idol EDM

idol EDM

BOOM BOOM CASH

พวกเขาคือวงดนตรีแนวอีเล็กทรอนิกส์แดนซ์วงแรกของไทย ที่ทำดนตรีแนว EDM ออกสู่มหาชน Boom Boom Cash เกิดจากการรวมตัวของ 3 สมาชิกจากอดีตวงร็อค SIX C.E ในสังกัดจีนี่ เรคคอร์ด ได้แก่ สัณหภาส บุนนาค (เอ้), ชาลาลีคาน อาลีฟ ซันคาน (แขก), จิโรจน์ เอี่ยวจินดา (โอเล่) และนักร้องสาวสวย วริศรา อภิรักษ์เดชาชัย (หมิว) พวกเขาแจ้งเกิดจากการประกวด Chang Music Contest 2012 และค่อย ๆ เป็นที่นิยมจนโด่งดังระดับประเทศ

“จริง ๆ วงเราเริ่มต้นมาจากการทำวงร็อคก่อนครับ พอวงยุบไปผมก็ยังอยากทำเพลงอยู่ ก็เลยชวนพี่แขกกับพี่โอเล่ทำวงใหม่ ช่วงนั้นพอดีว่ากระแส DUBSTEP กำลังมาแรงก็เลยอยากทดลองทำแนวนี้ดูบ้าง จังหวะใกล้เคียงกับเพลงร็อคมากผมเลยอยากเอามาผสมกับสไตล์ของวง แต่พอศึกษามากขึ้นมันก็ถลำลึกจนทำดนตรีแนว Electronic แบบนี้ในที่สุด กลายเป็น EDM อย่างในทุกวันนี้ครับ ขั้นตอนการทำเพลงและการแสดงสดก็แตกต่างจากวงที่เราเคยทำมาครับ จากที่ต้อง โซโล่กีตาร์เหยียบเอฟเฟ็กต์ก็ต้องวางกีตาร์มาเป็น MIDI Controller แทนครับ พอกลับมาทำวงเรายังขาดนักร้อง ก็เลยปรึกษากับพี่ดาโน่ที่เป็นโปรดิวเซอร์คุยกันแล้วคิดว่าน่าจะเหมาะกับนักร้องผู้หญิง บังเอิญว่าผมไปทำเรื่องเรียนจบที่ดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ก็ไปเจอกับหมิวที่เขามาเรียนร้องเพลงพอดี ก็เลยได้มาร่วมงานกัน” เอ้ แกนนำของวงเล่าถึงที่มา 

“ก่อนหน้านั้นหมิวร้องโอเปร่าค่ะ เรียนคลาสสิกมาตั้งแต่เด็ก ไม่ได้คิดว่าจะมาร้องเพลงแนวนี้เหมือนกัน หมิวมาหัดร้องเพลงป็อบตอนปีสองปีสามนี่เอง ตอนช่วงมาเจอพี่เอ้พอดีค่ะ อาจารย์ที่สอนร้องเพลง
แนะนำให้รู้จักพี่เขา ช่วงแรกที่อัดร้องต้องให้พี่ดาโน่คอยไกด์ให้ บางทีร้องใช้พลังมากเกินไปก็จะไม่เข้ากับแนวเพลง ต้องปรับตัวพอสมควรค่ะ”หมิว นักร้องนำ

“ตอนนี้มีทัวร์คอนเสิร์ตค่อนข้างเยอะ ทั้งปาร์ตี้และเฟสติวัล ยิ่งช่วงปลายปีอย่างนี้ด้วย คอนเสิร์ตที่พวกเราประทับใจที่สุดจะเป็น Big Mountain ครั้งที่ 5 วงเราเล่นเป็นวงสุดท้ายของงานคอนเสิร์ตเลยก็ว่าได้ เพราะเล่นกันตอนประมาณตีสี่กว่า ๆ ช่วงก่อนเราจะเล่นนี่ไม่มีคนเลยครับ ผมก็เลยโทรบอกพี่โจ้ โจอี้บอย ที่จะต้องมาเป็นแขกรับเชิญว่าขอโทษนะพี่ไม่มีคนดูเลย แต่พอเราขึ้นเล่นเพลงแรกคนก็แห่มาเลยครับ คนเยอะมาก พอพี่โจ้มาถึงก็บอกไหนว่าไม่มีคน กลายเป็นประทับใจเลยครับ” แขกและโอเล่เสริม 

