ศรัทธาฟุตบอลไทย

ศรัทธาฟุตบอลไทย

ทำให้ชั่วโมงนี้เวลามีบอลทีมชาติแข่งในบ้าน พอมีเปิดขายบัตรเข้าชมการแข่งขันก็ใช้เวลาเพียงแค่อึดใจเดียว บัตรจำนวน 4 หมื่นกว่าใบในสนามราชมังคลากีฬาสถานก็ขายหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมยังมีประเด็นดราม่าตามมาเรื่องของพ่อค้าคนกลาง หรือตั๋วผี ที่เอาบัตรมาโก่งราคาต่อ

ไม่แปลกที่ในรอบปีทีผ่านมามักจะภาพของแฟนบอลชาวไทยที่เข้าไปเต็มความจุของสนามอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะแข่งรายการไหน คงไม่ต้องบรรยายใด ๆกับกระแสฟุตบอลไทยที่เกิดขึ้นกับทีมชาติตอนนี้นอกจากคำว่า “ศรัทธา”

นอกจากนั้นในส่วนของสโมสรเอง ตลอด 2-3 ปีหลังจำนวนแฟนฟุตบอลที่เข้ามาชมเกมในสนามมากขึ้นชัดเจนและมีผู้ติดตามการถ่ายทอดสดจนลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดลีกสูงสุดฟุตบอลเมืองไทย ทางทรูวิชชั่นเองที่ได้สิทธิ์ต้องจ่ายเงินไปหลักพันล้านกว่าบาทเลยทีเดียว

หรือสปอนเซอร์หลักของลีกอย่าง “TOYOTA” บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในใจคนไทยที่เข้ามาสนับสนุนลีกตั้งแต่ปี 2556 ด้วยวงเงินปีละ 100 ล้านบาทก็ต่อสัญญาจากของเดิม 2556-2558 ไปถึงปี 2561 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมของฟุตบอลไทยไม่ได้มีแค่ทีมชาติเท่านั้นแต่รวมทั้งระดับสโมสรด้วย มิเช่นนั้นตัวเงินของผู้สนับสนุนคงไม่มากมายถึงขนาดนี้ เพราะคำว่า “ศรัทธา” เหมือนกัน

ขนาดทีมระดับกลางอย่างพลังเอ็ม โอสถสภา เมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งตัดสินใจย้ายสนามจากราชมังคลากีฬาสถานที่ไม่ค่อยมีแฟนบอลเข้าชมไปอยู่ที่บางพลี ผลตอบรับดีมาก ๆ แฟนบอลเข้ามาชมเกมเป็นหลักหลายพัน จากเมื่อก่อนแค่หลักร้อย

หรือทีมตามหัวเมืองต่างจังหวัดทั้งหลายไม่ว่าจะ นครราชสีมา มาสด้า, ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี รวมทั้ง สุพรรณบุรี เอฟซี พอมีแข่งไม่ต้องห่วงว่าบัตรจะขายไม่ได้ มีแค่ที่นั่งที่ดูนักเตะแข่งฟุตบอล เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าหัวใจของคนไทยไม่ว่าจะอยู่ไหนก็คือ “หัวใจฟุตบอล”

น่าเสียดายที่เรื่องของ “ศรัทธา” ที่ในวงการฟุตบอลไทยไม่ได้มีแต่มากขึ้นเพียงอย่างเดียวเพราะบางเรื่องก็ทำให้เกิดความ ศรัทธาน้อยลง ไม่ว่าจะปัญหาของผู้ตัดสินบางคน  ที่เกิดขึ้นเกือบทุกจะสัปดาห์ในทุกวันนี้กลับเป็นสิ่งที่ทำให้แฟนบอลเหนื่อยทั้งการตัดสินผิดพลาด หรือบางครั้งอาจจะถูกมองว่าผู้ตัดสินตัดสินเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือเปล่า

แม้ว่าทางคณะกรรมผู้ตัดสินที่ดูแลในเรื่องนี้จะพยายามแก้ปัญหาด้วยการ จับฉลากผู้ตัดสิน ในทุกสัปดาห์ แต่ก็ยังมีเครื่องหมายคำถามกันอยู่ว่า จริงใจกับการแก้ปัญหาหรือเปล่า เพราะผลที่ออกมาดูเหมือนว่า ก็ยังเหมือนเดิม ศรัทธาในตัวผู้ตัดสินฟุตบอลเมืองไทยน้อยลงไปเรื่อย ๆ ทุกที

อีกทั้งฝ่ายบริหารของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่มีบรรดาคุณ ๆ ท่าน ๆทั้งหลายเข้ามานั่งทำงาน แต่ก็ยังมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันเหมือนเดิม ขนาดเรื่องของการเลือกตั้งนายกสมามคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่เป็นเรื่องภายใน เป็นเรื่องที่ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่าให้แต่ละชาติดำเนินการเองภาพที่ออกมาก็ไม่โปร่งใส

จนทางฟีฟ่าต้องมีคำสั่งออกมาแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งใหม่เองอีกครั้งโดยมี “เสธโต” พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมภ์ เป็นประธาน เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกที่ได้เห็นผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในวงการฟุตบอลไทยทะเลาะกันเอง เพียงเพื่อใครจะได้เป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในสมาคม

บางที่เรื่องที่เกิดในวงการฟุตบอลไทยก็เหมือน “ตลกร้าย” ผลงานทีมฟุตบอลยอดเยี่ยม กระแสความนิยมของฟุตบอลลีกกำลังมา แต่เรื่องของผู้ตัดสินและฝ่ายบริหารในสมาคมกลับสวนทางกัน

นี่แหละคือ “ศรัทธาฟุตบอลไทย” ที่ทั้งมากขึ้นและน้อยลงครับ 

ทั้งมากขึ้นและน้อยลง