5 เรื่องราวรอบตัวที่คุณอาจเข้าใจผิดมาตลอด

5 เรื่องราวรอบตัวที่คุณอาจเข้าใจผิดมาตลอด

เรื่องราวความรู้รอบตัวต่าง ๆ เราสามารถเรียนรู้ได้หลากหลายทาง จากการศึกษา ค้นคว้า วิจัย รวมไปถึงเรื่องเล่าฟังต่อ ๆ กันมา เรื่องราวที่ฟังต่อกันมานี่แหละครับ ที่บางครั้งเราก็เชื่อฝังหัวโดยไม่ทันเอะใจคิดว่ามันเป็นความเชื่อที่ถูกต้อง สมเหตุสมผลหรือไม่ วันนี้เราขอยก 5 เรื่องราวที่เราอาจเข้าใจผิด แม้หลายเรื่องจะมีการพิสูจน์แล้วก็ตาม มีเรื่องไหนบ้างที่คุณเข้าใจผิดอยู่ ลองอ่านกันครับ?

1. ความจำของปลาทอง

หลายคนมักมีความเชื่อว่า ปลาทองเป็นสัตว์ที่มีความจำที่สั้นมาก โดยเชื่อว่าปลาทองมีความจำแค่สองสามวินาทีก็ลืมแล้ว แต่ในความจริงจากผลการทดลองพบว่า ปลาทองสามารถฝึกอบรมในการทดสอบความจำ มันสามารถใช้ความจำอันนี้หาทางออกจากเขาวงกตได้ นอกจากนี้ปลาทองยังมีความสามารถเรียนรู้ปฏิสัมพันธ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของ หรือคนอื่น ๆ ที่ให้อาหารมัน เวลาที่พวกมันเห็นเจ้าของหรือใครก็ตามที่ให้อาหารมัน มันจะว่ายน้ำวนไปมา เพื่อขออาหารเสมอ อีกทั้งมันยังเรียนรู้อันดับการจัดสังคมด้วย เช่น หากมีสมาชิกใหม่มาอยู่ตู้เดียวกัน พวกมันจะรับน้องใหม่โดยแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวต่อปลาที่มาใหม่อีกด้วย

2. อาหารตกพื้นไม่เกิน 5 วินาที ทานต่อได้ไม่สกปรก

หลาย ๆ คนเชื่อว่าหากทำอาหารตกลงพื้นให้รีบเก็บมากินภายใน 5 วินาทีจะปลอดภัย เพราะเชื้อโรคมองไม่เห็น เรื่องนี้บอกเลยว่าไม่จริง เพราะจากการศึกษาพบว่า อาหารที่ตกบนพื้นไม่ถึงหนึ่งวินาทีเชื้อโรคก็สามารถกระโดดมาเกาะอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลมาจากผลงานนับจำนวนเชื้อซาลโมเนลลา ไทฟิมูเรียม (Salmonella typhimurium) ซึ่งเป็นสาเหตุเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย โดยทดลองให้ไส้กรอกตกลงบนพื้นกระเบื้อง พบว่า มากกว่า 99% ของเชื้อแบคทีเรียถึง 1500 ชนิดจากบนพื้นเกาะติดหนึบไปบนผิวไส้กรอกได้ภายใน 5 วินาที นอกจากนี้ยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้เชื้อโรคเกาะอาหารที่ตกบนพื้นด้วย เช่น อาหารบางอย่างมีเชื้อเกาะติดมากับผิวนอกได้ง่าย เช่น ไข่ ผลไม้ ฯลฯ ส่วนสาเหตุที่เราไม่ได้เป็นอะไรจากการกินอาหารภายในห้าวินาทีนั้นก็เนื่องมาจากร่างกายของเราพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันต่างหากครับ

3. รูปร่างของฝน

คนเราส่วนใหญ่เชื่อกันว่าหยาดเม็ดฝนนั้นเป็นรูปหยดน้ำเมื่อตกลงมาจากบนท้องฟ้า ในการ์ตูนฝนมักจะถูกวาดเป็นรูปหยาดน้ำตา คือ ก้นกลมและปลายบนแหลม ซึ่งไม่ถูกต้อง ในความเป็นจริงหยาดฝนเม็ดเล็กนั้นจะมีรูปเกือบเป็นทรงกลม ส่วนเม็ดฝนที่ใหญ่ขึ้นก็จะมีรูปร่างที่ค่อนข้างแบนคล้ายขนมปังแฮมเบอเกอร์ ส่วนเม็ดที่ใหญ่มากๆ นั้นจะมีรูปร่างคล้ายร่มชูชีพ โดยเฉลี่ยแล้วเม็ดฝนนั้นจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ถึง 2 มิลลิเมตร เม็ดฝนที่ใหญ่ที่สุดที่ตกลงถึงผิวโลกนั้น ตกที่ประเทศบราซิล และ เกาะมาร์แชล ในปี ค.ศ. 2004 โดยมีขนาดใหญ่ถึง 10 มิลลิเมตร

4. ทานอาหารตอนกลางคืน ทำให้อ้วน!

ทุกวันนี้เรายังเชื่อว่าการกินอาหารตอนกลางคืนทำให้เราอ้วน ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่เลย เพราะร่างกายของคุณไม่ได้รับรู้หรือมีปฏิกิริยาใด ๆ ทั้งสิ้นว่า คุณจะกินอาหารในเวลาใด หากแต่ปัจจัยที่ทำให้เราอ้วนก็คือการกินอาหารที่มีแคลอรีสูง ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตามที่กินอาหารที่มีแคลอรีสูง ก็ทำให้น้ำหนักเพิ่มได้ และผลจากการวิจัยพบว่าอาหารว่างตอนกลางคืน มันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับของว่างในช่วงเช้าหรือบ่าย

5. อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สอบตกวิชาคณิตศาสตร์ในโรงเรียน

ในปี 1935 มีบทความหนึ่งในนิตยสารริปลีย์ เชื่อหรือไม่ (Ripley’s Believe It or Not!) ได้มีหัวข้อกล่าวว่า “นักคณิตศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกอย่างอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ล้มเหลว (ตก) ในวิชาคณิตศาสตร์ในโรงเรียน” และบทความนี้ทำให้หลายคนมีความเชื่อว่าไอน์สไตน์นั้น ไม่เก่งคณิตศาสตร์ตอนที่เขาเป็นเด็ก ก่อนที่จะมาเป็นอัจฉริยะเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่เลย จริงอยู่ว่าประวัติของเขาตอนเป็นเด็กนั้นเป็นผู้ที่เรียนรู้ได้ช้า สาเหตุอาจเกิดจากการที่เขามีความพิการทางการอ่านหรือเขียน (dyslexia) แต่กระนั้นเขาก็ยังเก่งคณิตศาสตร์ตั้งแต่เด็ก โดยบทสัมภาษณ์ในนิตยสารฉบับหนึ่งไอน์สไตน์เคยหัวเราะและบอกว่า “ผมไม่เคยตกคณิตศาสตร์ สมัยตอนผมอายุสิบห้าผมก็เข้าใจความแตกต่างและแคลคูลัสได้แล้ว

เป็นยังไงกันมั่งครับ มีกี่เรื่องที่คุณยังเข้าใจแบบผิด ๆ อยู่ ตอนหน้าเราจะมีอีก 5 เรื่องราวมาฝากกันครับ :)

 

เรื่องราวความรู้รอบตัวที่คุณอาจเข้าใจผิดมาตลอดทั้งชีวิต!