EDM หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า Electronic Dance Music เป็นแนวของดนตรีที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศเป็นอย่างมาก ขนาดที่ว่ากลายเป็นดนตรีกระแสหลักไปแล้ว ซึ่งแนวดนตรีแบบ EDM ก็จะใช้เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีเป็นหลัก เล่นซาวด์แบบที่ให้ความรู้สึกสนุก ครื้นเครง อยากจะลุกขึ้นมาเต้น โดยจะอยู่ในรูปแบบของ Digital ซึ่งทางฝั่งยุโรปฮิตกันมาก สำหรับในเมืองไทยก็จะเป็นแนวดนตรีที่วัยรุ่นเรียกกันติดปากว่า “เพลงตื๊ด” นั่นเอง

ความแรงของ EDM นั้นไม่หยุดอยู่เพียงกลุ่มปาร์ตี้หรือคนเที่ยวกลางคืนเท่านั้น นอกจากในผับดนตรีแนวนี้ยังเข้าไปถึงไลฟ์สไตล์ของคนทั่วไป ไม่ว่าจะเดินช็อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า นั่งทานอาหารในร้านอาหารต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งทางหน้าปัดวิทยุคลื่นเพลงสากล ดนตรีเหล่านี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งไปแล้วในปัจจุบัน

EDM เกิดขึ้นมาตอนไหน? 
จริง ๆ แล้วดนตรีอิเล็กทรอนิกส์นั้นเกิดขึ้นมานานแล้ว เพียงแต่เพิ่งจะมีชื่อเรียกรวม ๆ ว่า EDM ได้เพียงไม่นาน เอ้-สัณหภาส บุนนาค จากวง BOOM BOOM CASH คือผู้ที่ศึกษาดนตรีแนวนี้อย่างจริงจัง เขาได้บอกเล่าถึงสิ่งที่เขาได้ค้นคว้าในช่วงก่อนจะทำเพลงแนวนี้ให้เราได้ไขข้อข้องใจ“EDM เพิ่งเป็นชื่อที่เรียกกันมาได้ไม่ถึงสิบปีมานี้ครับ จุดเริ่มต้นมาจาก HOUSE MUSIC ที่เกิดขึ้นในยุโรป เป็นเพลงที่วัยรุ่นคนขาวคิดขึ้นมาเพราะไม่อยากเล่นเพลงของคนผิวสี ช่วงปลายยุค 70 ถึงต้นยุค 80 คนผิวสีได้รับการยอมรับมากขึ้น ตอนนั้นเพลง Soul, Funk, Disco จะมาแรงมาก

แต่ช่วงนั้นยังมีเรื่องต่อต้านสีผิวในสังคมอยู่ เพลงแนวนี้เกิดขึ้นมาจากปาร์ตี้ในโกดังซึ่งเป็นที่นิยมมาก จนคนเรียกดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ยุคแรกว่า HOUSE MUSIC ซึ่งก็ยังไม่มีชื่อเรียกแนวเพลงนี้ด้วยซ้ำ แต่มันมาจากโกดังหรือบ้านหลังนี้นั่นเอง จนโกดังถูกเผาโดยพวกหัวรุนแรง กระแสจึงแรงขึ้นจนเข้าไปในอเมริกา แตกยอดเป็นแนวย่อยต่าง ๆ Electro House, Drum & Bass, Trance ฯลฯ จนมาถึงยุคนี้ที่เพลงแนวต่าง ๆ

เหล่านี้ได้รับความนิยมจึงถูกเรียกรวม ๆ กันว่า Electronic Dance Music ครับ”ปาร์ตี้ส่วนใหญ่ในปัจจุบันขาดเพลงแนวนี้ไม่ได้เสียแล้วเพราะเป็นส่วนที่เร้าอารมณ์คนฟังให้สนุกลุกขึ้นเต้นหรือโยกย้ายตามจังหวะ เร่งความเร็วตามบีตของดนตรี มีการเร้าจากดีเจและไล่สเต็ปจนถึงขั้นพีค นอกจากเรื่องของเพลงที่เร้าใจให้เต้นตามแล้ว แฟชั่นการแต่งตัวก็เป็นอีก Topic ที่ต้องกล่าวถึงเช่นกัน การแต่งตัวมีหลากหลายสไตล์ตั้งแต่แนวสปอร์ต ๆ ฮิปฮอป ไปจนถึงขั้นบูติกก็ยังเข้าได้กับเพลง EDM หรือปาร์ตี้แนวนี้ด้วยเช่นกัน

GADGET 
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับแนวเพลง EDM นั้นมีไม่เยอะเท่าเครื่องดนตรีอื่น ๆ ตอนแสดงสด เอาจริง ๆ แล้วบางทีมีแค่ Laptop สักเครื่องกับ Midi Controller ก็อาจจะเพียงพอ นอกเหนือจากนั้นอยู่ที่สไตล์และโชว์ของวงดนตรีหรือดีเจคนนั้นครับ แต่ถ้าจะให้เป็นปาร์ตี้ EDM เต็มรูปแบบก็ควรจะมีสิ่งเหล่านี้ครับเครื่อง Theremin เป็นเครื่องดนตรีที่ใช้หลักการรบกวนสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้เกิดเสียงเป็นโน้ตดนตรี

หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับเครื่องดนตรีชนิดนี้มากนักแต่ถ้าเป็นคนที่ชอบดูหนังน่าจะผ่านหูมาบ้าง เพราะเจ้าเครื่อง Theremin นี้ นิยมนำมาใช้ทำ Sound Effect ในภาพยนตร์ครับในเมื่อเรามีเครื่องสร้างเสียงแล้ว สิ่งต่อมาที่ต้องมีเลยก็คือ เครื่องสังเคราะห์เสียง หรือ Synthesizer นั่นเองซึ่งเจ้า Synthesizer นี้ก็จะทำหน้าที่สร้างเสียงจำลองโดยใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การเพิ่มเสียง, การลดเสียง, การใช้คลื่นเสียงกล้ำคลื่นวิทยุโดยเปลี่ยนความถี่คลื่น, การสังเคราะห์ เสียงกายภาพ, การทำให้คลื่นเสียงผิดเพี้ยนรูปร่างไป ซาวด์แปลก ๆ ล้ำ ๆ ก็มาจากเครื่องนี้นี่เอง

Turntable ก็คือเครื่องเล่นแผ่นเสียง หน้าที่ก็ตามชื่อเลยครับ เล่นแผ่นเสียง ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆแล้ว เราก็ได้ซาวด์ดนตรี MIX แบบเจ๋ง ๆ ออกมานั่นเองเครื่องดนตรี อาทิ กีตาร์ เบส กลอง และซินธิไซเซอร์ เพื่อเพิ่มความสนุกเร้าใจ และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ Laptop ดี ๆ สักเครื่อง ที่จะผสานเสียงทั้งหมดเข้าด้วยกันเพียงเท่านี้ก็พร้อมที่จะจัดงานปาร์ตี้ EDM สุดเจ๋งกันได้แล้ว!