พัฒนาตนเป็น “อารยะมนตรี” ทำหน้าที่มนตรีสร้างชาติ 8 ประการ
ผมเคยนำเสนอความคิดลักษณะของไอดอลหรือปฏิมัตต์ ผู้มีบารมีทางด้านการสร้างชาติที่คนให้การนับถือสูงสุดประกอบด้วย 9 ประการ[1]สำหรับบทความครั้งนี้ผมขอนำเสนอโมเดลอารยะมนตรี หน้าที่ของมนตรี 8 ประการ อันเป็นโมเดลสำคัญที่จะช่วยให้การสร้างชาติสามารถ สร้างผลลัพธ์ได้อย่างยั่งยืน ยาวนาน จากรุ่นสู่รุ่นไม่มีสิ้นสุด อารยะมนตรี (Araya Mantri) ตามความหมายของผม หมายถึง ผู้มีบารมีที่มีพลังบันดาลใจหรือดลจิตดลใจจนทำให้คนอยากเดินตามและเป็นทายาทสืบทอดงานต่อไป การเป็นอารยะมนตรีและการเป็นไอดอลหรือปฏิมัตต์ จึงมีความแตกต่างกันอย่างสำคัญแม้ว่าทั้งสองจะเป็นผู้มีบารมีเช่นเดียวกันคือ ปฏิมัตต์เป็นผู้มีบารมีที่คนให้การนับถือสูงสุด เป็นแบบอย่างที่ดีที่มีพลังบันดาลใจให้คนอยากเดินตามด้วยความเต็มใจ แต่อารยะมนตรีนอกจากมีพลังดลจิตดลใจให้คนอยากเดินตามด้วยความเต็มใจแล้ว ยังมีพลังบันดาลใจทำให้คนอยากเป็นทายาทสืบทอดงานต่อไปด้วย
ผมนำเสนอความคิดหน้าที่ของอารยะมนตรีดังกล่าวนี้ เอาไว้ในการบรรยายหัวข้อเกี่ยวกับเยาวชนกับการสร้างชาติว่ามีอยู่ทั้งหมด 8 ประการด้วยกัน ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในบริบทของการสร้างชาติ หากสามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริงจะเป็นประโยชน์ยิ่งต่อการสร้างชาติ
1. มนตรีความเห็น : ผู้แต่งความเห็น (Advisor Opinion Mantri) เป็นผู้ให้คำปรึกษา แนะนำ ช่วยขัดเกลาทำให้ความคิดเห็นมีความถูกต้อง เหมาะสมกับกาลเทศะ สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
2. มนตรีแผนการ : ผู้แต่งแผนการ (Counselor Plan Mantri) เป็นผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแผนการต่าง ๆ ให้มีความสอดคล้องกับอุดมการณ์เป้าหมายในชีวิต เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และมีส่วนช่วยสร้างชาติ รวมถึงการให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการวางแผน
3. มนตรีอาชีพ : ผู้แต่งอาชีพ (Consultant Profession Mantri) เป็นผู้ให้คำปรึกษา แนะนำ เกี่ยวกับการประกอบอาชีพ การเลือกอาชีพที่เหมาะสมได้ปลดปล่อยศักยภาพ และนำความรู้ความสามารถมาช่วยสร้างประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม
4. มนตรีระเบียบ : ผู้แต่งระเบียบ (Instructor Order Mantri) เป็นผู้สอน ให้คำปรึกษา แนะนำ การจัดระบบระเบียบสิ่งต่าง ๆ รวมถึงการจัดระเบียบชีวิตให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเองและส่วนรวม
5. มนตรีความรู้ : ผู้แต่งความรู้ (Teacher Knowledge Mantri) เป็นผู้แนะนำ ถ่ายทอด และสอนวิธีเข้าถึงความรู้ให้มีความรอบรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ รู้จักเลือกและนำความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการสร้างชาติ
6. มนตรีทักษะ : ผู้แต่งทักษะ (Trainer Skill Mantri) เป็นผู้แนะนำ ฝึกสอนทักษะให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงทักษะแห่งยุค สามารถประยุกต์ทักษะมาใช้ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งตนเองและการสร้างชาติ
7. มนตรีความคิด : ผู้แต่งความคิด (Mentor Thought Mantri) เป็นผู้ให้คำแนะนำ ชี้แนะ นำทางความคิดให้มีความคิดที่ถูกต้องดีงาม และใช้ศักยภาพสร้างให้เกิดผลผลิตจากความคิดสูงสุด เป็นประโยชน์ต่อการสร้างชาติ
8. มนตรีชีวิต : ผู้แต่งชีวิต (Coach Life Mantri) เป็นผู้ให้คำปรึกษา ชี้แนะ แนวทางการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและมีความหมาย มีอุดมการณ์และเป้าหมายที่ดีงามในการใช้ชีวิต
ผมเชื่อว่า หากการสร้างชาติมีอารยะมนตรีทำหน้าที่ดังกล่าวเหล่านี้อย่างครบถ้วน จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างทายาทสืบทอดงานอุดมการณ์ มีพลังขับเคลื่อนให้อุดมการณ์สร้างชาติสามารถดำเนินการไปได้อย่างยั่งยืนยาวนาน เพราะมีทายาทสืบทอดสานต่ออุดมการณ์ไม่มีสิ้นสุด
สุดท้ายนี้ ผมจึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมกันเป็นอารยะมนตรี ทำหน้าที่สร้างทายาทสืบทอดงานอุดมการณ์สร้างชาติ เพื่อให้อุดมการณ์สร้างชาติไม่สิ้นสุดหรือหยุดอยู่เพียงรุ่นนี้ แต่สำเร็จสามารถสร้างสยามประเทศให้เป็นอารยะได้อย่างยั่งยืน ครับ
ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
นักวิชาการอาวุโส มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ประธานสถาบันการสร้างชาติ (NBI)
ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (IFD)
[email protected],www.drdancando.com
www.facebook.com/drdancando
[1]ประกอบด้วย 1. คนให้เกียรติ (Honour) 2. คนนับถือ (Respect) 3. คนเคารพ (Homage) 4. คนยำเกรง (Reverence) 5. คนยอมรับ (Acceptance) 6. คนยกย่อง (Praise) 7. คนเชิดชู (Exaltation) 8. คนผูกพัน (Commitment) และ 9. คนเทิดทูน (Extolment)