“ตอนนี้เรามีซิงเกิ้ลทั้งหมด 7 เพลง แต่ปีหน้าคาดว่าอัลบั้มเต็มจะเสร็จ เป็นการรวมทั้งเพลงเก่า เพลงในเวอร์ชั่นใหม่ และเพลงใหม่ที่ยังไม่เคยปล่อย ซิงเกิ้ลล่าสุด Drink & Drunk ปล่อยมานานแล้วค่ะ ถ้าจะต้องเลือกเพลงมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ทำความรู้จักกับพวกเรา อยากให้ลองฟังเพลง One Live ค่ะ” หมิวกล่าวทิ้งท้าย 

DJ Natazu

ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หากจะต้องไปใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนและกลายเป็นดีเจที่มีชื่อเสียงในมหานครนิวยอร์ก  ท่ามกลางแสงสีในเมืองศิวิไลซ์ ‘ดีเจนัตซึ – นิธิศชนม์ สุทวีร์วิญญู’ ดีเจหนุ่มจากเมืองไทยได้ฝ่าฟันจนกลายมาเป็นดีเจสุดฮอต เปิดเพลงให้เหล่านิวยอร์กเกอร์ได้ออกสเต็ปแดนซ์ในหลาย ๆ คลับชื่อดังของเมือง

“ผมย้ายมาอยู่นิวยอร์กได้ 7 ปีแล้วครับ ตอนแรก ๆ ที่มาก็เหมือนเด็กไทยทั่วไป คือไปเรียนภาษาก่อน แล้วก็ทำอาหาร เวลาผ่านไปประมาณ 8 เดือน ก็ไปลองสมัครที่บาร์ ปรากฏเขาบอกว่าตำแหน่งบาร์ไม่มี มีแต่ดีเจ อยากลองดูไหม ผมก็เลยได้เป็นดีเจเปิดเพลงตามคลับ บาร์ ตั้งแต่นั้นครับ

“คนที่นู้นจะมีหลายเชื้อชาติ มีทั้งคนขาว คนดำ เอเชีย แต่ละคนก็ฟังเพลงไม่เหมือนกัน ต้องอ่านใจคนให้ออก เวลาเลือกเพลง ถ้าให้ดีก็จะต้องเลือกเพลงแบบ Play Safe ไว้ก่อน เบสิกหลัก ๆ คือเพลงป็อป เพลงไหนที่กำลังฮิตก็เปิด ผมจะดูคนว่ากลุ่มที่มาอายุเท่าไหร่กันบ้าง ถ้ารุ่นไล่ ๆ กัน หรือรุ่นน้องกว่าสักหน่อย ยุค 90 มันต้องมา พอเปิดเพลงที่เขารู้จักหรือเคยฟังในอดีตก็จะชื่นชอบกัน เหมือนไม่เคยได้ยินเพลงนี้มานาน (หัวเราะ) ถ้าเป็นยุคนั้นเพลงแดนซ์ดัง ๆ ผมเปิดหมด ไล่ตั้งแต่ Britney Spears ไปจนถึงวง EDM อย่าง Prodigy เลยครับ 

