ผู้ชายกับ

ผู้ชายกับ

ผมเห็นคนถกเถียงกันมากมาย ประเด็นที่ว่า “พร้อมก่อนค่อยแต่ง” หรือ “แต่งแล้วค่อยสร้าง” เชื่อว่าหลายๆ คนก็เคยตกอยู่ในสภาวะมึนๆ งงๆ แบบนี้เหมือนกัน เพราะตามสังคมไทยแล้ว การสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ตามวัฒนธรรมทั่วไป ก็คงต้องเริ่มที่การแต่งงาน ไม่นับเรื่องวิวาห์เหาะ หนีตามกันไป หรืออยู่ด้วยกันเฉยๆ แบบฝรั่ง อันนั้นสังคมไทยยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องทั่วๆ ไป

ถ้าเป็นสมัยก่อน เรื่องแบบนี้อาจไม่ต้องปวดหัวมาก เพราะค่าครองชีพ การแข่งขัน และสภาพสังคมมันยังไม่ได้หนักหนาขนาดนี้ สมัยนี้เอาแค่ค่าจัดงานธรรมดาๆ ก็ปาเข้าไปหลายบาทแล้ว นี่ยังไม่นับไปถึงการคิดถึงว่าจะต้องมีบ้าน มีรถ ให้พร้อมและมีเงินก้อนหนึ่งไว้รอมีลูก นี่มันงานช้างชัดๆ ผู้ชายส่วนใหญ่ก็มักจะคิดเรื่องนี้เยอะ ทำให้บอกให้ผู้หญิงรอ รอ รอ ให้พร้อมก่อน! รอไปรอมารอจนเลิกกันไปหลายคู่ เราก็เห็นกันบ่อยๆ 

อันนี้เป็นเรื่องที่คนสองคนต้องตกลง คุยเปิดอกกันจริงๆ จังๆ ถึงแผนชีวิตที่ต้องวางร่วมกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างคาดหวังกันไป ไม่งั้นอนาคตมันจะกลายเป็น “คู่ชีวิต” ได้ยังไง ถ้าแค่เรื่องคิดยังไม่ยอมคิดกันเป็นคู่เลย

คนส่วนใหญ่ไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด โปรไฟล์เลิศ เรียนจบนอก เงินเดือนหลักหลายแสนแบบพระเอกในละครกันหรอก แบบนั้นถ้าอยากแต่งเมื่อไรก็คงแต่งได้ไม่ต้องรอ ไม่พูดถึงละกัน แต่กับคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ที่ยังต้องทำงานกินเงินเดือน หรือทำธุรกิจเองแต่ก็ต้องหมุนเงินกันอาทิตย์ชนอาทิตย์อยู่ 

ผมอยากแนะนำให้คุยและวางแผนกันเลยตั้งแต่ต่างคนต่างมั่นใจแล้วว่า คนนี้แหละคือคู่ชีวิตของกันและกัน (ให้มั่นใจกันก่อนนะ) แล้วเขียนเป็นแผนสร้างครอบครัวด้วยกันเลย ทำเป็น Roadmap กันไปเลย ว่าอีกกี่ปีจะแต่งงาน จะช่วยกันเก็บเงินเดือนละเท่าไร ใช้เดือนละเท่าไร แต่งแล้วจะอยู่บ้านไหน ถ้ายังไม่มีต้องเริ่มมองหายังไง (ถึงจะยังไม่พร้อมจะซื้อ แต่แนะนำว่าให้มองหาไว้เนิ่นๆ ทุกอย่างมันเริ่มจากการที่เราต้องสร้างภาพในใจเราไว้ก่อนทั้งนั้น) ว่าเราจะอยู่บ้าน คอนโด หรืออะไร แล้วก็เช็กกันไปทุกปีว่าเรามาถึงจุดไหนแล้ว 

ผมรับรองว่าถ้าคุณมีแผนร่วมกันชัดเจนแล้ว ที่เหลือมันจะง่ายขึ้นอีกเยอะ อย่างน้อยคุณทำงานไปแล้วรู้ว่าเงินไม่พอแต่งแน่ คุณต้องขวนขวายหาทางใหม่ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ลดรายจ่าย ลดการเที่ยว ลดการซื้อของฟุ่มเฟือยลง เพื่อให้มันใกล้เคียงกับแผน 

ข้อสังเกตอย่างหนึ่งผมอยากย้ำว่า เราอย่าไปห่วงคนรอบข้างหรือสังคมเยอะเกินไป การสร้างครอบครัวมันเป็นครอบครัวเรา การที่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาใช้แต่งงาน มันเป็นเรื่องที่ตลกมาก แต่งงานเสร็จแทนที่จะมีกำลังใจสร้างครอบครัว กลับกลายเป็นต้องมาทำงานใช้หนี้งานแต่งนี่มันตลกไร้สาระเอามากๆ การแต่งงานมันเป็นเหมือนสัญลักษณ์และคำสัญญาในการสร้างครอบครัวที่ดี และครอบครัวที่ดีนี่แหละที่จะเป็นกำลังใจให้เรามีแรงสร้างฐานะและครอบครัวให้สมบูรณ์ต่อไป 

ดังนั้นตั้งเป้า วางแผน และค่อยๆ หาทางทำให้ได้ตามแผนนั้นนะครับ อย่าต้องให้คนสำคัญคนนั้นรอแบบไม่มีแผน ไม่มีเป้าหมาย จนรอไม่ไหวนะครับ 

Know Him

โอภาส  ถิรปัญญาเลิศ 

หรือ ใหญ่ HI หนุ่มใหญ่ผู้เป็นทั้งนักลงทุน นักธุรกิจ วิทยากรนักเขียนเจ้าของหนังสือ Best Seller “พลิกพอร์ตหุ้นใหญ่ HI” นักแปล  บรรณาธิการหนังสือ  พิธีกรรายการโทรทัศน์ ผู้มีมุมมองทั้งการลงทุนและการใช้ชีวิตอย่าง Happy Investor ติดตามพูดคุยกับเขาได้ทาง Fanpage : พลิกพอร์ตหุ้นใหญ่ HI และรายการ “เม่าปีกเหล็ก” ทางช่อง NOW26  / Instragam : opasyai

Did You Know?

สุดท้ายแล้ว ความหมายของการแต่งงานมันไม่ใช่งานแต่งที่อลังการ สวยงาม แขกเหรื่อมากมายให้มาถ่ายรูปลง Facebook ว่างานแต่งเราหรูเลิศหรอกนะ  แต่มันคือคำสัญญาของการสร้างครอบครัวไปด้วยกันต่างหาก  ไม่มีใครสำคัญต่องานแต่งงานเท่ากับที่คนสองคนตกลงจะใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกัน ดังนั้นคุณอย่าหลงประเด็น การรอให้พร้อม กับการพร้อมที่จะรอไปด้วยกัน คุณจะเลือกอย่างไหนล่ะ?

การสร้างตัว