สมทรงโภชนา (บางลำพู) ต้นตำรับก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย เจ้าแรกของประเทศไทย
เมนูสร้างชื่อของร้าน คือ “ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย” ที่หม่อมถนัดศรี เคยให้เชลล์ชวนชิมเอาไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 ซึ่งมีหลายเมนูที่หม่อมถนัดศรียกนิ้วให้ แต่ในสมัยนั้นยังไม่มีเมนูก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยเกิดขึ้น จึงยกให้เป็นต้นตำรับก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยเจ้าแรกในกรุงเทพฯ และเป็นร้านแรกที่ใช้ชื่อเมนูว่าก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย
ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 จนถึงปัจจุบัน พี่หนุ่มเป็นเจนเนอเรชั่นที่สอง ที่สืบทอดตำรับสุโขทัยแท้ ๆ จากรุ่นคุณแม่ (คุณสมทรง) และพี่สาว เมนูแนะนำของเราในวันนี้ได้แก่ แกงเขียวหวานไก่ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ขนมจีนซาวน้ำ ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย และข้าวฟ่างเปียก
ที่ได้สูตรก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยต้นตำรับมาก็เพราะว่าคุณแม่ของพี่หนุ่มเป็นคนจังหวัดสุโขทัย และก๋วยเตี๋ยวหมูตำรับนี้คือสูตรที่ทำกินกันในครอบครัวอยู่แล้ว และเมื่อคุณพ่อของพี่หนุ่มต้องย้ายเข้ามารับตำแหน่งราชการในกรุงเทพฯ ครอบครัวเลยต้องย้ายมาอยู่ที่ย่านบางลำพูแห่งนี้
เมื่ออยู่กรุงเทพได้สักพัก ด้วยความอยากใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์คุณแม่ของพี่หนุ่มก็เริ่มขายข้าวราดแกง และก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ซึ่งจริง ๆ แล้วคนสุโขทัยจะเรียกสูตรแบบนี้ว่าก๋วยเตี๋ยวหมู ทางด้านหม่อมถนัดศรีจะเรียกว่าชากังราว เมื่อมีสูตรดั้งเดิมจากเมืองสวรรคโลก แต่ชื่อก๋วยเตี๋ยวหมูอาจจะไม่โดดเด่นนัก เลยเรียกตามชื่อจังหวัดต้นตำรับไปเลยจึงกลายมากเป็นก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย เจ้าแรกของประเทศไทย
จุดเด่นที่ทำให้ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย แตกต่างจากก๋วยเตี๋ยวหมูทั่วไปคือจะใส่ถั่วฝักยาว และถ้าหากเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งจะใส่น้ำตาลปี๊บแทนน้ำตาลทราย ซึ่งในสมัยก่อนก๋วยเตี๋ยวหมูตำรับชาวสุโขทัยถ้าหน้าไหนถั่วฝักยาวมีน้อยก็จะใช้กะหล่ำปลีแทน ส่วนถั่วงอกจะใช้เป็นตัวเสริม ส่วนไข่ต้มหรือไข่ยางมะตูมนั้นจะไม่ใส่ ที่เห็นกันเยอะในปัจจุบันคือเป็นสูตรที่ดัดแปลงกันไปอีกทีหนึ่งเพื่อให้แตกต่างจากต้นตำรับ ซึ่งที่ร้านจะไม่ใส่ไข่ต้ม
เรามาเริ่มชิมกันทีละเมนูเลยครับ เริ่มจาก “แกงเขียวหวาน” ทั้งไก่หรือลูกชิ้นปลากรายจะรสชาติใกล้เคียงกัน ต่างกันที่วัตถุดิบหลักที่เป็นเนื้อสัตว์เท่านั้น แกงเขียวหวานที่นี่จะเน้นที่เครื่องแกงที่ทำเองทั้งหมด โดยจะตำพริกเอง ปรุงเครื่องแกงเอง เน้นความพิถีพิถัน รสชาติหวาน มัน เผ็ดกลาง ๆ อร่อยกำลังดี จะกินกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือขนมจีนก็เด็ดไม่แพ้กัน
ต่อด้วย “ขนมจีนซาวน้ำ” ที่เป็นสูตรจากคุณสมทรงเช่นเดียวกัน โดยส่วนผสมจะแตกต่างจากที่อื่นพอสมควร ซึ่งเมนูนี้จะแปลกนิดนึงตรงที่ว่า ขนมจีนซาวน้ำจะอร่อยถูกปากคนชิมไหมขึ้นอยู่กับช่วงวัย สำหรับผมเองเพิ่งเคยกินตำรับนี้เป็นครั้งแรก บอกเลยว่าอร่อย หอม มัน เปรี้ยว หวาน เผ็ด เค็ม ครบรส ความเปรี้ยวหวานจะมาจากสับประรดนี่แหละ ความเผ็ดร้อนหน่อย ๆ จะมาจากพริก ขิง และกระเทียม รสกลมกล่อมมาจากเครื่องปรุงและส่วนผสมอันหลากหลาย เคล็ดลับคือการเลือกกุ้งแห้ง ถ้ากินวันอากาศร้อน ๆ แบบนี้ ผมว่าคลายร้อนได้ดีเลยครับ
“ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย” เส้นเล็กเหนียวนุ่ม เสิร์ฟมาทั้งแบบแห้งและน้ำ อรรถรสต่างกันเพราะแบบน้ำจะมาในลักษณะปรุงเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เครื่องเคราและวัตถุดิบไม่ต่างกันนัก ทั้งไชโป๊ ถั่วงอก หรือถัวฝักยาว แต่อรรถรสนั้นคนละแบบเลย ผมชอบแบบแห้งมากกว่า เพราะมันอร่อยเข้าเส้น โดยเฉพาะเขาปรุงมาให้เสร็จสรรพเปรี้ยวหวานเผ็ดครบครัน หมูสับ หมูชิ้น นุ่มกำลังดี แต่ขอย้ำว่าที่นี่ไม่ใส่ไข่ให้นะครับ
ปิดท้ายกันด้วยเมนูของหวาน ที่หาชิมได้ยากเพราะเป็นตำรับโบราณเข่นกัน นั่นก็คือ “ข้าวฟ่างเปียก” ข้าวฟ่างเป็นธัญพืชชนิดหนึ่ง ซึ่งข้าวฟ่างจะมีสองแบบคือเม็ดใหญ่และเม็ดเล็ก เม็ดใหญ่ส่วนมากจะใช้ไปทำอาหารสัตว์ ส่วนเม็ดเล็กจะใช้ในการปรุงอาหารหรือทำขนม รสชาติหวานมัน แต่จุดเด่นคือสัมผัสนุ่ม ๆ หนึบ ๆ ของข้าวฟ่างนี่แหละ อร่อยดีครับ ต้องลอง...เสียดายว่าวันที่ผมมาชิมไม่ใช่วันจันทร์ เพราะเขามีเมนูพิเศษที่เป็นขนมโบราณเหมือนกันชื่อว่าขนมอินทนิล เอาเป็นว่ารอบหน้าไม่พลาดแน่ครับ
ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 9.30-15.30 น.
ร้านตั้งอยู่ในซอยวัดสังเวช ซอยข้าง ๆ ป้อมพระสุเมรุเลยครับ เมื่อเข้ามาในซอยให้เลี้ยวซ้ายซอยแรกที่อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนวัดสังเวช เลี้ยวมาปั๊บเจอร้านเลยครับทางขวามือเป็นอาคารพาณิชย์