“ต้องยอมรับว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแสเพลงอีเล็กทรอนิกส์แดนซ์นั้นมาแรงมาก EDM Culture ที่นั่นก็จะเป็นกลุ่ม จัดเป็นปาร์ตี้แต่ไม่ได้จัดทุกคืน เป็นอีเว้นท์ใหญ่จะจัดใหญ่โตมาก มีประมาณ 3 เวที แล้วก็ขายตั๋วแพงมากเช่นกัน ซึ่งก็มีคนไปเยอะเหมือนกันนะ กลับกันที่นู้นเขาไม่ได้เอาแต่ EDM อย่างเดียว แต่เขาจะเป็นแบบผสมผสาน มีทั้งตัว Club และก็ตัวที่เป็น Trance ด้วย พวกเพื่อนผมที่ไปกันก็จะเป็นกลุ่มที่แชร์กับกลุ่ม Club เพราะเขาไปได้หมด ไม่มีแบ่งประเภทเพลงกันว่า EDM หรืออะไร” 

ด้วยความที่เขาเป็นนักฟังเพลงตัวยง ฟังเพลงมาทั้งชีวิต หากได้ฟังเพลง Pop เพลงไหนแล้ว ก็สามารถบอกได้เลยว่าชื่อเพลงอะไร มิวสิควีดีโอเป็นแบบไหน เขาเลยหยิบจุดเด่นของตัวเองตรงนี้มาเป็นคาแรกเตอร์ คือ VDO DJ ที่เป็นการเปิดเพลงไปพร้อม ๆ กับเปิดมิวสิควีดีโอ ซึ่งเป็นวีดีโอที่เขาตัดต่อด้วยตัวเอง แน่นอนว่ายิ่งมีคนชอบมาก ก็มีคนไม่ถูกชะตาบ้างเช่นกัน

“มีแบบพูดจาไม่ดี บางทีมีก็อปงานเราด้วย ผมบอกกับตัวเองว่าอย่าเสียเวลากับเรื่องพวกนี้เลย เอาเวลามานั่งย้อนดูตัวเองดีกว่า ว่าเป็นยังไง ปีหน้าเราจะทำอะไรดี ต้องตัดเพลงอะไรให้คนฟังชอบ มีคลิปอันไหนที่คนน่าจะสนใจบ้าง ผมว่ามันจะมีความสุขกับตัวเองและตัวเนื้องาน ผมเชื่อว่า Positive Energy จะเข้ามาเอง แต่ตอนนี้ผมแฮปปี้มาก สนุกกับเพลงและทุกอย่าง คิดดูตื่นมาแล้วได้ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่คิดว่าจะได้ทำ ได้ฟังเพลงทั้งวัน มีคนเข้าใจ บางทีในวันมืดมิดก็มีแสงสว่างมาให้ผม ผมโดนว่า โดนกดดัน แต่ก็มีลูกค้าเข้ามาจับมือ เข้ามาให้กำลังใจ เท่านี้ผมก็มีความสุขกับการทำงานตรงนี้มากแล้วครับ” 

Z-MYX LIVE!
สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์

ชายคนนี้คือศิลปิน EDM ที่มาก่อนกาล Mr.Z หรือ สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ นักดนตรี นักแต่งเพลง และนักรีมิกซ์ชาวไทย หนึ่งในผู้ก่อตั้งค่ายเพลงในตำนานอย่างเบเกอรี่มิวสิก เขาทำเพลง REMIX ในแนว Electronic Dance มาตั้งแต่ช่วงต้นยุค 90 ผลงานมากมายหลายอัลบั้มในนาม Z-MYX และ Mr. Z หลังจากห่างหายไปนานในปีนี้เขาได้ปล่อยซิงเกิ้ล “ฉันรักเธออยู่ (เหมือนเดิมทุกอย่าง)” พร้อมจัดคอนเสิร์ต Z-MYX LIVE! Vol.1 with Triumph Kingdom และ Yokee Playboy

