EDITOR’S PAGE

EDITOR’S PAGE

ผมมีโอกาสได้อ่านเรื่องราวของอาจารย์มกุฏ อรฤดี ที่บรรยายในห้องเรียนวิชาบรรณาธิการศึกษา ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2559 จากกรณีการประกาศปิดตัวของนิตยสารสกุลไทย เนื้อหาตอนหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งผมอยากถ่ายทอดออกไปนั่นคือ เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ร้านหนังสือเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ประกาศว่าจะต้องปิดกิจการเนื่องจากดำเนินการต่อไปไม่ได้ ประสบกับภาวะขาดทุน วันรุ่งขึ้นรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของฝรั่งเศสไปที่ร้านหนังสือแห่งนั้น เพื่อจะบอกว่าหยุดไม่ได้นะ แล้วผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ร้านหนังสือของคุณอยู่ได้ น่าคิดไหมครับถ้าเป็นบ้านเราจะเป็นอย่างไร

เมื่อหนังสือเป็นดั่งคลังแห่งภูมิปัญญา แม้จะมีเอกสารที่เรียกว่าดิจิตอล เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันและส่งผลกระทบต่อตลาดของหนังสืออย่างเห็นได้ชัด ผมเองก็ไม่ปฏิเสธและยอมรับปรับตัวกับวิวัฒนาการที่เกิดขึ้นอย่างกลมกลืน แต่ยิ่งทำให้คิดถึงมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่หลายคนใฝ่ฝันว่าจะมีโอกาสเข้าไปเรียน ณ สถาบันแห่งนี้ ที่ถูกยกย่องว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะนอกจากเป็นสถาบันที่มีศิษย์เก่าและคณาจารย์ได้รับรางวัลโนเบลอันทรงเกียรติถึง 75 รางวัล รางวัลพูลิตเซอร์อีก 15 รางวัล และที่สำคัญยังผลิตศิษย์เก่าที่เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาถึง 8 คน รวมไปถึงประธานาธิบดีคนปัจจุบัน บารัก โอบามา อีกด้วย

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น หนังสือเกือบ 20 ล้านเล่มในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ได้รับการยอมรับและถูกยกย่องว่ามีคุณภาพและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ยังคงมีแสงไฟส่องสว่างเจิดจ้าอยู่ตลอดเวลา ทำให้อาณาจักรแห่งนี้ไม่เคยหลับใหล ภาพของนักศึกษาที่ยังคงอ่านหนังสืออย่างจริงจัง และแสดงพลังแห่งความหวังอันเจิดจรัสแห่งปัญญาอยู่เสมอ พร้อม ๆ กับการบันทึกเรื่องราวแห่งความสำเร็จอย่างนิรันดร์

ผมยังเชื่อว่าเสน่ห์ของหนังสือ กลิ่นอายอันน่าหลงใหลของเยื่อไผ่ยังคงมีมนต์ขลัง และพร้อมเสมอกับการเสริมสร้างปัญญาไปได้อีกยาวไกล ถึงแม้วันนี้จะไม่ใช่ยุคทองของมัน แต่หนังสือก็จะรอวันเวลาหวนคืนกลับมา ต่อยอดเติมเต็มความฝันของนักอ่านเพื่อเปิดโลกแห่งจินตนาการอีกครั้งอย่างแน่นอนครับ

ชโลทร ศิวารัตน์
บรรณาธิการบริหาร

ชโลทร ศิวารัตน์, บรรณาธิการบริหาร, mixmagazine