อุ้ม อิษยา ฮอสุวรรณ เธอคือนักแสดงสาวชาวอุดรฯ ที่มีรอยยิ้มสวยและแววตาเป็นประกายสดใสมีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ บวกกับฝีมือการแสดงระดับดีเยี่ยม ทำให้ตอนนี้ชื่อของ #อุ้มอิษยา ได้เข้าไปอยู่ในใจของใครหลายคนเรียบร้อยแล้ว

ก่อนหน้านี้แม้จะแสดงละครมาแล้วหลายเรื่อง แต่เธอได้แจ้งเกิดกับภาพยนตร์ "ฉลาดเกมส์โกง" ในปี พ.ศ. 2560 หลังจากนั้น อุ้ม อิษยา กลับมาลุยงานละครจนได้รับบทเป็นนักแสดงนำ เช่น แก้วกลางดง, อ้ายข่อยฮักเจ้า, ภูติแม่น้ำโขง ฯลฯ และที่เพิ่งจบลงไปหมาด ๆ คือ ละครซีรีส์ชุด “ดวงใจเทวพรหม” ตอน “ใจพิสุทธิ์” ซึ่งเธอรับบทครูสาว ใจพิสุทธิ์ (หนูพุก) จับคู่กับ หม่อมหลวงรณจักร จุฑาเทพ หรือ ผู้กองจักร เรียกได้ว่ากระแสมาแรงมากจนเธอมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

ช่วยเล่าประสบการณ์ที่คุณได้แสดงละคร ดวงใจเทวพรหม ตอน “ใจพิสุทธิ์” ให้เราฟังหน่อย

อุ้ม อิษยา : การแสดงเรื่องนี้ถือว่าพลิกคาแรคเตอร์ตัวเอง เพราะต้องตัดผมสั้น ก่อนหน้านี้อุ้มไว้ผมยาวมาตลอด ทางผู้จัด (พี่นก สินจัย) บอกว่าในยุค 90s ช่วงนั้นเขาจะฮิตทรงผมของพี่แหม่ม จินตหรา มาก ๆ คือผมทรงบ๊อบสั้น เขาเลยอยากให้เป็นไปตามคาแรคเตอร์ของครู แล้วก็อยากให้คาแรคเตอร์มันสมบูรณ์มากขึ้นอีกด้วยการให้เราตัดผมสั้นซึ่งตรงกับความฮิตในยุค 90s

ในยุค 90s ค่อนข้างใกล้เคียงกับปัจจุบันมาก ๆ เลยค่ะ มีเพจเจอร์ โทรศัพท์ จดหมายอะไรแบบนี้ที่เราเห็นได้ในฉาก ซึ่งรู้สึกว่ามันเป็นเสน่ห์น่ารักดีค่ะ แต่ในส่วนเรื่องที่เราต้องปรับเปลี่ยนบุคลิกก็จะเป็นที่ตัวคาแรคเตอร์มากกว่า เพราะว่าคาแรคเตอร์ของอุ้มในบทใจพิสุทธิ์เป็นคุณครู เขามีความเรียบร้อยและอ่อนหวาน ไม่ได้แสดงออกเยอะค่ะ

ย้อนไปจุดเริ่มต้น คุณเข้าวงการบันเทิงมาได้อย่างไร

อุ้ม อิษยา : ก่อนที่จะเข้าวงการบันเทิง อุ้มเรียนอยู่ที่โรงเรียนสตรีราชินูทิศ เป็นโรงเรียนประจำจังหวัดในอุดรธานีค่ะ แล้วทางโมเดลลิงไปตามหานักแสดงพอดีก็ได้พบกัน เขาเอานามบัตรมาให้ ตอนนั้นคิดว่าแบบ...โดนหลอกหรือเปล่า (หัวเราะ) แต่ก็เอาไปให้คุณแม่เป็นคนคุยแทน ตอนแรกกลัวนะเพราะเราไม่เคยเข้ากรุงเทพฯ มาก่อน แต่คุณแม่บอกว่าให้ลองดูไม่เสียหายในเมื่อเขาไม่ได้เข้ามาหลอกอะไร สุดท้ายเลยลองเข้ามา เริ่มจากแคสงานที่ช่อง 3 จนได้เป็นนักแสดงในสังกัด จึงเริ่มทำงานในวงการหลังจากที่เราย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ

