เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์
หลายคนมองว่าการทำดีนั้นก็เหมือนการสร้างภาพ ยิ่งถ้าเป็นดาราศิลปินแล้ว ก็ยิ่งถูกมองว่าการทำดีก็เพียงเพราะเป็นการสร้างภาพ หรือเพื่อการโปรโมทเท่านั้น แต่มันคงไม่ใช่สำหรับเธอ “จิ๊ก เนาวรัตน์” ดารารุ่นใหญ่ มากความสามารถ เป็นเวลากว่า 3-4 ปีแล้ว ที่ได้ทุ่มเทศิลปะการแต่งหน้าให้แก่ผู้ที่ล่วงลับ ได้จากลาโลกนี้ไปอย่างสงบ
“ครั้งแรกพี่เป็นคนไข้ก่อนที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และที่ได้เห็นคนป่วยเยอะแยะไปหมด ก็เลยทำให้พี่เข้าใจว่าชีวิตคนเจ็บป่วยมันเป็นแบบนี้ พี่ก็เลยอยากช่วยเหลือ แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือในวิธีการใดได้บ้าง พี่คิดไว้ก่อนว่าสักวันหนึ่งที่เราหายจากการเจ็บป่วยในครั้งนี้ เราจะต้องกลับมาช่วยเหลือที่โรงพยาบาล เราต้องมีจุดประสงค์มีเป้าหมายของเราก่อนว่าอยากจะมาทำอะไร ตอนนั้นพี่ก็ไปบนที่กรมหลวงชุมพรฯ มาให้ได้กลับมาที่นี่อีก ไม่ได้กลับมาในฐานะคนไข้ แต่กลับมาในฐานะคนที่ช่วยเหลือคนอื่น
“ถึงเวลาที่เราจะต้องเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงของชีวิตคนแล้ว การตายเป็นยังไง ที่อยู่ทุกวันนี้อยู่อย่างมีความสุขเป็นอย่างไร มันเป็นการเข้าในสัจธรรมของชีวิตค่ะ การแต่งหน้าให้คนตาย การได้ทำให้เขาครั้งสุดท้ายนั้นพี่มองว่ามันเป็นมุมที่เงียบสงบ อาจจะน่ากลัวสำหรับบางคน สำหรับพี่ทำให้รู้สึกว่าชีวิตคืออะไร เราหวังอย่างเดียวว่าจะทำให้เขาดูดีที่สุดจนถึงวินาทีสุดท้าย
“ขั้นตอนการแต่งหน้าเริ่มจากการผ่าพิสูจน์แล้วพอเย็บเสร็จ อาจารย์หมอก็จะเรียกมานั่นแหละค่ะ เป็นขั้นตอนที่พี่ต้องเข้าไปแต่งหน้า พี่จะรออยู่อีกห้องห้องนึง การแต่งหน้าใช้เวลา ประมาณ 5-10 นาทีอยู่ที่ว่า เสียชีวิตมาแบบไหน ชั่วโมงหนึ่งแต่งได้ 7-10 คน ส่วนเครื่องสำอางที่เราใช้ก็ไม่ได้ต่างไปจากเครื่องสำอางที่คนปกติทั่วไปใช้คะ พี่จะถือนะคะ ว่าไม่ควรเอาของที่หมดอายุหรือของเน่า ๆ มาใช้กับผู้เสียชีวิตไปแล้ว พี่ไม่เอานะ พี่ต้องการของดี ก็คือของที่เราใช้กันอยู่นี่แหละค่ะ แต่เราจะเลือกครีมรองพื้นรวมถึงแป้ง ให้เบาที่สุด เพราะว่าเราแต่งหน้าให้ดูสงบไม่ได้ให้ดูแล้วสวยงาม
“พี่ไม่เคยท้อนะ เพราะว่าเวลาที่ท้อพี่ก็จะไปแต่งหน้า และพี่ไม่รู้สึกกลัวด้วยเพราะว่าถ้ากลัวเราต้องไม่ทำ ถ้ารังเกียจแล้วก็จะทำให้ไม่กล้าจับ ทุกวันนี้พี่อยู่จุดนี้พี่โอเคแล้ว แฮปปี้แล้วพี่ไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากใคร เพราะพี่เคยเปิดรับบริจาคเครื่องสำอาง แล้วมีคนเอาของที่หมดอายุมาให้ ก็เหมือนเป็นขยะแล้วเอามาทิ้งกับเรา
“สิ่งที่พี่ได้จากการเป็นจิตอาสาในครั้งนี้พี่รู้สึกว่า การมีชีวิตที่จะอยู่บนโลกใบนี้ได้ ว่าสุขคืออะไรทุกข์คืออะไร หากถามว่าจะทำไปถึงตอนไหนพี่ก็ตอบไม่ได้เพราะว่าพี่ไม่ได้ทำเป็นอาชีพ เคยมีคนให้ซองพี่บ่อยมาก พี่จะโกรธมาก แล้วพี่ก็จะให้เงินนั้นย้อนกลับไปให้เขาไปทำบุญแทน มันไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาหากิน และพี่ก็ไม่ได้ไปทุกวัน ถ้าวันไหนเราว่างเราถึงได้ไป
“หลังจากที่มีสำนักข่าว BBC ของประเทศอังกฤษ ทำสกู๊ปข่าวพิเศษ มาตามติดชีวิตเราทำเป็นสารคดี พี่ก็รู้สึกปลื้มใจนะ ที่ว่าเราเป็นหนึ่งในบุคคลที่ให้เขาให้ความสำคัญ ส่วนใครอยากจะมาเป็นจิตอาสาแต่งก็มาได้นะคะ ยินดีต้อนรับ ยินดีที่จะสอนให้ค่ะ ตอนนี้พี่ทำอิสระของพี่ ไม่ได้เข้าหรือสังกัดมูลนิธิใด ๆ แต่ก่อนหน้านี้พี่เคยอยู่จิตอาสาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีมาก่อน
“สุดท้ายพี่ก็ทำได้ ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ช่วงแรก ๆ พวกอาจารย์เขาก็จะไม่รับนะ เพราะเห็นว่าเราเป็นดารา อาจจะมาสร้างข่าว สร้างกระแส ไม่ได้ทำจริง เพราะว่าสมัยนั้นมันมีกระแสเมาแล้วขับ พวกที่เมาแล้วขับก็จะถูกส่งให้มาทำโทษโดยการทำประโยชน์เพื่อสังคม พี่ก็อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้แหละค่ะ จน BBC มาถ่ายทำชีวิตจิตอาสาของพี่ ก็ลบคำสบประมาทคนไปได้”
More information
สำหรับคนที่อยากจะบริจาคเครื่องสำอางก็สามารถไปบริจาคได้ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่ห้องสุดท้ายเพราะเขาไม่ได้เรียกห้องดับจิตแล้ว