Chungking Express กำกับโดย หว่อง คาไว

ถ้าพูดถึงหนังมีการจัดอันดับไว้มากมายหลายเรื่อง ซึ่งความสนุกของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป ในครั้งนี้เราขอจัดอันดับหนังเอเชียในดวงใจของชาว MiX Magazine ไปดูกันเลยว่ามีเรื่องอะไรกันบ้าง

แม้ชื่อไทยจะดูแปลก ๆ ไปสักหน่อย แต่เป็นหนังขึ้นหิ้งของ หว่อง กาไวที่เราดูแล้วต้องยกนิ้วให้เลย เป็นเรื่องราวของคน 4 คนกับสองเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกันเชื่อมโยงเวลาและสถานที่ แต่ไม่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งเรื่องแรกเป็นเรื่องของตำรวจหนุ่ม 622 (ทาเคชิ คาเนชิโร่) ที่เลิกกับแฟนก่อนวันเกิดตัวเองคร่ำครวญในความรัก จนมาพบกับนักฆ่าผู้หญิงผมทอง (หลิน ชิงเสีย) เรื่องราวความเหงา ๆ อารมณ์รักแบบแปลกก็เกิดขึ้น

ส่วนอีกคู่เป็นตำรวจหนุ่ม 623 (เหลียง เฉาเหว่ย) ถูกแฟนทิ้งแอร์โฮสเตส ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาต้องซื้อสลัดให้แฟนสาวทุกวัน ซึ่งร้านนี้เองเขาจึงได้พบกับ อาเฟย (วัย หวังเฟย) น้องสาวเจ้าของร้านฟาสต์ฟู้ด ซึ่งอาเฟยหลงรักเขา เรื่องราวต่าง ๆ มากมายก็เกินขึ้น แต่สุดท้ายแล้วคนที่หลงรักก็ไม่ได้รักตอบพระเอกแบบที่ควรจะเป็นเรื่องราวจบลงแบบเท่ ๆ ให้ผู้ชมได้คิดแบบโรแมนติก

Almost a Love Story กำกับโดย ปีเตอร์ ชาน

ในชื่อไทยคือ เถียน มี มี่ 3,650 วันรักเธอคนเดียว แค่เห็นภาพของหนังเรื่องนี้เสียงเพลง เถียน มี มี่ ก็ดังเข้ามาทันที จากหนังรักโรแมนติกของคนสองคนที่มาเผชิญโชคในเมืองกรุง หนังเริ่มต้นวันที่ 1 มีนาคม 1986 “หลี่เสี่ยวจิน” (หลี่หมิง) กับ “หลี่เฉียว” (จางม่านอวี้) ทั้งสองเป็นคนจีน
แผ่นดินใหญ่เข้ามาหางานทำในฮ่องกง บังเอิญได้รู้จักกันแต่สถานะของทั้งสองก็ไม่เคยลงเอย เพราะฝ่ายชายมาเก็บเงินเพื่อแต่งงานกับแฟน ส่วนฝ่ายหญิงก็เป็นเด็กของเจ้าพ่อ ต่อมาพระเอกเลิกกับภรรยาหนีไปอยู่อเมริกา และได้พบนางเอกในฉากสุดท้ายครบสิบปี 3,650 วัน นั่นเอง สะท้อนให้เห็นว่าแม้โลกจะกว้างเพียงใด ถ้าใจคนยังรักกันก็ต้องมาเจอกันอยู่

My Sassy Girl กำกับโดย กวัก แจ-ยง

เป็นหนังที่ทำให้ชายหนุ่มในยุคนั้นคลั่งไคล้ ช็อน จี-ฮย็อน เป็นพิเศษ เพราะความมีเสน่ห์ของเธอจากหนังเรื่องนี้ ที่ พระเอกที่ไม่จำเป็นต้องหล่อ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับนักศึกษาหนุ่มคย็อนอู (ชา แท-ฮย็อน) มาพบกับหญิงสาว (ช็อน จี-ฮย็อน) กำลังเมาอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ยังเจอกันมาเรื่อย ๆ จนสนิทกัน มีทั้งเรื่องกวนฮา ตลก เศร้า ปะปนกันไป ถือว่าเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งของเกาหลีเลยทีเดียว

