Esther Supreeleela

Esther Supreeleela

นางแบบปกของเราในฉบับนี้มาพร้อมกับความสดใสจริง ๆ สดใสเสียจนเราเผลอมองเธอแล้วอมยิ้มแบบไม่รู้ตัวอยู่หลายครั้ง และยิ่งมีโอกาสได้พูดคุย ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความแกร่ง ความชัดเจนในอาชีพนักแสดงของเธอ ซึ่งขัดแย้งกับบุคลิกภายนอกที่ทั้งอ่อนหวานและนอบน้อม สิ่งนี้กระมังที่เรียกว่าเสน่ห์ที่มาพร้อมกับความน่ารักและสมาร์ทของผู้หญิงที่ชื่อ “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา” 

2 ปีที่ผ่านมา นักแสดงที่ชื่อ เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา เติบโตขึ้นมากในวงการบันเทิง ความเห็นส่วนตัวคุณมองตัวเองอย่างไรบ้าง?

โตขึ้นและเปลี่ยนแปลงมากขึ้นจริง ๆ ค่ะ เรื่องแรกในการแสดงของเอสเธอร์เมื่อ 4 ปีที่แล้วคือเรื่อง บ่วง ตอนนั้นยังจับทิศทางการแสดงไม่ถูกเลยค่ะ ยังไม่รู้ว่ามุมกล้องอยู่ด้านไหน เราต้องหันด้านไหน ยังสับสนอยู่ และมีบางอารมณ์ ที่คิดว่าทำไมเราต้องมาทำอะไรที่หนักแบบนี้ด้วย แทนที่จะได้ใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่พอโตขึ้นความคิดก็เปลี่ยนไปมากขึ้น เริ่มรู้ว่าการเล่นละครคืออะไร หน้าที่และความรับผิดชอบของเราคืออะไร ยิ่งได้มาเป็นนักแสดงอิสระ ก็ได้ร่วมงานกับโปรดักชั่นที่หลากหลาย มีโปรเจ็กต์ทางการแสดงใหม่ ๆ เข้ามาตลอดค่ะ

แล้วตอนนี้คุณกำลังมีผลงานอะไรบ้าง?

ละครที่กำลังออนแอร์อยู่ตอนนี้คือเรื่อง เงาอโศก ผลตอบรับค่อนข้างดีทีเดียว ในเรื่องเอสรับบทเป็นปี่ค่ะ เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ บอบบาง มีความเจียมเนื้อเจียมตัว รักเจ้านายและมีความกตัญญูมาก เรื่องนี้จะเป็นโรแมนติก–ดราม่า เล่นคู่กับพี่ฌอห์น จินดาโชติ ซึ่งหลายคนก็เฝ้าติดตามเพราะถ่ายทำกันมาสักพักแล้ว ความยากของเรื่องนี้คือด้วยความเป็นละครย้อนยุค อย่างบางครั้งกิริยามารยาทของเราก็จะเป็นเด็กวัยรุ่นสมัยใหม่ ทำอะไรรีบร้อน ก็ต้องปรับบาลานซ์ให้มันพอดี และเป็นตัวละครในยุคนั้นจริง ๆ ก็มีอีก 2 เรื่องที่กำลังถ่ายทำ คือ My Girl ของค่ายทรู เป็นละครรีเมคจากซีรีส์เกาหลี และเรื่อง เธอคือพรหมลิขิต ที่เล่นกับพี่บี้ สุกฤษฎิ์ ออนแอร์ช่อง ONE ค่ะ 

พูดคุยกันถึงการถ่ายแบบกับ MiX MAGAZINE ในครั้งนี้บ้าง?

ก่อนอื่นรู้สึกดีใจมากเลยค่ะ เพราะร่วมงานกับ MiX เป็นครั้งแรก คอนเซ็ปต์ในวันนี้ก็คือ FOOD AND TRAVEL ซึ่งตรงกับเอสเธอร์มาก เพราะเป็นคนชอบกินและเที่ยวอยู่แล้ว (ยิ้ม) เรายกกองไปถ่ายทำกันถึงเขาใหญ่ค่ะ ได้บรรยากาศการท่องเที่ยวและเดินทางมาก เสื้อผ้าก็จะเป็นหวานปนเท่ มีเซ็กซี่เล็ก ๆ ด้วย

ที่ว่าเซ็กซี่เล็ก ๆ นี่ แค่ไหน?

เอสเธอร์ว่าไม่มากไปไม่น้อยไปนะ กำลังดี จะออกแนวเซ็กซี่แบบเท่มากกว่า ดูเป็นผู้หญิงลุย ๆ แต่อีกลุคก็ดูสบาย ๆ รักในการผจญภัยท่องเที่ยว พร้อมที่จะเจออะไรใหม่ ๆ 

คุณคิดว่าถ่ายแบบกับถ่ายละครต่างกันอย่างไร?

