ลงทุน

ลงทุน

ยุคนี้การทำธุรกิจของท่านมีเป้าหมายอย่างไร? ต่างกับเมื่อก่อนแค่ไหน? 

ขอตอบให้เลยแล้วกันนะครับ ว่าเป้าหมายทางธุรกิจเมื่อก่อนต่างกับยุคนี้อย่างมาก 

เป้าหมายการลงทุนในธุรกิจ มี 4 ระดับ คือ
ระดับที่ 1 : ยอดขาย
ระดับที่ 2 : กำไร 
ระดับที่ 3 : มูลค่าแบรนด์ในปัจจุบัน 
ระดับที่ 4 : มูลค่าแบรนด์ในอนาคต 

การลงทุนใด ๆ ก็ตาม ท่านต้องมองไปถึงการสร้างเป้าหมายในระดับที่ 4 ให้ได้ นั่นหมายถึงธุรกิจท่านมีความแข็งแรงมาก และสอดคล้องกับ Mega Trend ของโลก 

คำถามที่ผมพบก็มีบ่อยครั้งที่ถามถึงการใช้งบการลงทุนในการสร้างแบรนด์ 

“ก่อนจะรู้ว่าต้องใช้เงินเท่าไร เราต้องมองก่อนว่า เราจะได้ Return กลับมาเป็นอะไรบ้าง (ยอดขายและมูลค่าแบรนด์)?” 

แผนการเงินคืออีกเข็มทิศที่ขาดไม่ได้ เราต้องรู้ว่าลงทุนไปแล้วกลับมาสร้างมูลค่าแบรนด์ให้ธุรกิจอะไรบ้าง? 

จากประสบการณ์ในการเป็นที่ปรึกษาให้กับหลาย ๆ แบรนด์ หลาย ๆ แบรนด์มักจะลืมการนำแผนกลยุทธ์แบรนด์ลงไปถึงการวางแผนการเงินหรือ Financial Projection ซึ่งแผนทางการเงินจะทำให้เราเกิดความมั่นใจในการใช้งบการลงทุนกับแบรนด์ การสร้างแบรนด์เป็นสินทรัพย์ที่ผมเคยเปรียบเทียบไปเปรียบเปรยเหมือนปลูกต้นไม้ใหญ่ที่ต้องลงทุนลงแรงและใช้เวลา ก่อนที่เราจะเก็บดอกเก็บผล 

การสร้างแบรนด์ที่ถูกต้องนั้นมีขึ้นเพื่อการพัฒนาศักยภาพทางการแข่งขัน ซึ่งนั่นหมายถึงการเพิ่มศักยภาพการทำกำไรให้กับธุรกิจนั่นเอง ดังนั้นสิ่งที่ต้องดำเนินการคือ หลังจากกลยุทธ์แบรนด์จัดทำเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อย เราต้องนำไปเปรียบเทียบกับการสร้างรายได้แบบเดิมและแบบใหม่ที่หลังจากกลยุทธ์แบรนด์และธุรกิจเราออกมาเป็นที่เรียบร้อย 

ผมย้ำเสมอว่าความคิดในการสร้างธุรกิจสมัยนี้สำคัญมาก สิ่งเหล่านี้เป็นเข็มทิศที่ไว้ให้เราก้าวเดินอย่างถูกต้อง ก่อนลงมือทำ แต่ผู้ประกอบการไทยจำนวนมากชอบทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามชอบทำตามใจแบบของตัวเอง และทำตามสิ่งที่เคยชิน และชอบทำลุยไปก่อน และค่อยมาแก้ไขกันทีหลัง ซึ่งทำให้ธุรกิจในประเทศเราไม่สามารถสร้างแบรนด์ไปสู่ระดับสากลได้มากเท่าที่ควร  

กลยุทธ์การสร้างแบรนด์เป็นเรื่องแนวคิดขององค์กร ซึ่งเป็นเข็มทิศที่สำคัญ และเมื่อสรุปมาเป็นที่เรียบร้อย เราต้องรวบรวมเป็นไบเบิลการดำเนินการของเรา ผมขอพูดถึงหลังจากได้ไบเบิลออกมาแล้ว ผมพบว่าสิ่งที่มักเป็นข้อผิดพลาด คือการที่เราไม่ลงมือทำตามทิศทางใหม่ที่ออกมา กลัวทำแล้วไม่ได้ยอดขายและไม่กล้าลงทุนตามแผน เพราะกลัวความเสี่ยงที่มีมาจากความเปลี่ยนแปลงที่จะก้าวไปในการทำสิ่งใหม่ ๆ ทำให้ทีมงานก็ลังเลไปด้วย ซึ่งเป็นภาพการเริ่มต้นที่ไม่ดีเลย 

ซึ่งจริง ๆ แล้วสิ่งที่ท่านทำมันก็คือการลงทุน การลงทุนทุกประเภทต้องมีความเสี่ยงเป็นธรรมดา แต่การลงทุนกับแบรนด์อาจดูแค่ตัวเลขการเติบโตหรือยอดขายในปัจจุบันไม่พอ ต้องมองถึงทิศทาง Mega Trend ของโลกอีกด้วย แต่ถ้าการลงทุนในการสร้างแบรนด์ท่านมีทฤษฎีและผู้มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำก็ช่วยลดความเสี่ยงไปมากแล้ว ถ้าแบรนด์นี้ดังขึ้นมาและประสบความสำเร็จท่านจะพบว่านี่คือกำไรที่เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน 

การลงทุนยุคนี้ที่ทำให้เงินท่านงอกเงยมากที่สุดคือการเป็นเจ้าของสินทรัพย์แบรนด์ที่มีโอกาสเป็นเจ้าตลาด และมีแบรนด์ที่เป็นแนวโน้มสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต ซึ่งถ้าท่านไม่มีเวลาไปสร้างเองก็จงหาให้เจอ และเข้าไปเป็นส่วนร่วมหนึ่งของเขาก็ได้เช่นกัน อย่างถ้าเมื่อก่อนท่านรู้ว่าแบรนด์อย่างเฟซบุ๊กจะมาไกลขนาดนี้ ท่านจะซื้อหุ้นตอนนั้นมากแค่ไหน แน่นอน และนี่ก็คือสินทรัพย์ที่แพงติดหนึ่งในสิบของโลกปัจจุบันและอนาคตไปอีกไกล จริงไหมครับ 

P.S.

สมัยนี้การสร้างธุรกิจขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย สิ่งสำคัญไม่แพ้กันที่ต้องมีควบคู่ไปกับธุรกิจ คือ การสร้างแบรนด์ของธุรกิจ เพื่อให้แบรนด์นี้กลายเป็นสินทรัพย์ทางธุรกิจได้ในอนาคตต่อไป ซึ่งแบรนด์นี้เองสามารถจะสร้างมูลค่าเพิ่ม
ทางธุรกิจได้ในอีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้นแล้วการลงทุนลงแรงเกี่ยวกับแนวคิดความรู้เรื่องการสร้างแบรนด์จึงเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของการสร้างธุรกิจให้เติบโตได้ใปไกลในระดับประเทศและระดับโลก 

เกี่ยวกับผู้เขียน

คุณหวก จุลเกียรติ สินชัยชูเกียรติ ผู้เขียนหนังสือ “เครื่องสร้างเงินที่เรียกว่า BRAND”

สร้างแบรนด์ให้เป็นสินทรัพย์