Train To Busan กำกับโดย ยอน ซังโฮ

แม้ว่าหนังเกี่ยวกับซอมบี้จะมีออกมามากมาย แต่ใครจะเชื่อว่าเกาหลีจะทำหนังออกมาได้ดีเหมือนกัน เริ่มต้นจาก ซอกวู (กงยู) เป็นผู้จัดการกองทุนในกรุงโซล มีภารกิจพาลูกสาวตัวเองไปที่ปูซาน แต่วันที่พวกเขาเดินทางมีผู้ติดเชื้อซอมบี้เข้ามาในขบวนด้วย ทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว การต่อสู้กับซอมบี้เพื่อจะเอาชีวิตรอดของแต่ละคนจึงเกิดขึ้นลุ้นกันจนถึงฉากสุด เรียกว่าดราม่าแอคชั่นอย่างแท้จริง

3 Idiots กำกับโดย ราจคูมาร์ ฮิรานี

ข้ามมาทางฝั่งอินเดีย หนังเรื่องนี้เรียกว่าเป็นหนึ่งในหนังยอดเยี่ยมของวงการหนังโลกก็ได้ เป็นเรื่องราวของ นักศึกษา 3 คน ฟาราห์น –ราจู และ รานโช ที่เรียนในคณะวิศวะของมหาวิทยาลัยหนังสะท้อนประเด็นเรื่องของการศึกษา การให้ค่าสำหรับใบปริญญามากเกินไป รวมถึงค่านิยมต่าง ๆ ของสังคมอินเดีย ที่อาจไม่ถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันมากนัก หนังสะท้อนทุกอย่าง ผ่านตัวละครที่มีทั้งเรื่องสนุกและดรามาผสมกันไป

Tokyo Tower กำกับโดย โจจิ มัตสึโอกะ

เป็นหนังที่ได้เค้าโครงเรื่องจริงจากอัตชีวประวัติของ ลิลลี่ แฟรงกี้ ซึ่งตีพิมพ์เป็นนิยายขายดีในญี่ปุ่น เป็นเรื่องนักเขียนหนุ่ม มาซายะ (โจ โอดางิริ) เล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองผจญ ตั้งเด็กจนกระทั่งโต ซึ่งมีตัวละครสำคัญอย่างพ่อ (โผล่มาบางครั้ง) แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแม่ของเขา และแน่นอนว่าเรื่องราวอาจไม่ได้มีอะไรโลดโผนหรือหักมุม Tokyo Tower เป็นหนังเรื่อย ๆ ซึมซับบรรยากาศความรู้สึกของชีวิตปกติแต่ทำให้เราให้เศร้าหนักมาก สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะสุขหรือทุกข์แม่จะอยู่กับคุณเสมอ

O.T. ผี Overtime กำกับโดย อิสรา นาดี 

อาจไม่ใช่หนังที่ได้รับรางวัลหรือได้รับการพูดถึงในวงกว้าง แต่เป็นหนังที่ควรดูเรื่องหนึ่ง O.T. ผี Overtim เหมือนเป็นภาคที่ต่อเนื่องมาจาก ตี3 3D ในเรื่องมีกลุ่มเพื่อนการัน (ชาคริต แย้มนาม) และ ที (เรย์ แมคโดนัลด์) สองเจ้าของบริษัทโฆษณาหลอกผี ที่กำลังประสบปัญหาขาดทุนจนต้องตามตัว ดิน (อนันดา เอเวอริ่งแฮม) เจ้าของบริษัทอีกคนที่กำลังเที่ยวอยู่ต่างประเทศกลับมา โดยรับจัดงานออแกไนซ์งานแต่ง แต่ต้องประสบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างผีปลอม มีการหลอกกันไปมาหักมุมแล้วหักมุมอีกจนไม่อาจคิดเดาได้เลยว่าตอนจบสุดท้ายแล้วคืออะไรกันแน่

