The Shire  ซึ่งได้รับการออกแบบโดย Atelier Matias Mosquera ตั้งอยู่พื้นที่เมืองบัวโรสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา

The Shire ซึ่งได้รับการออกแบบโดย Atelier Matias Mosquera ตั้งอยู่พื้นที่เมืองบัวโรสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา

เมื่อเราพูดถึงสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในปัจจุบัน คุณจะเห็นภาพตึกระฟ้ากระจกสูงตระหง่านซึ่งมีลักษณะเด่นด้วยลูกเล่นจากโครงเฟรมกระจก ประกอบด้วย Composite สีต่าง ๆ ให้โครงเฟรมกระจกเหล่านั้นดูมีลูกเล่น แต่อย่างไรก็ตามได้มีการคาดการณ์และคาดเดาถึงเทรนด์การออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่จะมาแทนที่ว่ากำลังเข้าสู่ยุคของงานสถาปัตยกรรมคอนกรีต ซึ่งมีความเป็นไปได้ครับเพราะโครงสร้างของคอนกรีตนั้นมีเสน่ห์เฉพาะตัว คอนกรีตที่มีลักษณะดิบเป็นธรรมชาติไม่ผ่านการเสริมเติมแต่งเหล่านี้จะสามารถดึงดูดคุณได้ทันที และถ้าคุณชื่นชอบงานคอนกรีตคุณอาจจะชอบงานออกแบบชิ้นนี้ที่มีชื่อว่า ‘The Shire’

‘The Shire’ ซึ่งได้รับการออกแบบโดย Atelier Matias Mosquera ตั้งอยู่พื้นที่เมืองบัวโรสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นบ้านที่ไม่เหมือนใคร โดดเด่นและกลมกลืนไปกับภูมิทัศน์โดยรอบอย่างสวยงาม อีกทั้งบ้านหลังนี้ยังเป็นบ้านประหยัดพลังงานที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ทั้งในแง่ไฟฟ้าและน้ำประปาด้วย The Shire แห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากแหล่งที่มาของชื่อนั่นก็คือแคว้น The Shire ในหนังสือเรื่อง The Lord of the Ring ของ เจอาร์ อาร์ โทลคีน โดยเป็นการดึงเอาลักษณะเด่นบางส่วนของทรงบ้าน Hobbit ในนวนิยายมาใช้ โดยในนวนิยายนั้นบ้านจะประกอบไปด้วยดินและไม้ แต่สำหรับ The Shire หลังนี้ส่วนประกอบคือคอนกรีตเป็นหลักนั่นเอง

อย่างที่ทราบตอนต้นว่า The Shire ได้ถูกออกแบบและสร้างขึ้นจากคอนกรีตเป็นหลัก แต่ส่วนภูมิทัศน์โดยรอบประกอบไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัวกับพื้นที่สีเขียวบนตัวบ้าน พื้นที่สีเขียวช่วยกักเก็บความร้อนและความเย็น ในขณะที่แผ่นไม้ยังช่วยบังแสงแดดอีกด้วย ภายในบ้านประกอบด้วยคอนกรีตเปลือยและไม้บางส่วน รวมถึงห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำหินไม่เหมือนใคร บ้านหลังนี้มีพื้นที่ประมาณ 200 ตารางเมตร มีห้องนอน 3 ห้อง ห้องนั่งเล่น ห้องครัว พื้นที่ห้องสมุด และห้องน้ำ ล้อมรอบด้วยภูมิทัศน์สีเขียวสบายตาพร้อมสระว่ายน้ำ ตลอดจนทางเดินที่ทำให้คุณสามารถเดินบนโครงสร้างบ้านโดยรอบได้

 

สำหรับแนวคิดในเรื่องของการประหยัดพลังงานนั้น Atelier Matias Mosquera ให้นิยามการออกแบบในส่วนนี้อย่างน่าสนใจว่า “แทนที่จะซื้อและทิ้งสิ่งของ แนวคิดคือการผลิตและบริโภคตามความจำเป็น จากนั้นจึงรีไซเคิล” และยังกล่าวอีกว่า “จะไม่มีขยะอีกต่อไป เนื่องจากระบบจะสามารถพึ่งพาตนเองได้โดยผลิตไฟฟ้า ความร้อน และน้ำด้วยตนเอง”

ซึ่ง The Shire หลังนี้ใช้พลังงานไฟฟ้าด้วยพลังงานนอกระบบ เนื่องจากใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ที่เชื่อมต่อกับชุดแบตเตอรี่ ทำให้มั่นใจได้ว่าไฟในบ้านนั้นจะยังสามารถเปิดสว่างได้อยู่ตลอดแม้ว่าดวงอาทิตย์จะไม่ส่องแสง อีกทั้งยังมีระบบกักเก็บน้ำฝนที่สามารถเชื่อมต่อกับถังเก็บน้ำ รวมไปถึงแปลงสวนผักเพื่อผลิตอาหารอย่างยั่งยืน และสุดท้าย The Shire ยังถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยให้เจ้าของได้อาศัยอยู่ใกล้กับธรรมชาติ พักผ่อนจากชีวิตในเมืองที่วุ่นวายได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าบ้านแนวคอนกรีตรวมไปถึงแนวประหยัดพลังงานที่ใช้ระบบพึ่งพาตนเองนี้จะเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อย ๆ ในระยะอนาคตอันใกล้ไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า เฉกเช่นรถสันดาปน้ำมันที่ผมเองก็เชื่อว่าภายใน 10-15 ปีข้างหน้านี้ ผู้คนจะหันมาใช้รถ EV กันหมด เพื่อทดแทนในเรื่องของราคาค่าเชื้อเพลิงและรวมไปถึงการอนุรักษ์พลังงานสิ่งแวดล้อมส่วนอื่น ๆ ด้วย

โดดเด่นและกลมกลืนไปกับภูมิทัศน์โดยรอบอย่างสวยงาม อีกทั้งบ้านหลังนี้ยังเป็นบ้านประหยัดพลังงานที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ทั้งในแง่ไฟฟ้าและน้ำประปาด้วย