“ผมยังทำงานเบื้องหลังในวงการเพลงครับ แต่ช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั้นสนุกกับการเป็นหนึ่งในนักดนตรีของวง P.O.P ในตำแหน่ง Sampler ครับ ที่หายหน้าไปเพราะอาจไม่มีผลงานใหม่ ๆ ออกมาให้ได้ยิน หลังจากเดินสายออกทัวร์คอนเสิร์ตมาหลายปีก็ทำให้ผมอยากกลับมาทำผลงานเพลงของตัวเองอีกครั้งครับ และสอดคล้องกับกระแส EDM ที่มาแรงด้วย ในช่วง 5 ปีมานี้เพลงแนวนี้มาแรงจริง ๆ และเครื่องดนตรีก็พัฒนาขึ้นมากด้วย ก่อนหน้านี้ผมจะเน้นเขียนเพลงเต้นรำอยู่แล้วครับ

“ผมโตมาในยุค 80 ตอนนั้นเพลงเต้นรำจะเป็นที่นิยมมาก ตอนเด็กจะฟังพวกเพลงดิสโก้ก่อน พอขึ้น ม.1 ก็เป็นช่วงเริ่มต้นของแนว Electronic ด้วย เพราะมีเครื่องดนตรีอย่างซินธิไซเซอร์เกิดขึ้น หลาย ๆ ศิลปินก็เอาซาวนด์อีเล็กทรอนิกส์มาผสม เริ่มจากทางฝั่งอังกฤษก่อน ตอนนั้นเรียกว่าแนว New Romantic มีวงอย่าง Duran Duran, Depeche Mode ก่อนจะไปนิยมในอเมริกา พอ Madonna ทำซาวน์แบบนี้ออกมาก็โด่งดังไปทั่วโลก ฝั่งเพลงไทยเองก็เป็นช่วงเริ่มต้นของธุรกิจเพลงด้วยครับ มีค่ายแกรมมี่เกิดขึ้น อาร์เอส นิธิทัศน์ ฯลฯ 

“ยุคนั้นรายการวิทยุมีอิทธิพลกับคนฟังมาก ตอนวัยรุ่นผมฟังเพลงจากรายการไนท์สปอร์ต ถ้าไม่มีรายการวิทยุวัยรุ่นสมัยนั้นคงแย่ เป็นช่องทางเดียวที่คนรุ่นผมจะได้ฟังเพลงสากลครับ พอช่วง ม.ปลาย ประมาณปลายยุค 80 ก็มีเครื่อง Sampler เกิดขึ้น สามารถดูดเสียงเครื่องดนตรีต่าง ๆ เข้าไปได้ ผมเลยซื้อมาหัดก็ลองเอาเพลงฝรั่งมามิกซ์ให้ยาวขึ้นบ้าง ใส่บีตเพิ่มบ้าง ตัดท่อนเพิ่มบ้าง พอเพื่อนมาฟังก็เลยแนะนำให้มิกซ์เพลงไทยบ้าง ผมน่าจะเป็นคนแรก ๆ ในเมืองไทย ที่มาทำเพลงรีมิกซ์ครับ อัลบั้มแรกผมได้ร่วมงานกับทางมีเดียพลัสในปี 1992 ผลงานเพลง Z-MYX คือปรากฏการณ์ใหม่ของเพลงไทยช่วงนั้นเลยครับ โชคดีที่ผู้บริหารอย่างพี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ เข้าใจในงานของเราครับ เขาให้อิสระในการทำเพลงเต็มที่ แต่เรื่องการตลาดทางค่ายจะดูแลทุกอย่าง จากนั้นก็เลยทำเพลงมาตลอดจนมาถึงที่ทำค่ายเบเกอรี่เลยครับ 