American Dreams in China กำกับโดย ปีเตอร์ ชาน 

เป็นหนังที่เงียบในประเทศอีกเรื่องหนึ่ง แต่ในประเทศจีนแล้วเรื่องนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เป็นเรื่องราวของเพื่อนสนิท 3 คนที่ผ่าน 3 ยุคตั้งแต่ยุคแรก ๆ ที่พวกเขาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยซึ่งในสมัยนั้นคนจีนอยากออกจากประเทศ ซึ่งความฝันสูงสุดของคนจีนในสมัยนั้นการไปอยู่อเมริกา ทั้งเพื่อนและคนรักของพระเอกเดินทางไปอเมริกากันเกือบหมดทิ้งให้พระเอกอยู่ประเทศจีน แต่คนที่ไปไม่ได้สบายกลับตกระกำลำบาก ในอีกด้านหนึ่งพระเอกทำธุรกิจสอนภาษาจนประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องไปอเมริกา เรื่องนี้จึงเป็นต่อสู้กับความเวิ้งว้างของคนโดนทิ้ง ที่มีคีย์เวิร์ดว่า The Man Who was Left Behind ชายที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แถมยังต่อสู้กับธุรกิจฝรั่งเจ้าของภาษาและความสัมพันธ์ของเพื่อนทั้งสามคน

Better days กำกับโดย ดีเร็กซ์ ทีแซง

เป็นหนังจีนอารมณ์คล้ายกับผู้หญิงข้าใครอย่าแตะในเวอร์ชั่นวัยรุ่น ที่สะท้อนปัญหาสังคม การศึกษา การอยากมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมของคนในประเทศจีนเข้ามาแบบเต็ม ๆ กว่าจะได้ฉายก็ทำให้มีปัญหากับกองเซนเซอร์หนังจากรัฐบาลจีนอยู่หลายครั้ง เรื่องราวนี้ย้อนไปในปี 2011 ช่วงการสอบเกาเข่า (Gaokao) เป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีผู้เข้าสอบกว่า 10 ล้านคน เฉินเหนียน (โจวตงหยู) ก็เป็นหนึ่งในผู้เข้าสอบนั้นแต่การเตรียมสอบนั้น มีความกดดันสูง ทำให้เพื่อนสนิทของเธอต้องฆ่าตัวตาย เพราะในโรงเรียนมีการบูลลี่หนักมาก ต่อมาเธอก็ถูกกลั่นแกล้งมาตลอด จนมีเหตุการณ์ที่ร้ายแรง แต่ เสี่ยวเป่ย (อี้หยางเชียนสี่) ได้ช่วยชีวิตเธอไว้โดยบังเอิญ ทำให้เกิดความสัมพันธ์และเรื่องราวมากมายตามมา

The Wailing ฆาตกรรมอำปีศาจ กำกับโดย นา ฮงจิน

หนึ่งในสุดยอดหนังสยองขวัญของเกาหลีที่มีทั้งเรื่องราวซ่อนปม ผี ปิศาจ จุดเริ่มต้นมาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ มีชายแปลกหน้าสัญชาติญี่ปุ่น (จุน คูนิมูระ) ได้เข้ามาอาศัยอยู่ที่หมู่บ้าน หลังจากนั้นก็มีคนตายเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนมาถึงคิวของลูกสาวตำรวจอย่าง (ชอน อูฮี) ที่ติดเชื้อประหลาด พ่อที่เป็นตำรวจอย่าง จองกู (ควักโดวอน) จึงต้องใช้ทุกวิธีในการรักษารวมทั้งสืบหาต้นตอของสิ่งเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้น