เอสเธอร์ว่ามีทั้งความเหมือนและต่างนะคะ ไม่มีอะไรยากง่ายไปกว่ากัน อย่างถ่ายละครก็ยากตรงที่เราต้องเข้าใจคาแรกเตอร์ของตัวละครนั้น ๆ ถ่ายแบบก็ยาก เพราะงานถ่ายก็จะมีคอนเซ็ปต์ที่ต่างกัน ดูอาจไม่ยาก แต่เราจะสื่ออารมณ์ยังไงให้ออกมาทางสายตาอย่างเดียว ถือว่าใช้พลังเยอะไม่แพ้ละครเลยค่ะ 

โดยส่วนตัวเป็นคนชอบท่องเที่ยวอยู่แล้วด้วย?

ใช่ค่ะ ชอบมาก จะชอบไปกับครอบครัว เพราะเอสมีน้องอีก 2 คนที่วัยไล่เลี่ยกัน ก็เหมือนได้เที่ยวกับเพื่อนด้วย จะชอบเที่ยวแนวสบาย ๆ ไม่กดดัน ไม่ชอบเที่ยวแบบที่ต้องตื่นเช้าไปที่นั่นที่นี่ จะชอบแบบค่อย ๆ ไป ตื่นสายได้ โปรแกรมไม่แน่นจนเกินไปค่ะ 
ที่ชอบไปมากคือ ทะเล อย่างภูเก็ต ก็ไปบ่อยมาก เพราะเอสชอบทานอาหารใต้ด้วย 

สถานที่ไหนที่อยากไปเที่ยวมากที่สุด?

อยากไปฮาวายค่ะ เพราะคุณพ่อ คุณแม่ พบรักกันที่นั่น เลยอยากรู้ว่าเขาเจอกันตรงไหน บรรยากาศตอนนั้นมันเป็นอย่างไร เพราะเวลาที่ฟังคุณแม่เล่าจะรู้สึกว่าโรแมนติกมาก

พูดถึงเรื่องโรแมนติกขึ้นมาพอดี แล้วความรักของคุณขณะนี้ โรแมนติกไหม เพราะเห็นเปิดตัวกันมากขึ้นและมักจะมี Caption หวาน ๆ มาขึ้นใน IG กันตลอด?

ก็ดีค่ะ เรื่อย ๆ (ยิ้ม) คู่เราจะชอบเที่ยวค่ะ ถ้ามีเวลาว่างตรงกันก็จะแพลนหาที่เที่ยวกัน เพราะเราก็ทำงานหนักทั้งคู่ ต้องคอยหาโอกาสพักผ่อนกัน

คุณวางอนาคตในวงการบันเทิงของตนเองไว้อย่างไรบ้าง?

ตอนนี้เอสถือว่าตนเองเป็นนักแสดงมืออาชีพ รักในงานแสดงมาก อยากจะพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างถ้าใครที่สังเกต เอสจะไม่ได้รับบทเป็นนางเอกอย่างเดียว นางเอกรองหรือบทบาทสมทบ ถ้าเป็นบทที่ดีก็รับเล่นนะคะ จะดูที่บทมากกว่า มันทำให้เราได้ประสบการณ์ที่หลากหลาย ต่อยอดไปในด้านอื่นได้เยอะมากค่ะ และจริง ๆ ถ้าในอนาคตสัก 7-8 ปี ก็อยากลองงานผู้จัดดู เพราะรู้สึกว่าชอบเหมือนกัน แต่ตอนนี้ขอตั้งใจไปกับงานแสดงก่อนค่ะ 

ในอนาคตจะมีโอกาสเห็นเอสเธอร์เป็นนักแสดงในสังกัดช่องใดช่องหนึ่งอีกหรือเปล่า?

ตอนนี้เอสเป็นอิสระ แต่วันข้างหน้าก็ไม่แน่นะคะ ต้องรอดูกันต่อไปค่ะ 

คำถามสุดท้ายถ้าคุณจะแนะนำอาหารไทยให้คนต่างชาติได้รู้จัก คุณจะแนะนำเมนูอะไร?

กระเพราหมูสับค่ะ เพราะมันเป็นอาหารที่ใครทำก็อร่อย บ่งบอกความเป็นไทยด้วย ในเรื่องของความเผ็ดร้อนและอร่อย และที่สำคัญเป็นอาหารจานโปรดของเอสเธอร์ด้วยค่ะ 

Wild At Heart