หลังจากนั้นชีวิตคุณเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน

อุ้ม อิษยา : ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะมาเป็นอาชีพนักแสดง 100% เพราะว่าตอนที่ย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ เริ่มแรกคิดว่าเดี๋ยวเราเรียนสาขาที่ชอบควบคู่กับทำงานไปก่อน ค่อยตัดสินใจว่าจะไปในทิศทางไหน สุดท้ายก็มาสายนักแสดงยาวเลยค่ะ แต่ถ้าในวิถีชีวิตเราไม่ได้รู้สึกว่ามันเปลี่ยนอะไรมากมาย มีแค่เมื่อก่อนเราเป็นคนขี้อายแล้วค่อนข้างเก็บตัวมาก พอหลังจากเป็นนักแสดงมันทำให้เราโตมากขึ้น กล้าแสดงออกมากขึ้น แล้วการแสดงทำให้เรารู้จักชีวิตรอบด้าน หมายความว่าพอเราทำความรู้จักกับอารมณ์ของตัวละคร เราสามารถควบคุมอารมณ์ของเราได้อะไรแบบนี้ เลยทำให้เห็นความเป็นมนุษย์ได้กลมมากขึ้น

คุณจำละครเรื่องแรกที่แสดงได้ไหม มีความรู้สึกอย่างไรบ้าง

อุ้ม อิษยา : งานแรกที่เราแสดงเป็นผลงานกับทางช่อง 3 ค่ะ เป็นละครที่ถ่าย 2 เรื่องพร้อมกัน คือเรื่อง “ใต้เงาจันทร์” กับ
“ปาฏิหาริย์รักข้ามขอบฟ้า” ซึ่งเรื่อง “ปาฏิหาริย์รักข้ามขอบฟ้า” รับบทเป็น ธารา เขาจะมีพลังน้ำ ออกแนวแฟนตาซีหน่อย ต้องเล่นกับซีจีสายน้ำ มันก็เป็นอะไรที่ยากมากเหมือนกันเพราะว่าเริ่มงานแรกแล้วเราต้องจินตนาการมากกว่าแค่เป็นคนธรรมดา ๆ แต่ต้องเป็นคนที่มีพลังพิเศษ เป็นอะไรที่ท้าทายมาก

ส่วนเรื่อง “ใต้เงาจันทร์” แสดงเป็น บูรณา (แบม) เป็นน้องสาวของนางเอก (มาร์กี้ ราศรี) ตอนนั้นรู้สึกว่าคาแรคเตอร์มันจะใกล้ตัวหน่อย เพราะว่าด้วยวัยเราในช่วงนั้นใกล้เคียงกับบทที่แสดง แต่มันจะมีความยากที่ว่าเป็นเรื่องแรก แล้วเราก็ยังเกร็งอยู่มาก

จากงานแสดงที่ผ่านมา คิดว่าเรื่องไหนใกล้เคียงกับชีวิตจริงมากที่สุด

อุ้ม อิษยา : เรื่อง “เงิน งาน ความรัก” มั้งคะ แต่มันยังไม่ได้ฉายนะ บทในเรื่องมันเหมือนเห็นตัวเองในตอนที่วิ่งไล่ตามความฝัน คือมันจะมีช่วงที่เราเข้าวงการบวกกับเข้ามหาวิทยาลัยพอดี ในช่วงนั้นคือเหมือนแพสชันเราเยอะมาก ทั้งอยากเรียนอยากทำงาน คือจะทำทุกอย่าง แล้วในเรื่อง “เงิน งาน ความรัก” คาแรคเตอร์ของเราได้รับบทเป็น “เฟื้อง” ซึ่งตัวเฟื้องเป็นเด็กจบใหม่ที่เขามีความฝันว่าอยากจะสร้างผลงานดี ๆ ออกมา อยากจะออกแบบคาแรคเตอร์ที่สามารถทำเงินให้เขาได้ ทำสิ่งที่รักให้มันเป็นอาชีพ ซึ่งมันทำให้เรานึกถึงตัวเองในช่วงที่เข้าวงการใหม่ ๆ เข้ามหาวิทยาลัยใหม่ ๆ แล้วรู้สึกสนุกดี เรื่องนี้คิดว่าใกล้เคียงกับชีวิตจริงของเรามาก ๆ

บทแบบไหนที่คุณอยากแสดงเป็นพิเศษบ้าง

อุ้ม อิษยา : อยากเล่นแนวคอมเมดี้และอยากรับบทเป็นคนรวยค่ะ (หัวเราะ) เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่เราจะเล่นบทสาวชาวบ้านอะไรอย่างนี้และมีบทดราม่าค่อนข้างเยอะ แต่ที่ผ่านมาก็สนุกดีนะคะ ถ้าบทบาทที่ยังไม่เคยได้รับจะเป็นในทางคอมเมดี้ แล้วก็บทบาทที่อยากเล่นจะเป็นลูกคนรวย

