราะสุดท้ายทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรา เราจะแคร์คนรอบตัวที่อยู่ใกล้ชิดและรักเรามากกว่า 

บทบาทต่าง ๆ ที่ได้รับใกล้เคียงกับตัวตนจริงของคุณมากน้อยแค่ไหน 

พีพี : พีว่าใกล้เคียงมากอยู่นะ ด้วยความที่ผู้ใหญ่อาจจะมองว่าเราสดใสร่าเริงก็เลยให้โอกาสได้มารับบทที่มีคาแรกเตอร์ใกล้เคียงกับเราแบบนี้ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าช่วงแรก ๆ ที่เข้าวงการมาพีนิ่งกว่านี้ เงียบกว่านี้ พูดน้อยกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่เพราะคาแรกเตอร์ที่ได้รับทำให้พีเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตของเขาจนได้เรียนรู้ว่าการเป็นคนที่มีความสุข ร่าเริง คิดบวกมันดีแบบนี้นี่เอง ดังนั้นตัวละครแต่ละตัวที่เราได้เข้าไปสวมบทบาทเราก็จะซึมซับคาแรกเตอร์ของเขาเข้ามาอยู่ในตัวเรา เลือกว่าอันไหนดีเราเก็บเข้า ส่วนอันไหนอาจจะไม่ค่อยเวิร์กกับเราก็ค่อย ๆ ละลายพฤติกรรมให้สิ่งนั้นมันเฟดออกไปจากตัว สุดท้ายพอเรากลืนไปกับคาแรกเตอร์ที่ดีและสดใสร่าเริงมันเลยค่อย ๆ หล่อหลอมให้พีเป็นพีในทุกวันนี้ค่ะ 

คิดว่าตัวเองมีพัฒนาการมากขึ้นเท่าใดเมื่อเทียบกับงานแสดงครั้งแรก 

พีพี : คิดว่าต้องให้คนดูเป็นคนตอบเพราะว่าตัวพีเองก็ตอบยากค่ะ ในทุก ๆ ครั้ง ทุก ๆ ผลงานเราทำเต็มที่ ณ เวลานั้นอยู่แล้ว ซึ่งมันจะได้ตามความต้องการหรือตามความชอบของคนดู และผู้จัดละครมากน้อยแค่ไหนเราตอบแทนไม่ได้ สุดท้ายพวกนี้มันเป็นเรื่องของจิตใจไม่มีอะไรวัดตายตัว แต่ว่า ณ ขณะนั้นเราเต็มที่สุด ๆ แล้วและทุกครั้งเราก็จะได้รับคำแนะนำเพื่อเอาไปปรับปรุงด้วย ดังนั้นพีคิดว่าสิ่งที่แตกต่างจากช่วงแรกที่เข้าวงการคือความกล้ามากกว่าค่ะ ลองผิดลองถูกไปเลยไม่ต้องกลัว อยากก้าวขาเดินไปตรงนั้นก็ก้าวเลย ช่วงแรก ๆ ที่เข้าวงการบันเทิงอาจจะไม่ค่อยกล้าแบบนี้ 

