สงครามกล้องคู่!

สงครามกล้องคู่!

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ iPhone 7 Plus มาพร้อมกล้องคู่ ทำให้ผู้คนสนใจสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกล้องคู่มากขึ้น แม้ว่า iPhone 7 Plus จะไม่ใช่สมาร์ทโฟนตัวแรกของโลกที่มาพร้อมกล้องคู่ก็เถอะ วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบกันกับสมาร์ทโฟนกล้องคู่ที่กำลังได้รับความสนใจกันอยู่ในขณะนี้ นั่นก็คือ Huawei P9, LG G5 se และน้องใหม่ล่าสุด iPhone 7 Plus นั่นเอง

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า เหตุผลที่ต้องมีกล้องคู่ของแต่ละแบรนด์สมาร์ทโฟนนั้นคืออะไร มาเริ่มต้นกันก่อนกับ iPhone 7 Plus และ LG G5 se ที่ใส่กล้องคู่มาเพื่อทำให้ซูมได้ เพราะด้วยขนาดของสมาร์ทโฟนที่แข่งกันบาง ก็ยังไม่มีเทคโนโลยีที่เหมาะสมตอนนี้ที่จะสามารถย่อเลนส์ซูมให้เล็กลงจนใส่ในสมาร์ทโฟนได้ ก็ต้องอาศัย 2 กล้อง 2 เลนส์ไปก่อน และสำหรับ Huawei P9 ที่มีกล้องคู่เพื่อให้ถ่ายภาพขาว-ดำได้ดีขึ้น เพราะเลนส์กับเซนเซอร์อีกชุดหนึ่งของ P9 จะตัดฟิลเตอร์แยกสีด้านหน้าเซนเซอร์ออก เพื่อให้ถ่ายภาพขาวดำได้สมบูรณ์ขึ้น โดยไม่มีการรบกวนจากฟิลเตอร์แยกสีนั่นเอง

จากนี้ไปเรามาดูที่จุดเด่นของแต่ละแบรนด์กัน

iPhone รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับกล้องคู่ตัวนี้ มาในคอนเซ็ปต์คล้าย ๆ กับ G5 คือใช้ 2 กล้องที่มีระยะเลนส์ต่างกัน แต่ของ iPhone 7 Plus จะมีเลนส์มุมกว้างและเลนส์ช่วงปกติมาด้วยกันแทน (ของ G5 จะเป็นเลนส์มุมกว้างกับโคตรกว้าง) โดยมีความละเอียดที่ 12 ล้านพิกเซลนะครับ

เลนส์ตัวแรกของ iPhone 7 Plus เป็นเลนส์ที่มีความยาวโฟกัสเทียบเท่า 28 mm ที่ f/1.8 ครับ ก็ให้มุมกว้างคล้าย iPhone ที่เราเคยใช้กันมาก่อนหน้านี้ แต่ปรับรูรับแสงให้กว้างกว่ารุ่นเดิม (ของ iPhone 6s อยู่ที่ f/2.2) ก็ทำให้ถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดีกว่าเดิม ส่วนเลนส์อีกตัวหนึ่งนั้นมีความยาวโฟกัสเทียบเท่า 56 mm f/2.8 ซึ่งถ้านับตามศัพท์คนใช้กล้องมันคือเลนส์ Normal ที่ใช้ถ่ายภาพบุคคลครับ ยังไม่ถึงกับเป็นเลนส์ Telephoto ได้ แต่ก็ถือว่าให้ภาพขยาย 2 เท่าจากเลนส์หลักจุดเด่นของกล้อง iPhone ที่มีมาตลอดคือถ่าย Auto ได้แบบเชื่อใจได้ ปรับ White Balance แม่น หาโฟกัสรวดเร็ว แม่นยำ ซึ่งจากภาพตัวอย่างของ iPhone 7 Plus ก็จะเห็นความชัดเจนและความสดของภาพที่สมจริงและดูดี อีกจุดเด่นของ iPhone 7 Plus คือการใช้ 2 กล้องประมวลผลภาพให้มีหน้าชัดหลังเบลอใน Portrait Mode ซึ่งจะตามมากับการอัพเดท iOS ช่วงปลายปีนี้ แต่จนกว่าเราจะได้จับเครื่องจริง ถึงจะฟันธงได้ครับว่า Portrait Mode ดีจริง รวมถึงใช้กับการถ่ายภาพอื่น ๆ นอกจากการถ่ายภาพบุคคลได้หรือไม่

ถัดมาสมาร์ทโฟนกล้องคู่รุ่นพี่ LG G5 ที่เมืองไทยมีแต่รุ่น se ความแปลกของกล้องคู่จาก LG G5 se คือใส่เลนส์มุมกว้างพิเศษมาให้ด้วย คือมีกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลที่ใช้เลนส์ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 20 mm f/2.4 ซึ่งให้มุมภาพกว้างมากถึง 135 องศา ซึ่งจะให้ภาพลักษณะใกล้เคียงกับเลนส์ตาปลาที่ดูป่องตรงกลางเลย ส่วนอีกเลนส์หนึ่งก็กล้อง 16 ล้านพิกเซล ที่ใช้เลนส์ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 28 mm f/1.8 ซึ่งเทียบเท่ากับกล้องเรือธงของสมาร์ทโฟนค่ายอื่น ส่วนการถ่ายวิดีโอก็รองรับความละเอียด 4K เลยทีเดียว ด้วยจุดเด่นที่ G5 ถ่ายภาพได้กว้างมาก จึงมีเอฟเฟกแบบถ่าย 2 กล้องซ้อนกันในภาพเดียว ให้ได้ภาพ 2 ระยะเก๋ ๆ ซึ่งกล้องของ LG G5 นั้นถ่ายภาพกลางวันได้ชัดเจน แต่ถ่ายภาพกลางคืนออกจะมี Noise เยอะสักหน่อย จุดสังเกตจากทดลองใช้กล้อง LG G5 se น่าจะอยู่ตรงที่สีจากกล้องทั้ง 2 ตัวจะต่างไปนิดหนึ่ง ทำให้เวลาซูมภาพตอนถ่ายวิดีโอจะเห็นว่าสีต่างไปอย่างชัดเจนครับ

และสุดท้าย Huawei P9 ซึ่งจุดเด่นของกล้องคู่จาก P9 คือออกแบบร่วมกับ Leica ทำให้ได้สีสันภาพที่สดใส สวยงาม ให้ความคมชัดได้ดีมาก สามารถใช้กล้องคู่เพื่อช่วยในการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ ในส่วนของตัวแอพฯกล้องก็ออกแบบมาได้ดี สามารถควบคุมกล้องแบบ Manual ยืนหยุ่น มีโหมดพิเศษที่ช่วยให้ถ่ายดาว ถ่ายแสงไฟยามค่ำคืนได้ง่ายขึ้น และส่วนของการถ่ายภาพขาว-ดำ ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายได้สวยอันดับต้น ๆ ของโลกตอนนี้

นอกจากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นแล้ว ก็อยู่ที่สภาพคล่องการเงินของแต่ละบุคคล ว่าใครจะสะดวกแบบไหน แต่ไม่ต้องห่วงครับ บรรดาค่ายมือถือต่าง ๆ เตรียมโปรโมชั่นดี ๆ ไว้รออยู่แล้ว เชิญจับจ่ายกันได้ตามสะดวก 

จุดเด่นของแต่ละแบรนด์กัน