สมมุติว่าวันนี้ไม่ได้เป็นนักแสดง คิดว่าจะเป็นอะไร

อุ้ม อิษยา : เป็นด้านกราฟิก ดีไซเนอร์ค่ะ เพราะว่าเรียนมาด้านนี้

แบบนี้งานอดิเรกของคุณน่าจะเกี่ยวกับด้านศิลปะด้วยหรือเปล่า

อุ้ม อิษยา : จริง ๆ อุ้มวาดรูปน้อยลงมากเลย เพราะว่าตอนที่เรียนเราวาดเยอะมาก เยอะจนแบบมีช่วงหนึ่งที่หยุดวาดไปเลย คือตอนเรียนเราทำธีสิสเป็นหนังสือภาพประกอบเด็กด้วยค่ะ มันก็เลยทำให้เราวาดหนักมาก ๆ แล้วหลังจากที่ทำธีสิสส่งจบแล้วก็หยุดวาดไปสักพักใหญ่ ตอนนี้เริ่มกลับมาวาดรูปแล้วค่ะ ถ้างานอดิเรกส่วนใหญ่ก็จะมีวาดรูปบ้าง แต่ส่วนมากจะอ่านการ์ตูน ผ่อนคลาย กินขนมอะไรไป

แฟนคลับจะมีโอกาสได้เห็นผลงานฝีมือคุณบ้างไหม

อุ้ม อิษยา : อ๋อ มีค่ะ เพราะว่าในผลงานที่กำลังจะฉายเรื่อง “เงิน งาน ความรัก” คาแรคเตอร์ที่เราได้รับเขาเป็นกราฟิก ดีไซเนอร์พอดี ในเรื่องจะมีงานที่อุ้มออกแบบเองด้วยค่ะ

ถามเรื่องความรักบ้าง ตอนนี้มีคนมาจีบมากน้อยแค่ไหน

อุ้ม อิษยา : ตอนนี้ไม่มี แต่จริง ๆ ถ้าที่เข้ามาจะเป็นแบบพูดคุยกันซะมากกว่า ยังไม่ได้พัฒนาความสัมพันธ์อะไรมากมาย

สเปกที่คุณชอบเป็นแบบไหน

อุ้ม อิษยา : ถ้าเป็นภายนอกก็ชอบคนที่ดูดี เขาก็ต้องดูแลตัวเองหน่อย แต่ส่วนใหญ่เราไม่ได้จำกัดว่าจะต้องรูปร่างแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ สไตล์แบบนี้ จะเป็นในด้านนิสัยมากกว่าที่ต้องเข้ากับเราได้ คนที่สามารถทำให้เรามีชีวิตที่ Positive มากขึ้น คือถ้ามีเขาในชีวิต ชีวิตเราต้องดีขึ้น จริง ๆ แล้วชอบคนที่เทคแคร์ดูแลเราค่ะ

คุณวางแผนอะไรในอนาคตไว้บ้าง

อุ้ม อิษยา : จริง ๆ ณ ตอนนี้ก็ยังทำงานอาชีพนักแสดง เราอยากจะทำให้มันดีที่สุดไปเรื่อย ๆ แต่ว่ายังไม่ได้วางแผนระยะยาวนะคะว่ามันจะไปในทิศทางไหนหรือยังไง แค่รู้สึกว่าถ้าเราแสดงแล้วคนชอบผลงาน มีคนติดตาม หรือคนแค่ทักเราด้วยชื่อตัวละครเวลาเราไปข้างนอกแบบนี้ รู้สึกว่านี่มันก็แฮปปี้แล้วค่ะ

สุดท้ายนี้ในฐานะที่คุณเป็นสาวอุดรฯ อยากให้คุณฝากอะไรถึงแฟนคลับเป็นสำเนียงอีสานหน่อย

อุ้ม อิษยา : (สำเนียงอีสาน) อยากสิขอบคุณทุกผู้ทุกคนเด้อค่ะ อยากสิขอบคุณทุก ๆ คนที่มาติดตามแล้วก็สนับสนุนผลงานของอุ้มเด้อค่ะ ฝากเป็นกำลังใจให้กันต่อไปแหน่เด้อ ขอบคุณหลาย ๆ ค่ะ