นักแสดงที่เป็นไอดอลหรือต้นแบบของคุณ 

พีพี : พีไม่ได้มีใครเป็นต้นแบบ 100 % ค่ะ เราจะดึงข้อดีของแต่ละคนมาผสมเป็นตัวเรามากกว่า เหมือนเรามองว่าคนนี้ดีด้านนั้นหรือคนนั้นดีด้านนี้เราก็เก็บมาปรับใช้ ซึ่งรุ่นพี่นักแสดงที่ชอบตอนนี้คือ ‘เบลล่า ราณี แคมเปญ’ เพราะว่าได้ร่วมงานกับพี่เบลในละครเรื่อง ‘พรหมลิขิต’ ที่พีรับบทเป็น ‘แม่ปราง’ แล้วพีรู้สึกว่าเขาทั้งน่ารัก เก่ง มีวินัย จัดระเบียบชีวิตตัวเองดีมาก ก่อนหน้านี้เราไม่เคยทำงานกับพี่เบลก็ยังได้ยินมาบ้างว่าเขาสุดยอดขนาดนั้นเลย จนได้มาถ่ายละครด้วยกันจริง ๆ ทำให้เห็นว่านี่แหละคือมืออาชีพ ไม่อย่างนั้นเขาคงอยู่ในวงการบันเทิงไม่ได้ถึงทุกวันนี้ อีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบคือ ‘โบว์ เมลดา สุศรี’ เพราะว่านอกจากเขาจะตลก สวย หุ่นดี เขายังร้องเพลงเพราะด้วย ดังนั้นเราเลยชอบพี่เบลในเรื่องของการทํางาน การใช้ชีวิต การวางตัว ส่วนพี่โบว์เราชอบความทะเล้น ความน่ารัก ความขี้เล่น พีจะชอบในแต่ละส่วนของแต่ละคนค่ะ 

สเปกของคุณคือแบบไหน 

พีพี : สเปกของพีเมื่อก่อนคงมีกำหนดรูปร่างหน้าตาไว้เป๊ะ ๆ เลย แต่ช่วงนี้กลายเป็นว่าพีไม่มีสเปกตายตัวค่ะ เพราะสุดท้ายมันคือการที่เราอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข สามารถไปด้วยกันได้ เข้าใจกัน ซัพพอร์ตกัน ดูแลและหวังดีต่อกัน พร้อมที่จะแชร์อะไรด้วยกันมากกว่า อีกอย่างคือต้องทันกันค่ะ เวลาคุยกันต้องสนุกและคุยกันรู้เรื่อง อย่างตอนเราไปตลาดนัดซื้อผักซื้อปลาเรายังเลือกเลย เพราะฉะนั้นคู่ครองมันก็ต้องใช้เวลาเลือกว่าใครที่จะอยู่กับเราได้ อันนี้ถือว่าสําคัญค่ะ 

นิยามความรักในแบบฉบับของคุณ 

พีพี : นิยามความรักของพีคือความเห็นอกเห็นใจกัน ความหวังดีต่อกัน การที่เราอยากให้อีกคนหนึ่งมีความสุขและประสบความสําเร็จ รวมถึงรับฟังให้เกียรติซึ่งกันและกันค่ะ อีกอย่างคือต้องสามารถยอมรับข้อผิดพลาดของเขาได้และเข้าใจในความไม่สมบูรณ์แบบ แม้ว่าเขาจะมีจุดบกพร่องแต่เราก็รับได้และพร้อมที่จะอยู่กับเขาไปตลอด 

งานอดิเรกของคุณคืออะไร

พีพี : งานอดิเรกตอนว่าง ๆ พีชอบฟังพอดแคสต์ (Podcast) และชอบออกกําลังกายค่ะ แล้วถ้ามีเวลาเหลือเยอะหน่อยจะชอบเอาหนังสือมาอ่าน เป็นหนังสือแนวฮีลใจหรือเรื่องราวดี ๆ ประมาณนี้ พีคิดว่าหนังสือแต่ละเล่มมันให้คุณค่าแตกต่างกันไป บางเล่มให้ประโยชน์ในการใช้ชีวิต บางเล่มให้ความรู้เรื่องเศรษฐกิจ บางเล่มให้มุมมองทางความคิดหรือสังคม ดังนั้นถ้าถามว่าหนังสือเล่มไหนคือเล่มโปรดที่สุดจะตอบยากมากค่ะ 

ของเล่นวัยเด็กในความทรงจำ 

พีพี : ตอนเด็ก ๆ เราชิลมาก เล่นหมากเก็บ เล่นหนังยาง เล่นโอฬารเรียกชื่อ เล่นบอลลูนด่าน เล่นอีกาฟักไข่อะไรพวกนั้น ส่วนของเล่นเราจะเล่นพวกลูกข่างกับลูกแก้วค่ะ จำได้ว่าชอบไปดีดลูกแก้วเล่นกับพี่ชายพี่สาว 

