ฟุตบอลญี่ปุ่น กับ กัปตันสึบาสะ
ช่วงเดือนที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงพีคที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ช่วงเวลาที่ซากุระบาน เป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นใหม่ และการจากลาของชาวญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่ามีระเบียบวินัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการต่อแถวเข้าคิว การตรงต่อเวลา ความรับผิดชอบต่างๆ ต่อสังคมส่วนรวม
สิ่งเหล่านี้จะถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ ทุกครอบครัวจะสอนให้เด็กๆ รู้จักรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเดินไปโรงเรียนเองของเด็กอนุบาล การฝึกความอดทนต่อสภาพอากาศที่มีความหลากหลาย ช่วงอากาศหนาวๆ เด็กญี่ปุ่นใส่เสื้อแขนสั้น ออกมาเดิน ในขณะที่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ใส่เสื้อหนาวหลายชั้น
การเรียนการสอนของที่นั่นจะปล่อยให้เด็กได้ทำอะไรได้อย่างอิสระ และสนับสนุนให้เล่นดนตรี เรื่องกีฬาก็เช่นเดียวกัน พวกเขาจะได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่เล็กๆ งานกีฬาสี รวมถึง สนามกีฬาที่ถูกสนับสนุนให้เด็กได้เล่นอย่างเต็มที่ เด็กๆ มักจะชื่นชอบเรื่องการอ่าน และใครจะไปคิดว่าหนังสือการ์ตูนอย่าง กัปตันสึบาสะ (Captain Tsubasa) จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจต่อเด็กๆ จำนวนมาก จนทำให้วงการฟุตบอลในญี่ปุ่นก้าวไกลไประดับโลก
ซึ่งกัปตันสึบาสะเป็นผลงานการ์ตูนอมตะของ อ.โยอิจิ ทาคาฮาชิ ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารโชเน็นจัมป์ ในปี ค.ศ.1981 เป็นการ์ตูนฟุตบอลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเล่าเรื่องราวการตามความฝันของโอโซระ สึบาสะ เด็กหนุ่มผู้หลงใหลฟุตบอลและฝันว่าจะติดทีมชาติญี่ปุ่นและคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาให้ได้
เขามีคติประจำใจว่า “ฟุตบอลคือเพื่อนของเรา” สึบาสะได้พัฒนาทักษะด้านฟุตบอล จึงมีพรสวรรค์ด้านฟุตบอลติดตัวเขาคือกัปตันทีมคอยปลุกเร้าลูกทีมให้ลุกขึ้นสู้ไม่ถอย และยิงประตูสำคัญๆ ช่วยทีมคว้าชัยชนะ และมีไดรฟ์ชู้ต เป็นลูกยิงท่าไม้ตาย ซึ่งการ์ตูนชุดกัปตันสึบาสะมีหลายภาคต่อเนื่อง ทั้งภาคเยาวชนโลกที่สึบาสะออกเดินทางจากญี่ปุ่น ไปเล่นฟุตบอลอาชีพที่บราซิล เล่นให้กับทีมเซาเปาโล ยังมีภาค Road to 2002 และอีกหลายภาค จนกระทั่ง สึบาสะได้ย้ายไปเล่นให้กับทีมบาร์เซโลน่า
คุณผู้อ่านอาจจะไม่เชื่อนะคะ ว่ามังงะ* เรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเตะซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกหลายคนทั้ง ซีเนอดิน ซีดาน, อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่, ฟรานเชสโก้ ต็อตติ, ลิโอเนล เมสซี่, อันเดรียส อิเนียสต้า, เฟอร์นันโด ตอเรส ซึ่งตอเรสเขาก็เคยอ่านการ์ตูนเรื่องนี้เมื่อตอนเด็ก เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าที่โรงเรียนฮิตการ์ตูนฟุตบอลจากญี่ปุ่นเรื่องนี้มาก และน้องชายก็บังคับให้เขาอ่าน
ตอเรสในวัยเด็กฝันว่าอยากจะเป็นแบบสึบาสะ ที่มีความเก่งกาจและมีท่าไม้ตายเป็นลูกเตะที่ทรงพลัง นักเตะญี่ปุ่นหลายคนอย่าง ชินจิ คากาวะ, เคสุเกะ ฮอนดะ พวกเขาสามารถพิสูจน์ให้คนทั้งโลกพบว่า กัปตันสึบาสะไม่ใช่การ์ตูนเพ้อฝันซึ่งจริงๆ แล้วนอกจากการ์ตูนฟุตบอลอย่างกัปตันสึบาสะแล้วยังมีอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวกับกีฬาอื่นๆ และเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น เรื่อง H2, Slamdunk, Prince of Tennis ที่เป็นผลงานของนักเขียนท่านอื่นๆ
จุดเริ่มต้นของ กัปตัน สึบาสะ ย้อนกลับไปสมัยที่ อ.โยอิจิ ทาคาฮาชิ ยังเป็นเด็กมัธยมปลาย เขาได้มีโอกาสชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกปี ค.ศ.1978 ปีนั้นอาร์เจนติเป็นแชมป์โลก การแข่งขันของฟุตบอลที่ดุเดือดทำให้อาจารย์ ทาคาฮาชิอยากจะลองวาดการ์ตูนเกี่ยวกับฟุตบอล ซึ่งในสมัยนั้นชาวญี่ปุ่นจะฮิตเบสบอล กับซูโม่มากกว่า
3 ปีต่อมาการ์ตูนภาคแรกของสึบาสะก็ได้วางจำหน่ายออกมา ในสมัยนั้นการที่เนื้อเรื่องเล่าว่าทีมชาติญี่ปุ่นได้ไปเล่นฟุตบอลโลก และนักฟุตบอลจากเอเชียได้ไปค้าแข้งในลีกยุโรป ถูกมองว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าเด็กๆ ทุกคนมีความฝันและเมื่อได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้แล้ว พวกเขามีพลัง และแรงบันดาลใจที่จะก้าวไปให้ได้เหมือนกับ กัปตัน สึบาสะ
สมาคมฟุตบอลของญี่ปุ่นเองก็ให้การสนับสนุน เพราะการ์ตูนเรื่องนี้ทำให้เด็กๆ ญี่ปุ่นหันมาเล่นฟุตบอลอย่างมุ่งมั่น และความหวังสูงสุดของผู้เขียนเรื่องกัปตันสึบาสะ คือการเห็นญี่ปุ่นเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก... วินัยที่ดี บวกกับ ความฝันและพลังแห่งความมุ่งมั่นจะทำให้ประสบความสำเร็จได้
จงอย่าลืมความฝันนะพวกเรา...ชาวไทย