บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จัดทริปทดสอบสมรรถนะ New HONDA CR-V พร้อมจัดกิจกรรมทดสอบสุดพิเศษให้ทั้งรถ และสื่อมวลชนที่ร่วมทำการทดสอบ บนเส้นทางหลากหลายรูปแบบกว่า 700 กม. จาก กรุงเทพฯ - สังขละบุรี 

สำหรับทริปนี้โปรแกรมแน่นมากๆ จึงต้องเตรียมตัวกันตั้งแต่เช้าตรู่ ณ จุดสตาร์ท บริษัท ยูไนเต็ด ฮอนด้า ออโตโมบิล จำกัด โชว์รูม และศูนย์บริการมาตรฐานแห่งใหม่บนถนนราชพฤกษ์ จากนั้นฟังบรรยายสรุปผลิตภัณฑ์ว่ามีอะไรใหม่บ้างก่อนที่จะออกเดินทาง การทดสอบในครั้งนี้ เราใช้ New HONDA CR-V รุ่น 2.4 EL 4WD ซึ่งเป็นตัว Top สุด ในการเดินทาง 

ความเปลี่ยนแปลงของรุ่นนี้เริ่มต้นตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก ด้วยไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบ LED พร้อมกระจังหน้าและกันชนหน้า-หลังที่ปรับดีไซน์ใหม่ให้ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น และยังมีแผงใต้กันชนหน้า-หลัง  คิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียมที่ให้ความรู้สึกที่หรูหรามากขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญยังมาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่อีกด้วย

เริ่มออกเดินทางด้วยบรรยากาศของการจราจรในช่วงเช้าที่ขวักไขว่ ถือเป็นบททดสอบแรก ในด้านความคล่องตัวในการเดินทางในเมือง ซึ่ง New HONDA CR-V แม้จะเป็นรถที่มีขนาดใหญ่ แต่ตัวรถที่สูง กระจกบานหน้าที่กว้าง และการวางตำแหน่งของเบาะคนขับ ช่วยให้กะระยะด้านหน้าง่ายขึ้น ประกอบกับนำระบบแสดงภาพมุมอับสายตา ขณะเปลี่ยนเลน (Honda Lane Watch) ที่มีอยู่ใน Accordมาใช้ ทำให้การซอกแซก หรือเปลี่ยนเลน ทำได้ง่ายขึ้น

เมื่อเข้าทางหลวงระหว่างเมือง เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,356 ซีซี. DOHC  16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุดที่ 175 แรงม้าที่  6,200 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 225 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที  ซึ่งพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม โดยมีระบบส่งกำลังใหม่ ในแบบเกียร์ CVT พร้อม Paddle Shift ที่หลังพวงมาลัยโดยสามารถปรับได้ 7  สปีด ส่งผลให้อารมณ์ และความรู้สึกในการกดคันเร่งแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง เนื่องจากจังหวะการปรับเปลี่ยนที่นิ่มนวล และเหมาะสม ทำให้ความเร็วเร่งขึ้นไปได้อย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง โดยอัตราเร่งพละกำลังที่มีมาให้นั้น เพียงพอที่จะแซงคันหน้าในยามคับขันได้อย่างสบายๆ

จากนั้นเราเดินทางเข้าสู่ทางฝุ่นกันบ้าง โดยขับเข้าเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เพื่อเข้าไปช่วยสร้างโป่งเทียมให้แก่สัตว์ป่าอย่างช้าง หรือสัตว์กินพืชชนิดอื่นๆ ด้วยการออกแรงขุด ก่อนที่นำเปลือกหอยกับเกลือ ผสมกับดินที่ขุดขึ้น ก่อนจะกลบลงไปในหลุมที่เราขุดเป็นอันจบ กิจกรรมนี้ เรียกเหงื่อได้มากที่เดียวครับ

มาต่อกันที่ช่วงล่าง และการขับเคลื่อน New HONDA CR-V คันนี้เป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Real Time กล่าวคือ ระบบนี้ปกติแล้วจะขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อหน้าเป็นหลัก แต่เมื่อระบบตรวจพบความผิดปกติของพื้นผิวทาง เช่น ถนนลื่น เข้าโค้งที่ความเร็วสูงเกินไป หรือลุยทาง Off Road จนล้อข้างใดข้างหนึ่งลอย หรือหมุนฟรี ระบบจะถ่ายกำลังการขับเคลื่อนผ่านเพลาไปยังล้ออีกด้านทันที เพื่อให้ตัวรถแล่นผ่านอุปสรรคนั้นๆ ไปได้

จากเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ กว่าเราจะถึงสังขละบุรี หนทางข้างหน้าเราจะต้องผ่านทางคดเคี้ยวข้ามเขาอีกหลายลูก กว่าจะได้ไปพบความงดงามของดินแดนชาวมอญ จึงมีโอกาสได้สัมผัสกับระบบต่างๆ ที่ช่วยในการรักษาเสถียร์ภาพของรถ ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบดับเบิ้ลวิชโบน พร้อมเหล็กกันโคลง หน้า-หลัง ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว (VSA) จึงทำให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นคง และมั่นใจ นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) เข้ามาให้คุณได้ใช้งานอีกด้วย เรียกได้ว่าครบกันเลยทีเดียว

ขากลับ ได้ลองเปลี่ยนเป็นผู้โดยสารตอนหลังดูบ้างพบว่าองศาของพนักพิง ส่งผลให้ได้ท่านั่งที่สบายมากขึ้นเมื่อเดินทางไกลๆ ทำให้ไม่เมื่อยล้ามากนัก ส่วนการเพิ่มพื้นที่ขนสัมภาระให้มากขึ้นนั้น ก็ทำได้อย่างง่ายดายในจังหวะเดียวด้วยการพับเบาะแยกพับ 60:40 ซึ่งอันนี้ สะดวกจริงๆ ครับ

หลังจากอยู่ด้วยกันมามากกว่า 700 กม. บอกได้เลยว่าสิ่งที่สะดุดตาที่สุด ต้องยกให้ Daytime Running Light ที่ออกแบบมาได้ลงตัว และยกระดับความหรูออกมาได้ชัดเจน ด้านสมรรถนะคงเป็นความเหมาะสมและความฉลาดของระบบเกียร์ CVT ที่สามารถถ่ายทอดกำลังส่งตรงสู่เพลาได้อย่างราบรื่น นิ่มนวล รวดเร็ว ส่วนในราคา New HONDA CR-V รุ่น 2.4 EL 4WD ราคา  1,580,000 บาท ถามว่าคุ้มไหม ไม่มีใครจะรู้ดีไปกว่าตัวคุณเองครับ สุดท้ายก็ต้องขอบคุณบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จํากัดที่ให้โอกาส MiX MAGAZINE ได้สัมผัสนวัตกรรมดีๆ อย่างนี้เสมอมาครับ  

Trick & Tip ลมยาง เติมตอนไหนถึงจะดี

การเติมลมยาง หรือเช็กลมยาง ควรทำในตอนที่อุณหภูมิของยางยังเย็นอยู่ หรือเป็นยางที่ยังไม่ได้วิ่ง หรือเป็นยางที่จอดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1ชม. เพราะจะทำให้ทราบแรงดันลมยางที่แท้จริง