“ถ้าคุณคิดว่ารถบินได้...มันจะบินได้” ช่วงก่อนวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ข่าวใหญ่ที่ดังที่สุดของบ้านเราคงนี้ไม่พ้นกระแสหนัง Fast7 ว่าจะได้ฉายในบ้านเราหรือไม่? ซึ่งในที่สุดเราก็ได้ดูพร้อมกันทั่วประเทศ  นอกจากประเด็นในบ้านเราแล้วนี่ถือเป็นการกำกับหนัง Action เรื่องแรกของ James Wan ซึ่งเคยสร้างชื่อมาแล้วจากหนังสยองขวัญหลายเรื่อง ทั้ง The Conjuring, Insidiousc และ Saw 

“ถ้าคุณคิดว่ารถบินได้...มันจะบินได้” ช่วงก่อนวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ข่าวใหญ่ที่ดังที่สุดของบ้านเราคงนี้ไม่พ้นกระแสหนัง Fast7 ว่าจะได้ฉายในบ้านเราหรือไม่? ซึ่งในที่สุดเราก็ได้ดูพร้อมกันทั่วประเทศ  นอกจากประเด็นในบ้านเราแล้วนี่ถือเป็นการกำกับหนัง Action เรื่องแรกของ James Wan ซึ่งเคยสร้างชื่อมาแล้วจากหนังสยองขวัญหลายเรื่อง ทั้ง The Conjuring, Insidiousc และ Saw 

ตอนจบของภาค 6 ฮานตายด้วยฝีมือชายปริศนา Deckard Shaw ซึ่งรับบทโดย เจสัน สแตธัม เรื่องต่อจากตรงนี้เลยครับ เจสันเป็นผู้ไล่ล่าแก็งของ Dominic Toretto เพราะ Owen Shaw หนึ่งในอริเก่าของดอม คือน้องชายของ Deckard Shaw การไล่ล่าแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ความมันส์ระดับโลกเลยเริ่มขึ้น แต่ดอมไม่ยอมเป็นผู้ถูกล่าแน่ ยิ่งฮานหนึ่งในครอบครัว (เพื่อนรัก) ถูกฆ่าตาย ยิ่งต้องการจะจัดการกับ Deckard Shaw 

ชอบหรือไม่ชอบก็ตาม เราได้สูญเสีย Fast and Furious หนังแนวรถแข่งไปแล้ว Fast7 ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความสมจริงสมจังแล้วครับ มันได้หายไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ที่ได้แทนมาคือความมันส์สะใจ เว่อร์ได้โล่! ก็ถึงขนาดรถสามารถขับลงมาจากเครื่องบินกางร่มชูชีพได้ ลงมาถึงพื้นได้โดยสวัสดิภาพ

ฉากขับรถบินข้ามตึกอย่างบ้าระห่ำ ทำแบบนี้ได้ก็ไม่มีอะไรที่หนังเรื่องนี้จะทำไม่ได้แล้วครับ ฉากที่ผมชอบมากที่สุดกลับเป็นซีนดราม่าแทบทั้งหมด ทั้งบทพูดสั้นๆ ของดอม ที่ว่า “You can’t tell someone to love you.” เราบอกให้ใครมารักเราไม่ได้หรอก มันโดนใจมากเลยครับ ชอบเพราะอีตานี่มักจะมีบทเจ๋งๆ คำพูดโดนๆ อยู่เสมอ และประโยคนี้มันแสดงถึงความเป็นสุภาพบุรุษ ความรักที่มั่นคงและแน่นอน  

คุยถึงการแสดงของโทนี่ จา กันบ้างดีกว่า บทของจาไม่ใช่ตัวประกอบแต่เป็นไม้ประดับของหนังที่สู้กับพระเอกอย่างพอลได้สนุกเลย เพราะจามีทั้งบทพูดฉากบู้ ไล่ล่า และมีการออกแบบคาแร็กเตอร์อย่างชัดเจน เป็นลูกน้องของคนสำคัญของ Jakande รับบทโดย Djimon Hounsou ที่ต้องเป็นคู่ต่อกรกับเจ้าหน้าที่โอคอนเนอร์อยู่ตลอดแทบทั้งเรื่อง ถือเป็นการแจ้งเกิดที่ดีสำหรับนักแสดงคิวบู้เบอร์หนึ่งของไทย 

ผู้กำกับให้น้ำหนักกับบทของจาพอสมควร เพราะได้ประกบกับพระเอกตลอดเรื่อง แต่พี่จาเราเล่นพูดเดี๋ยวไทย เดี๋ยวอังกฤษ ผมมีโอกาสเจอพี่จาเลยถามตรงๆ เลยว่าทำไมถึงไม่พูดอังกฤษไปเลย พี่จาบอกผู้กำกับเค้าอยากได้ความหลากหลายนานาชาติ ฟังดูก็น่ารักดีครับ 

บทสุดท้ายกับการส่ง “พอล วอคเกอร์” กลับบ้าน ผมว่าทำได้อย่างอบอุ่นสมบูรณ์แบบ ผมชอบฉากในช่วงท้าย ที่โดมินิกกับพอลขับรถแยกกันโดยที่ดอมตรงไปข้างหน้า พอลแยกตัวออกมา พร้อมๆ กับเพลง See You Again และเสียงบรรยายของดอมที่ว่า “ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลกันแค่ไหน เราจะยังเป็นครอบครัวเดียวกันเสมอ” แถมยังมีการรวมภาพเก่าๆ ตั้งแต่ภาคแรกมาเรียกน้ำตาคนดูอีก เรียกว่าจบได้ประทับใจจริงๆ ครับ 

Film Info

ผู้กำกับ : James Wan
ประเภท : Action | Crime | Thriller
สัญชาติ : USA
ความยาว : 137 นาที