“EDM พี่ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่มาแรงมากครับ จำได้ว่าเริ่มได้ยินมาตั้งแต่ประมาณ 7 ปีก่อนครับ ซึ่งเขาจะ Drive คนฟังด้วยจังหวะเพลง มีท่อนไล่อารมณ์ตั้งแต่เริ่มไปจนพีค เปรียบง่าย ๆ เหมือนกับได้นั่งรถไฟเหาะครับ มีดีเจมาคอยบิ้วว่าจะถึงทางลงแล้วนะ เตรียมตัว...ลงคือเพลงสมัยก่อนจะไม่มีคนมาบอกว่าท่อนนี้แล้วนะ คนฟังต้องฟังเอาเอง ถ้าสังเกตพอถึงท่อนพีคดีเจจะให้กระโดดพร้อมกันบ้างหรือมีสัญญาณว่าถึงแล้วนะ EDM Culture ผมว่าต้องมีอีเว้นท์ปาร์ตี้ มีเรื่องแฟชั่น เน้นแสง สี เสียงครับ

“ผมเพิ่งกลับมาทำเพลงอีกครั้งอย่างเต็มตัวปีนี้นี่แหละครับ ย้อนกลับไปประมาณ 2 ปีที่แล้ว คุณสุกี้เขาเริ่มทำเพลงแนว EDM ขึ้นมาก่อนทำเป็นอัลบั้มแนวนี้โดยตรงเพราะลูกชายเขาชอบ ถือว่าเซอร์ไพรส์เลยครับ พี่สุกี้เขาเก่งอยู่แล้ว ทำแนวไหนก็ทำออกมาได้ดี เห็นเขาทำผมก็มีความคิดอยากทำบ้าง แต่ช่วงนั้นไอเดียยังไม่สุกงอม พอมีไอเดียและพร้อมก็ทำออกมาเพลงหนึ่ง และเพลงนี้ก็ทำให้ต่อยอดอยากทำคอนเสิร์ตใหญ่ครับ ตอนนี้ไม่ได้สังกัดค่ายเพลง ทำเองทั้งหมด แต่จะให้ทาง Warner Music Thailand จัดจำหน่ายและทำการประชาสัมพันธ์ให้ครับ คอนเสิร์ต Z-MYX LIVE! Vol.1 with Triumph Kingdom และ Yokee Playboy เพิ่งผ่านมาถือเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 10 ปี ครั้งแรกเลยครับ เพราะหลังจากคอนเสิร์ตสุดท้ายในนามเบเกอรี่มิวสิค ก็ไม่ได้เล่นคอนเสิร์ตหรือโชว์ในนาม Mr.Z อีกเลย ครั้งนี้ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี 

“วงการเพลงช่วงนี้มีเพลงหลากหลายมากขึ้น มีศิลปินหรือวงเก่ง ๆเกิดขึ้นเยอะแต่ว่าเพลงน้อย ในที่นี้คือเขาทำกันเองโปรโมตกันเอง พอไม่มีค่ายเพลงสนับสนุนช่องทางไปสู่แฟนเพลงก็เลยไม่กว้างนัก คือเพลงไปไม่ถึงคนฟังกลุ่มใหญ่ สังเกตได้เลยครับว่าวงดนตรีที่โชว์เยอะจะเป็นรุ่นที่มีค่ายเพลงโปรโมตมาก่อนจนชื่อเขาติดไปแล้ว รุ่นใหม่ที่เกิดในปีสองปีนี้จะดังเปรี้ยงน้อยมาก ต้องเน้นขายโชว์ในอีเว้นท์กันเป็นหลัก อยากฝากวงดนตรีรุ่นใหม่ให้ทำเพลงออกมาดี ๆ ตั้งใจทำเพราะขั้นตอนทุกอย่างอาจง่ายขึ้น แต่สิ่งที่เป็นไอเดียหรือสิ่งที่ต้องการนำเสนอนั้นสำคัญมากครับ แล้วหาช่องทางนำเสนอให้ดีให้ถึงคนฟังส่วนใหญ่ให้ได้ แม้ธุรกิจเพลงจะซบเซาลงแต่คนก็ยังต้องฟังเพลงเพราะเพลงคือสุนทรียภาพอย่างหนึ่งครับ” 

Love is life beat music