ความแตกต่างระหว่างของเล่นในอดีตกับปัจจุบัน

พีพี : แตกต่างนะคะ พีคิดว่าปัจจุบันของเล่นมันหลากหลายและมีความครีเอตมากขึ้น แต่ในความครีเอตนั้นมันผลิตออกมาเป็นเซตและมีคนคิดค้นให้แล้วเรียบร้อย ซึ่งบางทีค่อนข้างเป็นแพตเทิร์น ส่วนของเล่นในอดีตมันจะมีเสน่ห์ของความเรียบง่ายมากว่าเพราะเรายังไม่ได้มีโรงงานหรือองค์ความรู้ในการผลิตของเล่นเท่าปัจจุบัน ตรงนี้เลยทําให้ของต่าง ๆ ในอดีตที่เราเอามาเล่นล้วนมาจากธรรมชาติทั้งนั้นค่ะ พีว่าอันนี้คือความแตกต่างกัน แต่มันดีทั้งคู่อยู่ที่ว่าชอบแบบไหนด้วย 

วีรกรรมแสบซนในวัยเด็ก

พีพี : ตอนเด็ก ๆ ที่บ้านของพีจะมีต้นมะยมอยู่ค่ะ แล้วเราชอบปีนต้นมะยมไปนั่งเล่น บางครั้งมีเปลที่ผูกอยู่ใต้ต้นแล้วเราดันแกว่งไปมาจนมันหมุนกลับตาลปัตรเลย (หัวเราะ) พีเคยชวนพี่น้องที่บ้านมาเล่นด้วยนะ บ้านพีจะมีหลังคาที่เป็นกระจกเปิดไปได้ เราก็เดินขึ้นไปบนหลังคาเลย จนแม่มาเห็นตกใจกลัวลูกตกลงมา ด้วยความที่เรายังเด็กเลยไม่รู้ถึงความอันตราย คิดแค่ว่ามันเจ๋งจังเลย ไหนใครบอกว่าหลังคาไม่แข็งแรงไง 

‘พีพี’ ในวัยนี้อยากบอกอะไรกับ ‘พีพี’ ในวัยเด็ก

พีพี : ดีใจด้วยนะ โตขึ้นแล้ว ขอบคุณพีพีตอนเด็กที่ทำให้เป็นพีพีในทุกวันนี้ ขอบคุณเบื้องลึกของจิตใจเราที่คอยผลักดันส่งเสริมเราและยังมั่นคงที่จะเป็นพีพีวัยเด็กที่อยู่ในร่างของพีพีในวัยโตอย่างทุกวันนี้ เหมือนกับว่าความสนุก ความทะเล้น ความสดใสมันยังคงถูกเก็บไว้ในตัวพีพีคนนี้อยู่ สุดท้ายเลยอยากจะบอกกับพีพีในวัยเด็กว่า ‘แกแสบมาก’ ค่ะ (หัวเราะ) 

สุดท้ายนี้ได้ขึ้นปก MiX Magazine เป็นครั้งที่ 2 แล้วรู้สึกยังไงบ้าง

พีพี : รู้สึกดีใจค่ะ อย่างแรกเลยคือเป็นเกียรติและยินดีมาก ๆ อยากจะขอบคุณ MiX Magazine ที่ให้โอกาสพีได้กลับมาทํางานด้วยกันอีก แล้วยังต้อนรับพีน่ารักเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือสนุกขึ้นเพราะว่าเราคุ้นเคยกันแล้ว ขอบคุณ MiX Magazine จริง ๆ ค่ะที่ต้อนรับพีเป็นอย่างดีเลย 

พีพี ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์ Cutie-Sexy ที่ถูกต้อง!! เผยความเซ็กซี่ขี้เล่นผ่านธีมเล่ม ‘Toy Stories เรื่องราวที่อยู่เหนือกาลเวลา’