โทษของนมวัว
นมวัวในปัจจุบันอาจจะปนเปื้อน Bovine Growth Hormone (โบวาย โกร์ท ฮอร์โมน) ได้ครับ
Bovine แปลว่า วัว
คำว่า Bovine Growth Hormone จึงหมายถึง โกร์ท ฮอร์โมนของวัวนั่นเอง
ฮอร์โมนตัวนี้มีคุณสมบัติที่วิเศษมาก ในการกระตุ้นเต้านมของแม่วัว เพราะทำให้แม่วัวผลิตนมได้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 10 ปอนด์ต่อวัน ทุกวันตลอดการรีดนมวัวเลยครับ
ตัวอย่างเช่น เราให้ฮอร์โมนตัวนี้ในสัปดาห์ที่ 10 ของการรีดนมวัว ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 40 ของการรีดนมวัว จะทำให้โดยรวม เราได้น้ำนมเพิ่มขึ้นจากการฉีดฮอร์โมนตัวนี้ ถึงประมาณ 2,100 ปอนด์ หรือกว่า 1 ตัน เลยทีเดียว จึงทำให้ต้นทุนของนมวัวทั่วๆ ไป ถูกกว่านมวัวออร์แกนิคมากครับ
ส่วนอันตรายจากการได้รับฮอร์โมนตัวนี้นั้นที่แน่ๆ เกิดขึ้นกับแม่วัวที่ได้รับฮอร์โมนตัวนี้ครับ เช่น ทำให้เต้านมของแม่วัวเกิดการอักเสบติดเชื้อเข้าไปถึงในเนื้อเยื่อเต้านม
งานวิจัยพบว่า มีโอกาสที่จะพบแบคทีเรีย และหนองปนเปื้อนลงไปในนมวัว!!!
นี่จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ประเทศในกลุ่ม EU, Canada, ญี่ปุ่น, Australia, New Zealand และ Isarel ทำการห้ามนำเข้านมวัวที่มีการปนเปื้อนฮอร์โมนตัวนี้เด็ดขาด เพราะนมวัวที่ได้จากแม่วัวที่ฉีดฮอร์โมนพวกนี้ มีโอกาสสูงสุดที่จะเกิดการปนเปื้อนเชื้อโรคครับ นอกจากนี้ยังทำให้ต้องใช้ยาฆ่าเชื้อมากกว่าที่ควรจะเป็น และโอกาสที่เกิดเชื้อดื้อยาก็จะยิ่งมากขึ้นครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
ฮอร์โมนตัวนี้เป็น GMO หมายความว่า นมวัวที่ดื่มๆ กัน ก็เป็นผลิตภัณฑ์ GMO ด้วยครับ ยังมีความจริงที่น่าตกใจเกี่ยวกับ โบวาย โกร์ท ฮอร์โมนตัวนี้อีกหลายข้อ
ทำไมเราต้องเอาสุขภาพของเราไปเสี่ยงกับเรื่องนี้?
ถ้าอยากจะดื่มนมวัวจริงๆ ดื่มเป็นนมออร์แกนิคไปเลยดีกว่าไหม?
ยอมจ่ายแพงขึ้นอีกนิด หรือไม่ดื่มไปเลยยิ่งดี
หรือถ้าอยากได้แคลเซียมจริงๆ มากินอาหารไทยๆ กันไม่ดีกว่าหรือ?
* หมายเหตุ บทความนี้เป็นความเห็นของผู้เขียนบทความเท่านั้น
Bovine Growth Hormone
ในปี 2007 นพ.ซามูเอล แอปเตน เปิดเผยถึง อันตรายของฮอร์โมน Bovine Growth Hormone ตัวนี้ไว้ในหนังสือของเขา ชื่อ What’s in your Milk?
หนังสือนี้เปิดเผยหลักการวิทยาศาสตร์ การเมือง และอื่นๆ เบื้องหลังการสร้าง และอนุมัติฮอร์โมนนี้ หลังจากหนังสือนี้ออกมา ผู้ผลิตนมวัวหลายๆ รายได้ตัดสินใจที่จะขายนมวัวที่ปราศจากฮอร์โมนตัวนี้แทน
จากนั้นบริษัท Monsanto ซึ่งผลิตฮอร์โมนตัวนี้ จึงได้ขายหน่วยธุรกิจของฮอร์โมนนี้ ให้กับบริษัท Eli Lilly ไปทั้งหมด แต่การใช้ฮอร์โมนนี้ก็ยังมีอยู่ จนกว่ามันจะถูกห้ามการใช้ทั้งหมด
น้ำนมจากวัวที่ฉีดฮอร์โมนตัวนี้ มีปริมาณฮอร์โมน IGF-1 (Insulin like Growth Factor) สูงขึ้น
American Cancer Society รายงานว่า IGF-1 เป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เนื้องอกเจริญเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันสัมพันธ์กับมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่กลับไม่มีงานวิจัย ที่มีการเชื่อมโยง ข้อเท็จจริงสองอย่างนี้ อย่างจำเพาะเจาะจง?
รีวิวของงานวิจัยที่เพิ่งตีพิมพ์เร็วๆ นี้ พบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่าง IGF-1 กับการก่อตัวของเนื้องอกในมะเร็งเต้านม เป็นที่รู้กันว่า Insulin like Growth Factor เป็นตัวกระตุ้นการ differentiate ของเซลล์ และมันมีปฏิกิริยาเสริมฤทธิ์กันกับ ฮอร์โมนเอสโตรเจน กับการโตของเนื้องอกในผู้หญิง
งานวิจัยปี 2013 ยังพบความสัมพันธ์ของ ฮอร์โมน IGF กับ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้ด้วย
ประวัติผู้เขียน
น.พ.คณิน ไตรพิพิธสิริวัฒน์
Dr. Kanin Tripipitsiriwat (M.D., CNW, ABAARM)
• แพทย์ประจำศูนย์ Vital Life โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์
• วิทยากรประจำรายการ Morning Love F.M. 99 ออกอากาศทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 6.00 - 7.00 น. ตั้งแต่ ก.พ. 2554 - ปัจจุบัน
• คอลัมนิสต์ Healthy Living นิตยสาร MiX MAGAZINE
• Facebook fanpage : นพ. คณิน - Dr.Kanin (https://www.facebook.com/DrKaninHealingYourself)