ซัง โด ลี
ถ้าดูจากชื่อและรูปลักษณ์ภายนอกของชายคนนี้ เขาคือชาวเกาหลีใต้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าฟังจากสำเนียงภาษาไทยและนิสัยบางส่วนของเขาแล้ว ก็เชื่อได้ว่าเขาคือคนไทยไม่ผิดเพี้ยนเช่นกัน ที่กล่าวมาข้างต้นอาจไม่สำคัญเท่าความสามารถที่แฝงอยู่ในตัว เพราะเขาคือประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ที่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวหลักในวงการธุรกิจมีเดียเอนเตอร์เทนเมนท์
คุณซัง โด ลี เป็นคนเกาหลีใต้ แต่มาเติบโตที่ประเทศไทย โดยเข้าเรียนระดับมัธยมที่นานาชาติร่วมฤดี หลังจากนั้นไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อครบกำหนดอายุในการเกณฑ์ทหารจึงได้กลับมายังบ้านเกิดประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปลดประจำการทหาร เขาจึงเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่ประเทศเกาหลีใต้ทันที และได้ทำงานอยู่ที่นั่น 2 ปี จนเมื่อปี ค.ศ.2002 มีเพื่อนคนไทยมาชักชวนให้กลับมาทำงานที่ประเทศไทย
“ครั้งแรกที่ผมมาทำงานได้เข้ามาทำเกี่ยวกับ Travel IT และดูแลระบบให้กับ Travel Agency อยู่กับบริษัทหนึ่งภายใต้สังกัดของบริษัทโมโน โดยตอนนั้นบริษัทเพิ่งเริ่มก่อตั้งแทบจะพร้อม ๆ กับที่ผมเข้ามาทำงานเมื่อราว 14 ปีก่อน จนตอนนี้สามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ ซึ่งถือเป็นยังเจนเนอเรชั่น และที่สำคัญเรามีคนหนุ่มสาวอยู่เยอะ ทำให้มีพลังในการทำงานค่อนข้างสูง
“ธุรกิจของเราตอนนี้แบ่งง่าย ๆ คือมีเดียกับคอนเทนต์ แต่เราเน้นหนักสุดคือเรื่องของทีวีคือมีช่องโมโน 29 และโมโนพลัส แล้วเรามีมีเดียที่อยู่ในอินเตอร์เน็ตเช่น Mthai และเว็บท่องเที่ยวต่าง ๆ แล้วก็มีเรื่องของโมบาย ซึ่งอินเตอร์เน็ตกับโมบายเรารวมให้เป็นส่วนเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของธุรกิจสิ่งพิมพ์ มีทั้งนิตยสารและพ็อกเก็ตบุ๊ค โดยล่าสุดเราได้เปิดเรดิโอ 91.5 Fresz FM ส่วนกลุ่มของคอนเทนต์ก็จะมีเรื่องของหนังกับเพลง
“ถ้ามองโดยภาพรวมขององค์กรตอนนี้เราเน้นไปในเรื่องของธุรกิจหนัง ทั้งที่เราผลิตเองแล้วดันเข้าสู่โรงภาพยนตร์ หรืองานที่เราซื้อลิขสิทธ์หนังมาจากต่างประเทศเพื่อนำมาฉายในช่องทีวีของโมโน บางส่วนนำไปลงในเว็บไซต์ก็มี เราโฟกัสอยู่คือเรื่องของหนังโดยเชื่อว่าในระยะยาวถือว่าค่อนข้างได้เปรียบคู่แข่ง เพราะเราชัดเจนว่าจะมาแนวหนังกับซีรี่ส์ บริษัทโมโนได้ลงทุนซื้อหนังมาเก็บเอาไว้เยอะมากจึงอยู่ในจุดที่ดีอยู่แล้วไม่เป็นห่วงมาก แต่สิ่งที่เราต้องเสริมก็มีหลายอย่างที่ยังไม่แข็งแรงเช่นวาไรตี้รายการ เรื่องกีฬาเรามีถ่ายทอดสดกีฬามวย แล้วก็มีในเรื่องของบาสเกตบอล”
เรื่องของบาสเกตบอลเป็นเรื่องที่น่าจับตามองในเวลานี้ เพราะทางบริษัทโมโนได้เข้ามายกระดับวงการบาสเกตบอลให้มีความเป็นอาชีพมากขึ้น เริ่มจากเป็นผู้สนับสนุนหลักของ TBL (Thailand Basketball League) และเป็นสปอร์เซอร์ให้กับ 2 ทีมในลีก คือ โมโนแวมไพร์ และโมโนทิวไผ่งาม โดยที่สโมสรโมโนแวมไพร์ได้แชมป์บาสเกตบอลลีกของไทย และเป็นหนึ่งในตัวแทนทีมสโมสรของประเทศไทยไปแข่งในระดับอาเซียน ABL (ASEAN Basketball League) อยู่ในขณะนี้
“จุดเริ่มต้นมาจากทีมผู้บริหารของเราชื่นชอบการออกกำลังกายคือพอทำงานหนักเราก็อยากออกกำลังกาย จึงหาว่ามีกีฬาอะไรที่สามารถเล่นเป็นทีมโดยใช้พื้นที่น้อยได้บ้าง ก็เลยมาลองเล่นบาสเกตบอลดูมันจึงเกิด Passion ขึ้น เราก็คิดจะเข้ามาสนับสนุนวงการบาสเกตบอลอย่างจริงจัง
“มันประจวบเหมาะตรงที่เราสามารถประมูลช่องทีวีดิจิตอลได้พอดี ก็หันมามองกีฬาที่พอมีศักยภาพซึ่งฟุตบอลมีเจ้าภาพเรื่องลิขสิทธ์จับจองอยู่แล้ว พอมองไปที่วอลเลย์บอลมันก็เริ่มติดลมบนแล้วเหมือนกัน แต่บาสเกตบอลยังไม่มีใครเข้ามาทำ เพราะวงการบาสเกตบอลในช่วงนั้นยังไม่ได้เป็นรูปเป็นร่างมากนัก เราจึงตัดสินใจเข้ามาสนับสนุน ถ้ามองให้ดีมันคือสปอร์ตเอ็นเตอร์เทนเมนท์ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่น่าสนใจ
“ผมทำธุรกิจอย่างแรกหนึ่งต้องเริ่มจากใจรักก่อน แล้วเราทำด้วยความจริงจัง แล้วสิ่งสำคัญมันต้องเกิดอะไรใหม่ ๆ และให้อะไรสังคมซึ่งเราคิดว่าบาสเกตบอลนี่แหละเป็นสิงที่เราทำได้ ก็คาดหวังไว้ว่าในอนาคตวงการบาสเกตบอลจะเติบโตเหมือนคนที่ชื่นชอบฟุตบอล
“เป้าหมายของทุกบริษัทคงเหมือนกันหมดคือทำรายได้ให้กับนักลงทุนให้มากที่สุด ซึ่งบางทีมันต้องรอไทม์มิ่ง แต่สิ่งที่เราเซ็ตเอาไว้ในช่วงต้นปีคืออยากให้ Market Cap เราโตในจุดที่เราอยากได้ ในเรื่องของมีเดียเราตั้งเป้าเอาไว้ในระดับท็อป 3 ให้ได้ ซึ่งตอนนี้เราอยู่ในอันดับ 7 ผมคิดว่าเราน่าจะเดินไปถึงเป้าหมายนั้นได้ในไม่ช้า”